Page 50 - khlongsamwa
P. 50
43
ฐานะความเป็นอยู่โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง ประชาชนในชุมชนทั้งหมดมีความรักและสามัคคี
มีความผูกพันกับคลองแสนแสบในฐานะมรดกของบรรพบุรุษ และมีมัสยิดกมาลุลอิสลามเป็นศูนย์รวม
ของประชาชนในชุมชน
กกกกกกก อิหม่ามวินัย สะมะอุน แห่งมัสยิดกมาลุลอิสลาม ผู้จุดประกายความใสสะอาดให้กับ
คลองแสนแสบบริเวณเขตคลองสามวา โดยการใช้หลักศาสนาบูรณาการกับหลักวิทยาศาสตร์ ในการ
ถ่ายทอดความรู้เรื่องสิ่งแวดล้อม และสร้างศรัทธาในการสร้างความมีส่วนร่วม ใช้งานประชาสัมพันธ์
ถ่ายทอดเสียงตามสายเพื่อเป็นสะพานเชื่อมโยง เน้นหลักการ "พัฒนาคนพัฒนาสังคม" ซึ่งท่าให้
เครือข่ายชุมชนมัสยิดกมาลุลอิสลาม กลายเป็นต้นแบบการรักษาสิ่งแวดล้อมในเมือง ท่าให้ชาวบ้าน
เกิดความเลื่อมใสและจิตส่านึกรับผิดชอบต่อส่วนรวม คลองแสนแสบเป็นทั้งเส้นทางยุทธศาสตร์และ
เส้นทางคมนาคม คลองแสนแสบเป็นคลองที่ขุดขึ้นในมาสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่ 3 เพื่อเชื่อมแม่น้่าเจ้าพระยาและแม่น้่าบางปะกง ให้เป็นเส้นทางล่าเลียงเสบียงและ
ยุทโธปกรณ์ เมื่อครั้งที่สยามยังมีศึกกับเวียดนามพื้นที่ที่ขนานสายน้่าที่มีความยาว 29 กิโลเมตร
(เขตมีนบุรี-สะพานผ่านฟ้าลีลาศ) เป็นแหล่งปลูกข้าว และเมื่อกว่าร้อยปีก่อน แถวนี้ก็คือป่าทึบ มียุงป่า
ชาวบ้านริมน้่าจึงเรียกคลองยาวว่า "คลองแสนแสบ" ถึงจะแสบ แต่สายน้่าเมื่อร้อยกว่าปีก่อนก็ใสสะอาด
เป็นทั้งแหล่งน้่าดื่ม แหล่งน้่าการเกษตร และเป็นแหล่งอาหารเมื่อกรุงเทพมหานคร กลายเป็น
ศูนย์กลางการพัฒนาด้านวัตถุอย่างต่อเนื่อง ผู้คนหลั่งไหลเข้ามาอาศัยหนาแน่น การปล่อยน้่าเสียจาก
สถานประกอบการและบ้านเรือนริมคลอง เป็นต้นเหตุท่าให้น้่าเน่าเสีย และผักตบชวาที่ขยายตัวเต็ม
ล่าคลองเป็นปัญหาหนึ่ง เล่ากันว่าความหนาแน่นของกอผักตบชวาบางจุดในคลอง ถึงขนาดคนเดิน
ข้ามฟากไปหากันได้แต่คลองแสนแสบก็ใช่ว่าจะเน่าสนิทตลอดสายน้่า หากได้ไปเยือนเขตคลองสามวา
บริเวณชุมชนในเครือข่ายมัสยิดกมาลุลอิสลาม (รางวัลลูกโลกสีเขียว ครั้งที่ 9 ปี พ.ศ. 2550 ประเภทชุมชน)
ได้เห็นวิถีชุมชนที่อาศัยอยู่ริมคลอง เก็บผักบุ้ง ตกปลา และเล่นน้่าในคลองแสนแสบ มีแพส่าหรับ
ให้อาหารปลา เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวบ้านและแขกผู้มาเยือน เห็นแล้วก็ชื่นใจเมื่อคลองแสน
แสบเป็นวิถีของคนชุมชนในเครือข่ายมัสยิดกมาลุลอิสลาม แขวงทรายกองดินใต้ เขตคลองสามวา
กรุงเทพมหานคร ชาวบ้านจึงร่วมใจกันรักษาคลองสายนี้ โดยมี นายวินัย สะมะอุน อิหม่ามมัสยิด
กมาลุลอิสลาม เป็นแกนน่า ใช้หลักศาสนากับวิทยาศาสตร์บูรณาการร่วมกันเพื่อรักษาเรื่องสิ่งแวดล้อม
กล่าวโดยสรุป ชาวมุสลิมที่อาศัยอยู่บริเวณริมฝั่งคลองแสนแสบ ในพื้นที่เขตมีนบุรีและ
คลองสามวา ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ซึ่งอิหม่ามวินัย สะมะอุน เป็นแกนน่า
ในการพัฒนาคน พัฒนาสังคมโดยใช้หลักศาสนาบูรณาการกับสิ่งแวดล้อม สร้างศรัทธาในการมีส่วนร่วม
ท่าให้ชุมชนกมาลุลอิสลาม เป็นต้นแบบการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
