Page 102 - คู่มือวิทยากร
P. 102

กการเสื่อมโทรมของดินมีผลโดยตรงตอการเกษตรและปาไมนอกจากท าใหผลผลิตลดลงแลวยังท าใหความ
                  สมดุลของน้ําในธรรมชาติถูกท าลาย นอกจากนี้ระบบเศรษฐกิจ รวมทั้งสภาพแวดลอมตลอดจนอุตสาหกรรม
                  และพาณิชยก็ถูกกระทบกระเทือนอยางรุนแรงเชนเดียวกัน อาทิการเกิดน้ําทวม หรือการที่ตะกอนดินลงไปทับ

                  ถมในแมน้ํา หรือเขื่อน หรือทาเรือตาง ๆ และยังมีผูใหนิยามไวอีกหลายความหมายทั้งในประเทศและตาง
                  ประเทศ

                                ดินคุณภำพต่ ำ (สำรเคมี)

                                สารมลพิษในดินมีแหล่งก าเนิดมาจากกิจกรรมของมนุษย์เป็นส าคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง

                  กิจกรรมด้านการเกษตร การอุตสาหกรรม วัสดุเหลือใช้ และน้ าทิ้งจากชุมชน จะเห็นได้ว่า แหล่งก าเนิดสาร
                  มลพิษแต่ละแหล่ง ท าให้เกิดสารมลพิษที่แตกต่าง การใช้สารเคมีฆ่าศัตรูพืชท าให้ดินเป็นแหล่งสะสมสารเคมีที่มี
                  ผลตกค้างนาน เช่น สารประเภทคลอรีนอินทรีย์ เป็นต้น สารก าจัดศัตรูพืชประเภทอนินทรีย์มักจะใช้ธาตุพิษ

                  เป็นองค์ประกอบหลัก เช่น สารหนู ทองแดง ปรอท ฯลฯ ซึ่งเป็นธาตุที่อยู่ในรูปของสารพิษในดินได้นาน

                                การใช้ปุ๋ยเคมี และการไถพรวนที่ไม่เหมาะสม เป็นการแพร่กระจายธาตุปุ๋ย และอนุภาค
                  แขวนลอยสู่แหล่งน้ า ซึ่งการชะล้างพังทลายของดินจากการใช้ที่ดินไม่เหมาะสม เช่น การเพาะปลูกพืชที่ขาดสิ่ง
                  ปกคลุมผิวหน้าดิน การท าเหมืองเปิด ฯลฯ ก็ท าให้เกิดการแพร่กระจายดังกล่าวได้เช่นกัน นอกจากนั้นแล้วการ

                  ชะล้างพังทลายหน้าดินในปริมาณมากจะท าให้อนุภาคขนาดทราย หรือกรวด เคลื่อนทับถมทางน้ า ท าให้การ
                  ระบายน้ าลดลง และอาจรุนแรงถึงขั้นท าลายที่อยู่อาศัย หรือสถานที่วางไข่ของปลาได้เช่นกัน

                                การใช้ดินที่ไม่ถูกต้อง ที่ท าให้เกิดการเร่งให้ดินเป็นกรด-ด่าง เช่น การใช้ปูนที่มากเกินไป หรือ
                  การใช้ปุ๋ยทีมีฤทธิ์ตกค้างเป็นด่างเวลานาน การท านาเกลือ ฯลฯ อาจท าให้เกิดการสะสมเกลือบริเวณผิวหน้าดิน

                  ท าให้ไม่สามารถปลูกพืชได้ผล ท าให้แหล่งน้ าในบริเวณดังกล่าวมีคุณภาพลดลงจนถึงขั้นไม่อาจน ามาใช้
                  ประโยชน์ได้ นอกจากนั้น ในกรณีที่มีเกลือบริเวณผิวดินมาก เมื่อมีการไหลของเกลือไปกับน้ าไหลบ่า จะท าให้
                  ดินและแหล่งน้ าข้างเคียงมีการสะสมเกลือเพิ่มขึ้นได้ ในสภาพที่ดินเป็นกรด หากดินนั้นมีปริมาณซัลเฟตในดิน
                  สูงจะท าให้ดินและน้ าในแหล่งนั้นเป็นกรดจัด ท าให้ธาตุอาหารพืชที่ละลายได้น้อยในสภาพกรด โดยเฉพาะอย่าง

                  ยิ่งฟอสฟอรัส เกิดการขาดแคลน และในสภาพเช่นนี้ เหล็ก และอะลูมินัม ซึ่งละลายได้ดี อาจมีมากใน
                  สารละลายดิน จนถึงระดับเป็นพิษต่อพืชได้

                                การใช้ดินเป็นแหล่งทิ้งวัสดุเหลือใช้ และการทิ้งน้ าทิ้งที่มีสารมลพิษในปริมาณสูงลงไปในดิน
                  เป็นการสะสมสารมลพิษในดินได้เช่นกัน ส่วนสารมลพิษจะเป็นชนิดใดย่อมขึ้นอยู่กับชนิดของวัสดุเหลือใช้หรือ

                  น้ าทิ้งชนิดนั้น ตัวอย่างเช่น วัสดุเหลือใช้ในการเกษตร หรือน้ าทิ้งจากบ้านเรือน อาจเป็นการสะสมสารพิษ
                  ประเภทอินทรีย์ของไนโตรเจน หรือฟอสฟอรัส แต่หากเป็นวัสดุเหลือใช้จากโรงงานอุตสาหกรรมหรือขยะจาก
                  ตัวเมือง หรือน้ าทิ้งจากโรงงานอุตสาหกรรม อาจเป็นการสะสมธาตุพิษ หรือสารพิษประเภทอนินทรีย์ในดินด้วย

                  เป็นต้น

                         5. บ ำรุงดิน

                                การพัฒนาที่ดินที่ไม่เหมาะสมต่อการเกษตรให้สามารถใช้ท าการเพาะปลูกให้เจริญเติบโตและ
                  ให้ผลผลิตได้ตามปกติ หรือ ปรับปรุงบ ารุงดินให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์เหมาะในการปลูกพืชให้เจริญเติบโตและ
                  ให้ผลผลิตดีอย่างยั่งยืน การท าการเกษตรติดต่อกันเป็นระยะเวลานานโดยขาดการปรับปรุงบ ารุงดิน เช่น การ

                  เพิ่มอินทรียวัตถุให้แก่ดิน จะส่งผลต่อสมบัติของดินทั้งทางกายภาพ เคมี และชีวภาพ ท าให้ไม่เหมาะสมต่อการ
                  เจริญเติบโตของพืช โดยหลักการปรับปรุงบ ารุงดิน คือ การจัดการเพื่อมุ่งสู่การท าให้ดินอยู่ในสภาพที่เหมาะสม
   97   98   99   100   101   102   103   104   105   106   107