Page 119 - นครรังสิตของเรา
P. 119
1. เศรษฐกิจในนครรังสิต ต่อมาชาวจีนที่เข้ามาค้าขายในประเทศไทยได้ตั้งรกรากจนกลายเป็นคนไทย
นครรังสิตในอดีตมีโครงสร้างเศรษฐกิจเป็นแบบชุมชน มีบ้าน มีชุมชน เชื้อสายจีนจนกระทั่งผสมกลมกลืนกับคนไทยทั้งทางสายเลือดและวัฒนธรรม ดังนั้น
มีหมู่บ้าน เป็นรากฐานของ คนในสังคม มีระบบการผลิตเป็นแบบยังชีพ ท�าเองใช้เอง จึงพบว่าประชากรที่เป็นคนไทยเชื้อสายจีนมักจะท�าการค้าอยู่ภายในบริเวณตัวเมือง
มีความเชื่อในธรรมชาติ และบรรพบุรุษ มีการนับถือผี และมีการปกครองตนเอง เป็นต้น รวมทั้งในเทศบาลนครรังสิตด้วย จึงท�าให้ระบบเศรษฐกิจได้เกิดขึ้นในพื้นที่ที่เป็นตลาด
ต่อมาชุมชนดังกล่าวมีวิวัฒนาการเข้าสู่ระบบเมืองซึ่งเป็นพื้นที่ของศูนย์กลางทาง หลายแห่ง เช่น ในยุคแรกบริเวณตลาดศาลเจ้าคลองหนึ่ง ตลาดล่าง และต่อมาเมื่อ
การค้าที่ให้บริการและการอ�านวยความสะดวกต่างๆ แก่ประชาชนทั่วไป ท�าให้เกิด ตลาดดังกล่าวลดความนิยมลงด้วยการเดินทางสัญจรไปมาไม่สะดวก จึงได้เกิดตลาด
ระบบเศรษฐกิจขึ้น จนกระทั่งปัจจุบันมีการค้าขายกับต่างประเทศท�าให้สามารถพัฒนา ในยุคที่สองขึ้นคือตลาดรังสิต ตลาดพรพัฒน์ และตลาดสุชาติ (กิตติ ขจรพุทธรักษา,
ขึ้นเป็นเมืองแห่งเศรษฐกิจใหม่จากผลของการปรับเปลี่ยนระบบเศรษฐกิจจากการที่มี 2559 : สัมภาษณ์) ซึ่งในปัจจุบันมีชาวจีนอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นโดยประกอบอาชีพ
ค้าขาย จึงท�าให้การพัฒนาทางเศรษฐกิจของนครรังสิตเกิดจากการมีร้านค้าและสินค้า
การผลิตแบบพอยังชีพกลายเป็นเศรษฐกิจระหว่างประเทศได้ ที่หลากหลายเพิ่มขึ้นจ�านวนมากตามความเจริญของพื้นที่นั้นๆ (ภาพที่ 2-3)
ในอดีตเศรษฐกิจในนครรังสิต อาจมีผลสืบเนื่องมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2431
ซึ่งมีการขุดคลองในที่ลุ่มภาคกลาง เพื่อให้เป็นพื้นที่เพาะปลูกข้าว ซึ่งราชวงศ์และ
ขุนนางได้สิทธิในการจับจองที่นาในครั้งนี้ด้วย ก่อให้เกิดระบบเจ้าของที่ดินและผู้เช่านา
ขึ้น ที่ดินที่เหลือจึงมีการถือครองโดยชาวนาได้อย่างอิสระ และต่อมาพื้นที่เพาะปลูกข้าว
ได้ขยายไปตามลุ่มน�้าภาคเหนือ และที่ราบฝั่งแม่น�้ามูล-ชีในภาคอีสาน ระบบกรรมสิทธิ์
เหนือที่ดินโดยกษัตริย์ ได้ปรับเปลี่ยนไปเกิดเป็นระบบกรรมสิทธิ์เอกชนขึ้นแทน
โดยการริเริ่มของรัฐ เพื่อประโยชน์ในการจัดเก็บภาษีที่นา แต่เนื่องจากที่ดินมีอยู่มาก
และชาวบ้านต้องการสิทธิท�ากินในที่ดินที่อุดมสมบูรณ์มากกว่าการเป็นเจ้าของที่ดิน
ระบบกรรมสิทธิ์เอกชนเหนือที่ดินจึงมีความเข้มแข็งขึ้น (สารานุกรมไทยส�าหรับเยาวชน
เล่มที่ 23, 2541 : ออนไลน์) ต่อมาเมื่อชาวจีนได้อพยพเข้ามาค้าขายในประเทศไทย
มากขึ้นจึงเกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจด้วยการปรับเปลี่ยนมาเป็นตัวแทนทางด้าน
กลุ่มภาพที่ 1 โรงสีข้าวในอดีตและปัจจุบัน
การค้ากับชาวต่างประเทศ ท�าให้มีรายได้เพิ่มขึ้น จึงได้เปิดกิจการโรงสีและโรงเลื่อย เป็นสิ่งที่แสดงถึงเศรษฐกิจของเทศบาลนครรังสิตในอดีตได้เป็นอย่างดี ภาพที่ 2 ตลาดรังสิตในอดีต
ขึ้นด้วยและท�าให้เศรษฐกิจดีขึ้น (กลุ่มภาพที่ 1) โดยในปัจจุบันกิจการโรงสียังคงเหลือ เป็นตลาดที่ก่อตั้งขึ้นมาพร้อมแนวคิดของการพัฒนาที่ดินโดยนายทองพูล หวั่งหลี กลุ่มภาพที่ 3 ตลาดรังสิตในปัจจุบัน
ร่องรอยของรูปแบบอาคารขนาดใหญ่ให้เห็นอยู่บ้าง เช่น โรงสีไฟที่บริเวณคลองหนึ่ง เป็นโรงสีแหล่งสุดท้ายของรังสิต ได้ปิดกิจการในปี พ.ศ.2556 ซึ่งได้แบ่งที่ดินให้กับชาวบ้านเพื่อให้ได้อยู่อาศัยด้วยกันจนกลายเป็นชุมชน เป็นแหล่งชุมชนชาวจีนและแหล่งเศรษฐกิจของนครรังสิต
และพัฒนาเป็นตลาดในเวลาต่อมา
(ใกล้กับตลาดน�้ารังสิต) ที่มาของภาพ : ตลาดรังสิต, http://www.taladrangsit.com/about_us.php?id=2
116 นครรังสิตของเรา นครรังสิตของเรา 117