Page 130 - วารสาร 9 1_2560
P. 130

นิพนธ์ต้นฉบับ
               กานดา ศรีตระกูล, พิษณุรักษ์ กันทวี





                         2. การหาค่าความเชื่อมั่น(Relia-bility)
                 โดยการน าแบบสอบถามไปทดสอบ (Try Out) กับ
                 กลุ่มตัวอย่างในต าบลใกล้เคียงที่มีลักษณะ

                 คล้ายคลึงกับกลุ่มตัวอย่าง คือ พื้นที่บ้านสันโค้ง
                  งาม ต าบลจอมสวรรค์ จ านวน 30 คน แล้วน ามา
                 ทดสอบหาค่าความเชื่อมั่นของเครื่องมือ  โดยใช้

                 สัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาค (Cronbach’s

                 Alpha    Coefficient)  ได้ค่าความเชื่อมั่นของ
                 เครื่องมือ  0.849
                 สถิติที่ใช้ในการศึกษา                             ภาพที่ 1 ขั้นตอนการด าเนินการวิจัย
                         การวิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคลใช้สถิติ

                 พรรณนา (Descriptive  Statistics)  ได้แก่
                  ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบน
                 มาตรฐาน ส าหรับการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยการ
                 รับรู้ความเชื่อด้านสุขภาพและทัศนคติเกี่ยวกับ

                 โรคมะเร็งปากมดลูกและการคัดกรองมะเร็งปาก
                  มดลูกในก่อนและหลังการทดลองการให้โปรแกรม
                 ใช้สถิติอนุมาน (Inferential  Statistics)  ได้แก่

                 Paired  Samples  T-test  ก าหนดนัยส าคัญทาง          ภาพที่ 2 กิจกรรมแต่ละฐาน

                 สถิติที่ระดับ 0.05                         ผลการศึกษา

                 สถานที่และระยะเวลา                                เพศหญิงที่เข้ารับการตรวจคัดกรอง
                         การศึกษาครั้งนี้ด าเนินการในพื้นที่ต าบล
                                                            มะเร็งปากมดลูกเฉลี่ยอายุ 49 ปี สถานภาพ
                 ท่าข้าวเปลือก อ าเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย   สมรส ร้อยละ 91.2 มีบุตรด้วยกัน 2 คน
                 ตั้งแต่เดือน มีนาคม  2560  ถึง พฤษภาคม 2560  ร้อยละ 54.4 เฉลี่ยอายุ ที่มีเพศสัมพันธ์ครั้ง
                 โปรแกรมการรับรู้ความเชื่อด้านสุขภาพต่อ
                                                            แรก เช่นเดียวกับตั้งครรภ์ครั้งแรกคือ 20.28
                 ระดับทัศนคติในสตรีที่เข้ารับการตรวจคัดกรอง  ปี และส่วนใหญ่ไม่มีประวัติครอบครัว
                                                    7
                  มะเร็งปากมดลูก  (Health Belief Model)  จัด  โรคมะเร็งปากมดลูกมาก่อนร้อยละ 95.2
                 กิจกรรม 2 วัน ซึ่งวันที่ 1 หมู่บ้านที่เข้าร่วม ได้แก่
                                                            (ตารางที่ 1)
                 บ้านแม่ลัว บ้านท่าข้าวเปลือก บ้านแม่หะ บ้าน       จากตารางที่ 2 พบว่าหลังการให้

                 แม่แพง และบ้านแม่ลาก วันที่ 2 ได้แก่ บ้านป่าไร่   โปรแกรมการรับรู้ความเชื่อด้านสุขภาพต่อ
                 บ้านผ่านศึก บ้านผาเรือ บ้านผาแตก และบ้านศรี  ระดับทัศนคติในสตรีที่เข้ารับการตรวจคัด

                 ยางชุม เข้าร่วมโครงการ 1 วันณ ห้องประชุม
                                                            กรองมะเร็งปากมดลูกรายด้าน พบว่าระดับ
                 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพโดยมีแบ่งกิจกรรมเป็น
                  ฐานจ านวน 6 ฐาน ฐานละประมาณ 30 นาที

               130 >> เชียงรายเวชสาร :: CHIANGRAI MEDICAL JOURNAL
   125   126   127   128   129   130   131   132   133   134   135