Page 54 - HiPPS Capability Development Program 2558
P. 54
ติดปีกความคิด จาก HiPPS รุ่น 11
ประการที่สองต้องยื่นขอรับการส่งเสริมภายใน จากทางศูนย์ฯ ต้องเข้าร่วมโครงการ Talent
สิ้นปี 2559 และต้องมีรายได้ครั้งแรกในปี 2560 Mobility พร้อมกับมาตรการสนับสนุน
การลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาซึ่งสามารถหัก
CCEI ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ
เป็นรายจ่ายทางภาษีได้ 3 เท่าเพื่อการมุ่งสู่
ในรูปแบบคลัสเตอร์จะเป็นศูนย์ที่อ านวย
เป้าหมาย ค่าใช้จ่ายด้านวิจัยและพัฒนาโดยรวม
ความสะดวกส าหรับบริษัทที่ตั้งใหม่ที่มีศักยภาพ
ของประเทศต่อ GDP ที่ 1% ในจ านวนนี้คิดเป็น
ในการเติบโต และผู้ประกอบการ SMEs โดยจะ
สัดส่วนลงทุนของภาคเอกชนกับภาครัฐ 70:30
แบ่งการช่วยเหลือเป็น 2 ช่วงคือช่วงบ่มเพาะ
โดยที่ศูนย์ฯจะเชื่อมโยงระหว่างภาครัฐ
ธุรกิจใหม่ที่มีแนวคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ โดย
อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัย และ Talent
ไม่ต้องรอให้ธุรกิจเกิดขึ้น แต่ต้องเข้าไปเริ่มฟูม
5
Mobility Clearing House เพื่อรวบรวม
ฟักตั้งแต่มีเพียงแนวคิดสร้างสรรค์ และช่วงเร่ง
6
ข้อมูลจ านวนนักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญ และ
การเจริญเติบโตธุรกิจคือท าให้ความคิด
ข้อมูลความต้องการของภาคอุตสาหกรรม
สร้างสรรค์นั้นสามารถพัฒนาด้วยนวัตกรรมและ
โดยเฉพาะกลุ่มบริษัทที่เกิดใหม่และกลุ่ม
ผลิตออกเป็นสินค้าหรือบริการให้ใช้ประโยชน์
ผู้ประกอบการ SMEs รวมถึงการประสานงาน
เชิงการค้า และสามารถประยุกต์นวัตกรรมนั้น
สู่ภาคอื่น ๆ ให้เป็นสิ่งใหม่ๆ ที่จะเพิ่มมูลค่า
5
Talent Mobility Clearing House เป็นศูนย์รวบรวม
ของสินค้าหรือบริการที่ผลิตจากประเทศไทย ข้อมูลจ านวนนักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญ ปัจจุบัน อยู่ 4 แห่งทั่ว
ประเทศ คือ ส่วนกลางที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอม
CCEI ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ เกล้าธนบุรี ภาคเหนือที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ภาคอีสานที่
ม ห า วิ ท ย า ลั ย ข อ น แ ก่ น แ ล ะ ภ า ค ใ ต้ ที่
ในรูปแบบคลัสเตอร์จะให้การสนับสนุนทั้ง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
5 ด้าน คือ ด้านบุคลากรและนักวิจัย ด้านแหล่ง 6 ทั้งนี้เมื่อธุรกิจในคลัสเตอร์ลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา
มากขึ้นย่อมจะเกิดความต้องการบุคลากรมากขึ้น ซึ่งปัจจุบัน
เงินทุน ด้านอุปกรณ์และเครื่องมือ ด้านความรู้
บุคลากรเหล่านี้จ านวนมากอยู่ในภาครัฐและภาคอุดมศึกษา
และเทคโนโลยี และด้านสถานที่ที่ทันสมัย ขณะที่ส่วนน้อยอยู่ในภาคเอกชน การเชื่อมโยงนี้ก็จะท าให้
โดยก าหนดให้ทั้งผู้ประกอบการรายใหม่ เกิดการดึงศักยภาพของนักวิจัยไทยที่กระจุกตัวอยู่ใน
มหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยของรัฐบาลจ านวนมากมาช่วย
หรือผู้ประกอบการ SMEs ที่จะรับการช่วยเหลือ พัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมของสถานประกอบการ
ภาคเอกชนหรือภาคอุตสาหกรรมอย่างเป็นรูปธรรม และ
ดังกล่าวสามารถใช้ผลการปฏิบัติงานในภาคเอกชนเป็น พัฒนาภาคอุตสาหกรรมให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น อีกทั้งยัง
ผลงานในการขอต าแหน่งทางวิชาการหรือต าแหน่งงานอื่นๆ เป็นการเชื่อมโยงการท างานระหว่างมหาวิทยาลัยและ
รวมถึงการขึ้นเงินเดือน ตามเกณฑ์ที่หน่วยงานต้นสังกัดจะ สถาบันวิจัยของภาครัฐ ก่อให้เกิดการถ่ายทอดแลกเปลี่ยน
จัดท าขึ้น ความรู้และสร้างองค์ความรู้ใหม่ระหว่างกันด้วย
39

