Page 8 - ชวนเทยวสารคาม2561
P. 8
พระบรมธาตุนาดูน
พระบรมธาตุนาดูน แน่นอนหลายท่านรู้จักสถานที่แห่งนี้กันดีอยู่แล้ว เพราะที่นี่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของจังหวัดมหาสารคาม สร้างขึ้นมาเมื่อ
ไม่นานมานี้แต่เรื่องราวนั้นเก่าแก่มาก ที่นี่เป็นเป้าหมายหลักของการมาเยือนจังหวัดนี้ของหลายต่อหลายคน หากไม่ได้มาไหว้พระธาตุนาดูนก็ถือว่าท่าน
ยังมาไม่ถึงเมืองสารคามหรือแม้แต่คนที่เคยมาแล้วก็มักจะได้กลับมาสักการะสถานที่แห่งนี้อยู่เนืองๆ ด้วยว่ากันว่าหากมาขอพรให้สมหวังสิ่งใดก็มักจะ
สมหวังกันทั่วหน้า นี่กระมังที่ผู้คนจึงพูดกันว่าหากมาพระธาตุนาดูนแล้วท่านก็มักจะได้กลับมาอีก
ส�าหรับท่านที่ยังไม่เคยมา ลองมาเรียนรู้เรื่องราวของสถานที่แห่งนี้ไปพร้อมๆกัน เพื่อจะได้รู้ว่าเหตุใดสถานที่แห่งจึงถูกขนานนามว่า “พุทธมณฑล
อีสาน” เริ่มกันที่เรื่องราวในสมัยโบราณที่มีเรื่องราวเล่าขานถึงนิทานเรื่อง “จ�าปาสี่ต้น” ที่มีความเกี่ยวพันกับชื่อเมืองโบราณนามว่า “นครจัมปาศรี” เมื่อ
นักโบราณคดีสืบค้นกลับพบว่า เมืองแห่งนี้นั้นมีอยู่จริงตามต�านาน โดยศูนย์กลางตั้งอยู่ที่บริเวณ อ.นาดูน มีหลักฐานทั้งโบราณสถานและโบราณวัตถุ
รวมถึงจารึกที่บ่งชี้การมีอยู่จริงของชุมชนโบราณแห่งนี้ นครจัมปาศรีรุ่งเรืองในยุคแรกราว พ.ศ.1000-1200 รับอิทธิพลศิลปะแบบทวารวดีที่รุ่งเรืองอยู่
ในยุคนั้น บริเวณลุ่มน�้าตอนกลางของดินแดนสุวรรณภูมิอันได้รับอิทธิพลทางพระพุทธศาสนาและศิลปะจากอินเดีย หลักฐานที่ชี้ชัดได้แก่พระพิมพิ์ดิน
เผาจากกรุต่างๆ ที่รู้จักกันดีในนาม “พระกรุนาดูน” หลังจากนั้นราว พ.ศ.1600-1800 นครแห่งนี้ก็ได้เปลี่ยนไปรับอิทธิพลของศิลปะแบบลพบุรี
(อารยธรรมขอมหรือเขมรโบราณ) มีการสร้างปราสาทหินที่เรียกว่า “กู่” ขึ้นหลายแห่งรายรอบไปทั่วบริเวณ ที่เด่นชัดได้แก่ กู่สันตรัตน์ กู่น้อย กู่บ้าน
แดง ในการขุดแต่ง กู่เหล่านี้มีการค้นพบโบราณวัตถุหลายชิ้น อีกทั้งยังมีการค้นพบศิลาจารึก 14 บรรทัดบริเวณ “ศาลานางขาว” โบราณสถานส�าคัญที่
อยู่ใกล้กับกู่สันตรัตน์อีกด้วย ปัจจุบันโบราณวัตถุเล่านี้ถูกเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ขอนแก่น
เรื่องราวของนครจัมปาศรี เมื่อเข้าสู่ยุคเสื่อมถอยก็เลือนหายไปหลายร้อยปี จนมาชัดเจนอีกครั้งเมื่อปี 2522 เมื่อชาวบ้าน ต.นาดูน พากันขุด
ค้นพบกรุพระพิมพ์โบราณจ�านวนมาก กรมศิลปากรจึงได้เข้าขุดค้นที่นาแปลงนี้ ปรากฏพบเป็นซากเมืองโบราณ ที่น่าตื่นเต้นก็เมื่อมีการพบสถูปจ�าลอง
ที่สูงราว 24 ซม.ด้านในมีผอบโบราณซึ่งมีถึงสามชั้นโดยชั้นนอกสุดเป็นส�าริด ชั้นกลางเป็นเงินและชั้นในสุดเป็นทองค�า ภายในบรรจุอัฐิฐาตุ ซึ่งเมื่อผู้
เชี่ยวชาญเปรียบเทียบยุคสมัยทั้งของโบราณวัตถุที่ค้นพบ รวมถึงสิ่งก่อสร้างที่รองรับสถูปนี้ไว้ ทุกอย่างชี้ชัดว่าผู้คนสมัยนั้นจะจัดเก็บและบูชาสิ่งส�าคัญนี้
ในลักษณะนี้เมื่อสิ่งนั้นคืออัฐิธาตุของพระพุทธเจ้าเท่านั้น ชัดเจนว่าชาวมหาสารคามได้ค้นพบพระบรมสารีริกธาตุส�าคัญเข้าแล้ว รัฐบาลสมัยนั้นจึงได้
ด�าริสร้างพระบรมธาตุนาดูนขึ้น เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุส�าคัญนี้ไว้ให้คงอยู่ตลอดไป การก่อสร้างได้ถอดแบบองค์พระธาตุออกมาจากสถูปจ�าลอง
ที่ขุดค้นพบนั้นเอง โดยการก่อสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ.2529 พระบรมธาตุนาดูนจึงได้อยู่คู่บ้านคู่เมืองมหาสารคามนับแต่บัดนั้นมา เห็นหรือยังว่า
อ.นาดูนนั้นมีความส�าคัญทั้งทางด้านศานาและทางด้านโบราณคดีที่ท่านต้องมาเยี่ยมชมให้ได้