Page 258 - 57 คู่มือปฏิบัติงานโรงเรียนพระปริยัติธรรม
P. 258
๒๕๗
๗. การอุทธรณ์และการร้องทุกข์
๗.๑ การอุทธรณ์
โดยอนุโลมตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๗ และ
อาศัยอ านาจตามประกาศคณะกรรมการการศึกษาพระปริยัติธรรม ว่าด้วยพนักงานศาสนการด้านการศึกษา
พ.ศ. ๒๕๕๕
เงื่อนไขในการอุทธรณ์
ผู้อุทธรณ์ ต้องเป็นผู้ที่ถูกลงโทษทางวินัยและไม่พอใจผลของค าสั่งลงโทษ ผู้อุทธรณ์ต้องอุทธรณ์
เพื่อตนเองเท่านั้น ไม่อาจอุทธรณ์แทนผู้อื่นได้
ระยะเวลาอุทธรณ์ ภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งค าสั่งลงโทษ ต้องท าเป็นหนังสือ
การอุทธรณ์โทษวินัยไม่ร้ายแรง
การอุทธรณ์ค าสั่งโทษภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน หรือลดขั้นเงินเดือนที่ผู้บังคับบัญชาสั่งด้วยอ านาจ
ของตนเอง ต้องอุทธรณ์ต่อ ประธานกลุ่มโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา ที่โรงเรียนตั้งอยู่
การอุทธรณ์โทษวินัยร้ายแรง
การอุทธรณ์ค าสั่งลงโทษปลดออกหรือไล่ออกจากการปฏิบัติงาน ต้องอุทธรณ์ต่อ ประธานกลุ่ม
โรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา ทั้งนี้การร้องทุกข์ค าสั่งให้ออกจากการปฏิบัติงาน หรือค าสั่งพัก
ราชการหรือให้ออกจากการปฏิบัติงาน ไว้ก่อน ก็ต้องร้องทุกข์ต่อ ประธานกลุ่มโรงเรียนพระปริยัติธรรม
แผนกสามัญศึกษา เช่นเดียวกัน
๗.๒ การร้องทุกข์
การร้องทุกข์ หมายถึง ผู้ถูกกระทบสิทธิหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมจากค าสั่งของฝ่ายบริหาร หรือ
คับข้องใจจากการกระท าของผู้บังคับบัญชา ใช้สิทธิร้องทุกข์ขอความเป็นธรรม ขอให้เพิกถอนค าสั่ง
หรือทบทวนการกระท าของฝ่ายบริหารหรือของผู้บังคับบัญชา ภายใน ๓๐ วัน
ผู้มีสิทธิร้องทุกข์ ได้แก่ ครูและบุคลากรทางการศึกษาครูและบุคลากรทางการศึกษา
เหตุที่จะร้องทุกข์
๑) ถูกสั่งให้ออกจากต าแหน่ง
๒) ถูกสั่งพักงาน
๓) ถูกสั่งให้ออกจากต าแหน่งไว้ก่อน
๔) ไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือคับข้องใจจากการกระท าของผู้บังคับบัญชา
๕) ถูกตั้งกรรมการสอบสวน
๘. การออกจากการปฏิบัติงาน (การปฏิบัติหน้าที่ของครูและบุคลากรทางการศึกษา)
ครูและบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา ออกจากการ
ปฏิบัติหน้าที่หรือสิ้นสุดการปฏิบัติหน้าที่เมื่อ
๑. มรณภาพ/ตาย
๒. พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่และได้รับอนุญาตให้ลาออก
๓. ลาออกจากการปฏิบัติหน้าที่และได้รับอนุญาตให้ลาออก
๔. ถูกสั่งให้ออก
๕. ถูกสั่งลงโทษปลดออกหรือไล่ออก
คู่มือปฏิบัติงาน
โรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา