Page 15 - เล่มที่ 1 สรุปสาระสำคัญ RCEP
P. 15

- 10 -                                                    - 11 -

 การลงนามในร่างความตกลงฯ พร้อมทั้งขอให้คณะรัฐมนตรีเสนอขอความเห็นชอบต่อรัฐสภาในคราวเดียวกัน โดย  บทที่ 1 บทบัญญัติเบื้องต้นและค านิยามทั่วไป
 เมื่อคณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่เสนอและให้ขอความเห็นชอบต่อรัฐสภาแล้ว กระทรวงพาณิชย์สามารถด าเนินการ  บทบัญญัติเบื้องต้นและค านิยามทั่วไป ประกอบด้วย 3 ข้อบท
 ิ
 ื่
 ให้มีการลงนามได้ เมื่อลงนามแล้วจึงเสนอเรื่องต่อรัฐสภาเพอพจารณาให้ความเห็นชอบ และเมื่อรัฐสภาให้ความ  1.1 ภาคีจัดตั้งความตกลง RCEP ให้เป็นเขตการค้าเสรี โดยสอดคล้องกบข้อ 24 ของความตกลงทั่วไปว่า
                                                                                 ั
 ั
                                      ้
 เห็นชอบแล้ว จึงจะด าเนินการแสดงเจตนาให้มีผลผูกพนตามข้อ 20.6  ของร่างความตกลงฯ ได้ ทั้งนี้ เป็นไปตาม  ด้วยภาษีศุลกากรและการคา (General Agreement on Tariff and Trade: GATT 1994) และความตกลงทั่วไป
 มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 5  กุมภาพนธ์ 2562  เรื่อง แนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการเสนอหนังสือสัญญาตาม  ว่าด้วยการค้าบริการ (General Agreement on Trade in Services: GATS) ขององคการการคาโลก (WTO)
                                                                                             ้
                                                                                     ์
 ั
 บทบัญญัติมาตรา 178 ของรัฐธรรมนูญฯ   1.2 ก าหนดค านิยามทั่วไปที่ใช้ในความตกลง
                                                 ั

    5.3.2  ตามมาตรา 178  วรรคสี่ของของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ก าหนดให้มีกฎหมาย  1.3 ระบุวัตถุประสงค์ของการจดทาความตกลง RCEP คือ ให้เป็นกรอบหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่ทันสมัย
                                                             ่
                                                                                                  ุ
                                                                                                        ิ
 ั
 ก าหนดวิธีการที่ประชาชนจะเข้ามามีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นและได้รับการเยียวยาที่จ าเป็นอนเกิดจาก  ครอบคลุม คุณภาพสูง และเป็นผลประโยชน์ร่วมกัน เพือรองรับการขยายตัวของการค้าและการลงทนในภูมภาค
 ผลกระทบของการท าหนังสือสัญญาตามมาตรา 178  วรรคสามของรัฐธรรมนูญฯ อย่างไรก็ดี ในขณะที่การจัดท า  และการพัฒนาของเศรษฐกิจโลก โดยค านึงถึงระดับการพัฒนาและความต้องการของภาคี โดยเฉพาะภาคประเทศ
                                                                                                     ี
 กฎหมายดังกล่าวยังไม่แล้วเสร็จ  จึงเห็นสมควรให้กระทรวงพาณิชย์ด าเนินการให้ประชาชนเข้ามาส่วนร่วมในการ  พัฒนาน้อยที่สุด อีกทั้งให้มีการเปิดเสรีการค้าสินค้า การค้าบริการ และการลงทุน ระหว่างกัน
 แสดงความคิดเห็นและได้รับการเยียวยาตามแนวทางที่ปฏิบัติอยู่หรือตามที่เห็นสมควร
    5.3.3 กระทรวงพาณิชย์ต้องขอความเห็นชอบบุคคลที่จะเป็นผู้ลงนาม ซึ่งหากไม่ใช่นายกรัฐมนตรี  บทที่ 2 การค้าสินค้า
                                              ้
                                                                                             ิ
                                                                                              ั
 หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ต้องให้กระทรวงการต่างประเทศจัดท าหนังสือมอบอ านาจเต็ม (Full      บทการค้าสินค้า ประกอบดวย 21 ข้อบท (แบ่งเป็น 2 ส่วนส าคัญ คือ บทบัญญัตท่วไปและการเข้า
 Powers) เว้นแต่จะเป็นที่ยอมรับระหว่างคู่ภาคีว่าไม่จ าเป็นต้องแสดงหนังสือมอบอานาจเต็มก็ให้ส่วนราชการ  สู่ตลาดของสินค้า และมาตรการที่ไม่ใช่ภาษี)

 เจ้าของเรื่องแจ้งคณะรัฐมนตรีทราบด้วย ทั้งนี้ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2556 เรื่องหลักเกณฑ ์  2.1 ภาคีจะต้องลดหรือยกเลิกภาษีสินค้าตามตารางข้อผูกพันทางภาษี (ภาคผนวก 1) และหากอตราภาษี
                                                                                                     ั
                                                          ั
 และแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการออกหนังสือมอบอ านาจเต็ม    ทั่วไปที่เรียกเก็บจริง (MFN applied rate) ต่ ากว่าอตราภาษีที่ระบุไว้ตารางข้อผูกพนทางภาษี ผู้น าเข้ามีสิทธิ์ขอใช้
                                                                                   ั
                 ั
    5.3.4 กระทรวงการต่างประเทศจะด าเนินการจัดท าหนังสือแจ้งการมีผลใช้บังคับของร่างความตกลง   อตราภาษ MFN ที่มีอัตราต่ ากว่าได รวมทั้งให้ผู้น าเข้าอาจสามารถขอคืนภาษีส่วนที่จ่ายเกินได้ หากผู้น าเข้าไม่ได้ขอ
                                            ้
                        ี
 RCEP เมื่อ (1) รัฐสภาให้ความเห็นชอบร่างความตกลง RCEP และ (2) กระทรวงพาณิชย์ได้มีหนังสือแจ้งยืนยันว่า  ใช้ภาษี MFN ที่มีอัตราต่ ากว่าตอนน าเข้าสินค้า โดยขึ้นอยู่กับกฎหมายและระเบียบข้อบังคับของแต่ละภาคี
                                           ั
 ฝ่ายไทยได้ด าเนินกระบวนการต่าง ๆ ที่จ าเป็นส าหรับการมีผลใช้บังคับของร่างความตกลง RCEP เสร็จสิ้นแล้ว   2.2 ภาคีมีการก าหนดอตราภาษีที่แตกต่างกันให้กับบางภาคี โดยภาคีผู้น าเข้าจะให้สิทธิประโยชน์ทาง
                                                                     ั
               ภาษีที่ก าหนดไว้ให้กับภาคีผู้ส่งออกส าหรับสินค้าที่มีการก าหนดอตราภาษีแตกต่างกัน ก็ต่อเมื่อภาคีผู้ส่งออกเป็น
                                                         ิ่
 6. สรุปสาระส าคัญของความตกลง RCEP รายบท   ประเทศถิ่นก าเนิดตามเงื่อนไขถิ่นก าเนิดสินค้าเพมเติมจากที่ก าหนดไว้ในบทที่ 3 (กฎถิ่นก าเนิดสินค้า) ดังนี้
 ้
 ้
    โครงสรางความตกลง RCEP ประกอบดวย 20 บท (17 ภาคผนวกแนบทายบท) คือ อารัมภบท        (1) สินค้าที่ผลิตจากวัตถุดิบที่มีถิ่นก าเนิดสินค้าภายในประเทศภาคีทั้งหมด (produced exclusively: PE)
 ้
 (1) บทบัญญัติเบื้องต้นและค านิยามทั่วไป (2) การค้าสินค้า (3) กฎถิ่นก าเนิดสินค้า (4) พิธีการศุลกากรและการ  จะต้องมีกระบวนการผลิตในภาคีผู้ส่งออกเกินกว่ากระบวนการอย่างง่าย (2) สินค้าที่ถูกระบุไว้ในเอกสารแนบท้าย
                                                            ิ่
 ื
                               ั
 ิ
 ี
 อ านวยความสะดวกทางการค้า (5) มาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพช (6) มาตรฐาน กฎระเบยบทางเทคนค   ของตารางข้อผูกพนทางภาษีจะต้องมีสัดส่วนมูลค่าเพมภายในประเทศของภาคีผู้ส่งออกไม่น้อยกว่าร้อยละ 20
 และกระบวนการตรวจสอบและรับรอง (7) การเยียวยาทางการค้า (8) การค้าบริการ (9) การเคลื่อนย้ายชั่วคราว  ของมูลค่าสินค้า ทั้งนี้ กรณีที่ภาคีผู้ส่งออกไม่สามารถท าตามเงื่อนไขดังข้างต้น ภาคีผู้น าเข้าจะใช้อตราภาษีที่
                                                                                                   ั
 ิ
 ของบุคคลธรรมดา (10) การลงทุน (11) ทรัพย์สินทางปัญญา (12) พาณิชย์อเล็กทรอนิกส์ (13) การแข่งขัน  ก าหนดไว้ให้กับภาคีที่มีสัดส่วนมูลค่าวัตถุดิบที่ได้ถิ่นก าเนิดสินค้าสูงที่สุดที่ใช้ในการผลิตแทน นอกจากนี้ ผู้น าเข้า
 ิ
 ิ
 ่
 ่
 ทางการคา (14) ความรวมมือทางเศรษฐกจและวิชาการ (15) วิสาหกจขนาดกลางและขนาดยอม (16) การ  อาจขอเลือกใช้ระหว่าง (1) อัตราภาษีสูงสุดที่ภาคีผู้น าเข้าเรียกเก็บกับภาคีที่มีส่วนในวัตถุดิบที่ได้ถิ่นก าเนิดสินค้า
 ้
 จัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐ (17) บทบัญญัติทั่วไปและข้อยกเว้น  (18) บทบัญญัติเกี่ยวกับสถาบัน  (19) การระงับข้อ  ที่ใช้ในการผลิตของสินค้าน าเข้า หรือ (2) อตราภาษีสูงสุดที่ภาคีผู้น าเข้าเรียกเก็บกับภาคีใด ๆ ใน RCEP  ไม่ว่า
                                                    ั
 ้
 ู
 พิพาท (20) บทบัญญัติสุดท้าย  และ 4 ภาคผนวกแนบท้ายความตกลง คือ ภาคผนวก 1 ตารางขอผกพนทาง  ภาคีผู้ส่งออกจะเป็นประเทศถิ่นก าเนิดหรือไม่ก็ตาม
 ั
 ู
                                                                              ั
                                                                           ู
                                   ี
 ้
                                                                                         ิ
                                                                                       ี
                                                                         ้
 ั
                                                                    ิ
 ภาษี  ภาคผนวก 2 ตารางขอผกพนเฉพาะส าหรับบริการ  ภาคผนวก 3 ตารางข้อสงวนและมาตรการที่ไม่  2.3 หากภาคปรับปรุงหรือเร่งระยะเวลาการปฏิบัตตามขอผกพนทางภาษ สทธิประโยชน์จากการ
 ู
 สอดคล้องกับพนธกรณีส าหรับบริการและการลงทน และภาคผนวก 4 ตารางขอผกพนเฉพาะในการเคลื่อนย้าย  ปรับปรุงดังกล่าวจะต้องให้กับทุกภาคี
 ุ
 ้
 ั
 ั
                                                    ้
                                                      ู
                                                                                                           ั
                                         ้
                                             ื
                                                                              ั
 ชั่วคราวของบุคคลธรรมดา   2.4 ภาคสามารถแกไขหรอถอนขอผกพนออกจากตารางข้อผกพนทางภาษของตนได้ โดยต้องได้รบ
                                                                                       ี
                                                                           ู
                                                         ั
                               ี
                                    ่
                                                    ี
                                               ่
                                    ื
                                   ี
                                                                     ิ
                      ็
                                                                                                     ้
               ความเหนชอบจากภาคอนทมสวนไดสวนเสยและเป็นไปตามมตของคณะกรรมการร่วม RCEP  และตองมีการ
                                          ่
                                        ี
                                       ่
                                              ้
                                       ี
 อารัมภบท      เจรจาชดเชยให้กับภาคีที่เกี่ยวข้อง
 ิ
 ความตกลง RCEP ซึ่งได้มีการประกาศเริ่มเจรจาเมื่อวันที่ 20 พฤศจกายน 2555 เป็นความตกลงที่มุ่ง  2.5 ภาคียกเว้นภาษีน าเข้าส าหรับสินค้าน าเข้าชั่วคราวเพอที่จะส่งออกกลับไปภายในระยะเวลาที่
                                                                         ื่
 ิ
 ึ
 ิ
 ิ
 ิ
 ให้เกิดการรวมตัวทางเศรษฐกจในภูมภาคที่กว้างและลกยิ่งขึ้น  เสรมสร้างการเจรญเติบโตและการพัฒนาทาง  ก าหนด รวมทั้งระบุเงื่อนไขที่ภาคีสามารถก าหนดได้ส าหรับสินค้าน าเข้าชั่วคราวที่ได้รับการยกเว้นภาษี ซึ่งรวมถึง
 เศรษฐกิจอย่างเท่าเทียม และพัฒนาความร่วมมือบนความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจที่มีอยู่ระหว่างภาคี โดยจะมีการ  การจัดเก็บค่าประกันที่มีจ านวนไม่เกินกว่าภาษีและค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บในกรณีน าเข้าสินค้า นอกจากน้ ภาคี
                                                                                                        ี
 ี
 ุ
 ั
 ่
 ื
 กาหนดกฎระเบียบทชัดเจนเพออานวยความสะดวกทางการค้าและการลงทน ซึ่งค านึงถึงระดับของการพฒนาที่  ยกเว้นภาษีให้กับคอนเทนเนอร์และพาเลทที่น าเข้ามาชั่วคราวและตัวอย่างสินค้าที่ไม่มีมูลค่าทางการค้าตามที่
 ่


 แตกต่างกันระหว่างภาคี การได้รับการปฏิบัติที่พิเศษและแตกต่าง โดยเฉพาะกับกัมพชา สปป. ลาว เมยนมา และ  กฎหมายและระเบียบข้อบังคับของแต่ละภาคีก าหนดไว้
 ู
 ี
 ิ่
                                                                                        ื
                                                   ื

 เวียดนาม ในระดับที่เหมาะสม  รวมถึงความยืดหยุ่นเพมเติมส าหรับภาคีที่เป็นประเทศพฒนาน้อยที่สุด โดยให้  2.6 หามภาคใช้มาตรการหามหรอจากดการนาเขาหรือสงออกสนคา นอกเหนอจากมาตรการทางภาษ ี
                                                                ้

                                  ี
                                                       ั
                                                                            ิ
 ั
                                                                               ้
                            ้
                                                                      ่
                                              ้
 ี
 ความส าคัญกับการมธรรมาภิบาลที่ดีและการสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่โปร่งใสและมั่นคง รวมถึงสิทธิของ  และค่าธรรมเนียม โดยภาคีที่ใช้มาตรการฯ จะต้องแจ้งภาคีอื่นหากมีการร้องขอ และเปิดโอกาสในการหารือให้กับ
 ภาคีที่จะออกกฎระเบียบเพื่อวัตถุประสงค์สาธารณะ   ภาคีที่อาจได้รับผลกระทบรุนแรงจากมาตรการดังกล่าว
   10   11   12   13   14   15   16   17   18   19   20