Page 287 - Full paper สอฉ.3-62

การประชุมวิชาการระดับชาติ สอฉ 3 วิจัยและนวัตกรรม ครั้งที่ 2 The 2 Institute of Vocational Education : Northeastern Region 3
nd
Research and Innovation
Conference
วันที่ 6 กันยายน 2562 จ. มหาสารคาม 6 September 2019 ,Mahasarakham , THAILAND

การประชุมวิชาการระดับชาติ สอฉ 3 วิจัยและนวัตกรรม ครั้งที่ 2
nd
The 2 Institute of Vocational Education: Northeastern Region 3
Research and Innovation Conference

เรื่อง การสร้างและหาประสิทธิภาพชุดฝึกต่อวงจรไฟแสงสว่างรถยนต์
ผู้วิจัย นายสุรชัย พิจุลย์

หลักสูตรเทคโนโลยีบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีเทคโนโลยียานยนต์ (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2562)
วิทยาลัยเทคนิคร้อยเอ็ด สถาบันการอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3

บทคัดย่อ 2. วัตถุประสงค์ของการวิจัย
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์การวิจัยเพื่อ 1) เพื่อสร้างและ 2.1 เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพชุดฝึกต่อวงจรไฟแสงสว่าง
หาประสิทธิภาพชุดฝึกต่อวงจรไฟแสงสว่างรถยนต์ 2) เพื่อ รถยนต์
เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนของนักเรียน ระหว่าง 2.2 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ระหว่าง
นักเรียนที่ใช้ชุดฝึกต่อวงจรไฟแสงสว่างรถยนต์กับนักเรียนที่เรียน นักเรียนที่ใช้ชุดฝึกต่อวงจรไฟแสงสว่างรถยนต์กับนักเรียนที่เรียนแบบ
แบบปกติ โดยกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในงานวิจัย เป็นนักศึกษาระดับ ปกติ
ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง จำนวน 52 คน ได้มาด้วยวิธีการสุ่ม 3. สมมติฐานการวิจัย
ตัวอย่างแบบกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) ชุดฝึก 3.1 ชุดฝึกต่อวงจรไฟแสงสว่างรถยนต์ มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่
ต่อวงจรไฟแสงสว่างรถยนต์ 2) แบบประเมินประสิทธิภาพของ กำหนด คือ 70:70
ชุดฝึกต่อวงจรไฟแสงสว่างรถยนต์ 3.2 นักเรียนที่เรียนด้วยชุดฝึกต่อวงจรไฟแสงสว่างรถยนต์ มี
ผลการวิจัยพบว่า 1.ชุดฝึกต่อวงจรไฟแสงสว่างรถยนต์ โดย ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สูงกว่า นักเรียนที่เรียนแบบปกติ
ภาพรวมมีประสิทธิภาพ อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย ( ̅ ) = 4. ขอบเขตการวิจัย
4.1 ประชากรที่ใช้ในการวิจัย ประชากรที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่
4.74 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) เท่ากับ 0.38 ซึ้งไม่เกิน นักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง แผนกวิชาช่างยนต์
1.0 แสดงว่าผู้เชี่ยวชาญมีความเห็นสอดคล้องกันในด้านของ สาขางานเทคนิคยานยนต์ วิชางานไฟฟ้ายานยนต์ จำนวน 120 คน
ประสิทธิภาพของชุดฝึกต่อวงจรไฟแสงสว่างรถยนต์ เป็นไปตาม ปฏิบัติหน่วยระบบไฟแสงสว่างรถยนต์
สมมุติฐานที่ตั้งไว้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 4.2 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือนักศึกษาระดับประกาศนียบัตร

วิชาชีพชั้นสูง ปีที่ 2 แผนกวิชาช่างยนต์ สาขางานเทคนิคยานยนต์
1. บทนำ รายวิชางานไฟฟ้ายานยนต์ของวิทยาลัยเทคนิคร้อยเอ็ด รหัสวิชา
ปัจจุบันรถยนต์ ได้นำระบบไฟฟ้าเข้ามาควบคุมการทำงาน 3101-2007 ประจำภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 52 คน
ภายในรถยนต์เกือบทุกระบบ เช่นระบบสตาร์ท ระบบจุดระเบิด ได้มาจากการวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม ประกอบไปด้วย 3 กลุ่ม คือ
ระบบอำนวยความสะดวก ระบบไฟสัญญาณและระบบไฟแสง กลุ่มตัวอย่างที่ 1 กลุ่มที่ใช้ในการหาประสิทธิภาพ จำนวน 18 คน
สว่าง เป็นต้น ซึ่งระบบเหล่านี้วงจรมีความสลับซับซ้อนหากไม่ลง กลุ่มตัวอย่างที่ 2 กลุ่มที่เรียนโดยใช้ชุดฝึก จำนวน 18 คน กลุ่ม
มือปฏิบัติแล้วก็จะไม่เข้าใจ และไม่สามารถซ่อมบำรุงวงจรไฟฟ้าได้ ตัวอย่างที่3 กลุ่มที่เรียนโดยการจัดการเรียนรู้แบบปกติ จำนวน 16 คน
เมื่อเกิดปัญหาหรือข้อขัดข้อง เพื่อง่ายต่อการเรียนรู้ของผู้เรียน 4.3 ตัวแปรที่ศึกษา
และความเข้าใจ ผู้วิจัยพบว่าการเรียนในรายวิชางานไฟฟ้ายาน 1) ตัวแปรต้น คือวิธีการสอนได้แก่
ยนต์ หน่วยระบบไฟแสงสว่างรถยนต์ ผู้เรียนศึกษาวงจรแล้วเข้าใจ - การสอนโดยใช้ชุดฝึกต่อวงจรไฟฟ้าแสงสว่างรถยนต์
ยาก หากไม่ได้ลงมือปฏิบัติต่อวงจรด้วยตนเองก็จะไม่เข้าใจ จึงทำ - การสอนแบบปกติ
ให้ผู้เรียนบางคนไม่อยากที่จะเรียน ขาดความสนใจจึงส่งผลให้เกิด 2) ตัวแปรตาม คือ ผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนของผู้เรียน เรื่อง การ
ปัญหาดังกล่าวข้างต้น ต่อวงจรไฟฟ้าแสงสว่างรถยนต์ แบ่งเป็น 2 ด้าน ได้แก่
ดังนั้นเพื่อให้ผู้เรียนเกิดความสนใจใฝ่รู้ เพื่อนำ ไปสู่ผลสัมฤทธิ์ ด้านพุทธิพิสัยและด้านทักษะพิสัย
ทางการเรียนและความสนใจที่ดีขึ้น ผู้วิจัยจึงจัดทำการออกแบบ 3) การวิจัยครั้งนี้ใช้เนื้อหาวิชางานไฟฟ้ายานยนต์ รหัสวิชา
และสร้างชุดฝึกต่อวงจรไฟแสงสว่างรถยนต์
3101–2007 เรื่อง ระบบไฟแสงสว่างรถยนต์ ตามหลักสูตร

269