Page 19 - เล่มที่ 1 สรุปสาระสำคัญ RCEP
P. 19
- 14 - - 15 -
4.10 ก าหนดให้มีจุดตอบข้อซักถาม (enquiry point) จ านวน 1 จด หรอมากกว่า เพ่อตอบค าถามผู้ที่ บทที่ 6 มาตรฐาน กฎระเบียบทางเทคนิค และกระบวนการตรวจสอบและรับรอง
ุ
ื
ื
ั
้
ี
้
สนใจและอ านวยความสะดวกในการเข้าถึงเอกสารที่เกี่ยวข้อง บทมาตรฐาน กฎระเบยบทางเทคนิค และกระบวนการตรวจสอบและรบรอง ประกอบดวย 14 ขอบท
ู
ุ
ู
4.11 ให้มีระยะเวลาปรับตัวในการปฏิบัติตามบางพนธกรณี ส าหรับบรไนดารสซาลาม กัมพชา จีน 6.1 ให้ความส าคัญกับมาตรฐาน แนวทาง และข้อแนะน าระหว่างประเทศที่มีต่อการปรับประสาน
ั
อินโดนีเซีย สปป.ลาว มาเลเซีย เมียนมา และเวียดนาม ตามที่ระบุไว้ในภาคผนวก 4 เอ (ระยะเวลาในการปฏิบัต ิ กฎระเบียบทางเทคนิค กระบวนการตรวจสอบและรับรอง มาตรฐานแห่งชาติและการลดอุปสรรคต่อการค้าที่ไม่จ าเป็น
ั
ตามพันธกรณี) 6.2 การจดทา การนามาใช้ และการใช้มาตรฐานต้องเป็นไปตามภาคผนวก 3 ของความตกลงว่าด้วย
ั
อปสรรคทางเทคนคต่อการค้า (Technical Barriers to Trade Agreement: TBT) ภายใต้ WTO และสนบสนน
ุ
ุ
ิ
บทที่ 5 มาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช ให้หน่วยงานให้ความร่วมมือและแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับการก าหนดมาตรฐานให้ภาคีรับทราบ
ื้
บทมาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช ประกอบด้วย 17 ข้อบท 6.3 ภาคีต้องใช้มาตรฐานระหว่างประเทศหรือส่วนที่เกี่ยวข้องเป็นพนฐานในการกาหนดกฎระเบียบทาง
่
่
ิ
้
ั
็
ี
ั
ิ
5.1 ยืนยันถึงสิทธิและพนธกรณีภายใต้ความตกลงว่าด้วยการใช้บังคับมาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัย เทคนคตามขอบเขตทก าหนดไว้ในวรรค 4 ของข้อ 2 ของความตกลง TBT โดยไมเปนการจากดทางการคาเกน
้
พืช (Agreement on the Application of Sanitary and Phytosanitary Measures: SPS) ภายใต WTO กว่าความจ าเป็น รวมทั้งต้องพิจารณาเพื่อเป็นผลในการยอมรับความเทียบเท่าของกฎระเบียบทางเทคนิคของภาคี
5.2 ส่งเสริมให้มีความร่วมมือในการยอมรับมาตรการที่เท่าเทียมกัน อน แม้ว่ากฎระเบียบเหล่านั้นจะมีความแตกต่างจากกฎระเบียบของประเทศตน ระยะเวลาระหว่างการประกาศ
ื่
5.3 ส่งเสริมให้มีความร่วมมือในด้านต่าง ๆ อาทิ หลักการการปรับให้เข้ากับสภาพของภูมิภาค รวมทั้ง กฎระเบียบทางเทคนิคและการบังคับใช้ต้องสมเหตุผลหรือไม่น้อยกว่า 6 เดือน ยกเว้นในกรณีที่เกิดปัญหาเร่งด่วน
ื
์
ื
พนที่ปลอดศัตรูพชหรือโรค และพนที่ที่มีความแพร่หลายของศัตรูพชหรือโรคต่ า การวิเคราะหความเสยงต้อง เกี่ยวกับความปลอดภัย สุขภาพ การคุ้มครองสิ่งแวดล้อม หรือความมั่นคงของประเทศหรือถูกคุกคามว่าจะเกิด
ื้
ื้
ี
่
ั
่
ี
ั
่
ั
สอดคลองกับความตกลง SPS โดยมิให้กระทบต่อมาตรการฉุกเฉิน ภาคีทุกประเทศต้องไม่ระงับการน าเข้าสินค้า ปญหา และการจดทาและการประกาศใช้กฎระเบียบทางเทคนคต้องใช้รปแบบเดยวกนอย่างสมาเสมอทวทง
ั
้
ิ
ั
ู
้
ี
ของภาคีอกฝ่าย ด้วยเหตุผลเพยงว่าภาคีผู้น าเข้าก าลังทบทวนมาตรการ SPS ของตนอยู่ หากภาคีผู้น าเข้าได้ อาณาเขตของตน
ี
อนุญาตให้มีการน าเข้าสินค้าดังกล่าวแล้วจากภาคีอื่นเมื่อขณะที่เริ่มการทบทวนมาตรการดังกล่าว 6.4 ภาคีต้องใช้มาตรฐานระหว่างประเทศหรือส่วนที่เกี่ยวข้องเป็นพนฐานในการก าหนดกระบวนการ
ื้
่
ุ
ื
ิ
ิ
้
ิ
็
5.4 การตรวจสอบตองดาเนนการเปนระบบ และดาเนินการเพอประเมนประสทธิภาพในการควบคม ตรวจสอบและรับรอง รวมทั้งให้ความส าคัญในการยอมรับผลของกระบวนการตรวจสอบและรับรอง และส่งเสริม
ี
ก ากับดูแลของหน่วยงานผู้มีอานาจ และต้องให้โอกาสภาคีผู้ส่งออกในการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับผลการ ความร่วมมือระหว่างหน่วยตรวจสอบและรับรองของตน รวมถึงต้องอนุญาตให้ภาคีอกฝ่ายมีส่วนร่วมใน
ตรวจสอบ และน าข้อคิดเห็นดังกล่าวมาพิจารณาก่อนท าการสรุปและด าเนินการใด ๆ กระบวนการตรวจสอบและรับรองของตน โดยภาคต้องใหคาอธิบายในกรณไมยอมรบผลการตรวจสอบและรบรอง
ี
้
ั
ั
ี
่
5.5 ก าหนดการออกใบรับรองที่แสดงให้เห็นถึงข้อก าหนดด้านสุขอนามัยของภาคีผู้น าเข้าและออกโดย และต้องให้ค าอธิบายเมื่อปฏิเสธการเข้าร่วมด าเนินการของหน่วยตรวจสอบรับรองของภาคีอื่น เมื่อได้รับการร้องขอ
หน่วยงานผู้มีอ านาจของภาคีผู้ส่งออกเป็นภาษาอังกฤษ 6.5 สนับสนุนความร่วมมือระหว่างหน่วยงานของภาคีในการแบ่งปันแลกเปลี่ยนข้อมูลและประสบการณ์
ื
ี
่
ื
5.6 การตรวจสอบการนาเขาต้องอยบนพนฐานความเสยงด้าน SPS ที่เกี่ยวกับการน าเข้า โดยเป็นไป ความร่วมมอในสาขาทมความสนใจร่วมกน การยกระดบความร่วมมอในการพฒนาและปรับปรุงมาตรฐาน
ั
ี
ั
ั
้
ื
ู
่
้
ี
่
ตามระเบียบข้อบังคับและกฎหมายของภาคีผู้น าเข้า ผลการตัดสินหรือการด าเนินการสุดท้ายที่เกี่ยวกับการน าเข้า กฎระเบียบทางเทคนิค และกระบวนการตรวจสอบรับรอง
ื่
ของสินค้าที่ไม่เป็นไปตามข้อก าหนดของภาคีผู้น าเข้าต้องมีความเหมาะสมต่อความเสี่ยงด้าน SPS 6.6 ภาคีสามารถร้องขอให้มีการหารือทางเทคนิคเพอแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการค้าและบทบัญญัติ
5.7 ก าหนดให้มีการทบทวนมาตรการฉุกเฉินภายในช่วงระยะเวลาที่สมเหตสมผล รวมถงการ ภายใต้บทนี้ โดยให้เริ่มด าเนินการภายใน 60 วันเมื่อได้รับการร้องขอเป็นลายลักษณ์อักษร
ุ
ึ
ื้
ื่
แลกเปลี่ยนข้อมูลเพอช่วยในการทบทวนมาตรการฉุกเฉินดังกล่าว โดยอยู่บนพนฐานข้อมูลล่าสุดที่สามารถหาได้ 6.7 ภาคีต้องให้เอกสารฉบับเต็มหรือสรุปกฎระเบียบทางเทคนิคและกระบวนการตรวจสอบและรับรอง
ั
และต้องสามารถอธิบายเหตุผลของการยังคงใช้มาตรการฉุกเฉินนั้นต่อไป หากมีการร้องขอ หากมีเอกสารเป็นภาษาองกฤษอยู่แล้ว หากไม่มี ต้องสรุปข้อก าหนดกฎระเบียบและกระบวนการตรวจสอบและ
ั
ั
5.8 ในการแจ้งมาตรการ SPS ต้องเปิดโอกาสให้ภาคีได้ให้ข้อคิดเห็นเป็นลายลักษณ์อกษรอย่างน้อย 60 รับรองที่มีการแจ้งเป็นภาษาองกฤษให้แก่ภาคีที่ร้องขอ เมื่อได้รับการร้องขอภายใน 30 วัน และมีการก าหนด
วัน หลังจากด าเนินการแจ้งมาตรการ หากมีการร้องขอ ต้องให้เอกสารหรือสรุปเอกสารที่อธิบายข้อก าหนดของ ระยะเวลา 60 วัน ในการเปิดรับข้อคิดเห็นจากภาคีต่อกฎระเบียบทางเทคนิคใหม่นับจากวันที่แจ้ง WTO และหาก
ร่างมาตรการ SPS ที่แจ้งต่อองค์การการค้าโลกเป็นภาษาอังกฤษแก่ภาคีที่ร้องขอ ภายใน 30 วัน สินค้าโดนกักที่จุดน าเข้าเนื่องจากไม่เป็นไปตามกฎระเบียบหรือกระบวนการตรวจสอบรับรองให้ภาคีผู้น าเข้าแจ้ง
ั
5.9 สนบสนนความรวมมอระหว่างหนวยงานของภาคในการแบ่งปันแลกเปลี่ยนข้อมูลและประสบการณ์ เหตุผลกับผู้ประกอบการหรือผู้แทน และมีก าหนดเวลา 60 วันในการให้ข้อมูลหรือค าอธิบายให้กับภาคีที่ร้องขอ
่
ี
่
ุ
ื
ความร่วมมือในสาขาที่มีความสนใจร่วมกัน การยกระดับความร่วมมือในการพัฒนาและปรับปรุงมาตรการ SPS ระหว่างกัน 6.8 ให้มีการก าหนดจุดติดต่อ (contact point) เพืออานวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนข้อมูล
่
ื่
ื่
5.10 ให้มีการก าหนดจุดติดต่อ (contact point) เพออานวยความสะดวกในการติดต่อสื่อสาร จ านวน 1 จ านวน 1 จุด หรือมากกว่า และแจ้งให้ภาคีอนทราบ ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ความตกลงมีผลใช้บังคับ ทั้งนี้
ั้
จุด หรือมากกว่า และแจ้งภาคีอนทราบ ภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันที่ความตกลงมีผลใช้บังคับ อกทงจะต้องแจ้ง จะต้องแจ้งทันทีหากมีการเปลี่ยนแปลง
ี
ื่
รายละเอยดของหน่วยงานผู้มีอานาจ ผ่านจุดติดต่อดังกล่าว ทั้งนี้ จะต้องแจ้งหากมการเปลี่ยนแปลงจุดติดต่อและ 6.9 ภาคีต้องไม่น าบทการระงบขอพิพาทมาใช้กบบทนี้ โดยภาคต้องทบทวนการไม่ใช้บทการระงับข้อ
ี
ี
ี
ั
้
ั
หน่วยงานผู้มีอ านาจ รวมถึงปรับปรุงข้อมูลให้ทันสมัยอยู่เสมอ พิพาทหลังความตกลงมีผลใช้บังคับแล้ว 2 ป โดยในระหว่างการทบทวนจะมการพจารณาน าบทการระงบขอ
ั
้
ิ
ี
ี
้
้
5.11 จะไม่มีการน าบทการระงับข้อพพาทมาใช้กับบทนี้ จะมีการทบทวนหลังความตกลงมีผลใช้บังคับ พพาทมาใช้กับทั้งหมดหรือบางส่วนของบทนี้ การทบทวนจะตองแลวเสร็จภายใน 3 ปีนับจากวันที่ความตกลงมี
ิ
ิ
แล้ว 2 ปี โดยในระหว่างการทบทวนจะมีการพิจารณาน าบทการระงับข้อพพาทมาใช้กับทั้งหมดหรือบางส่วนของ ผลใช้บังคับ
ิ
บทนี้ การทบทวนจะต้องแล้วเสร็จภายใน 3 ปีนับจากวันที่ความตกลงมีผลใช้บังคับ โดยจะมีการบังคับใช้กับภาคี
ที่มีความพร้อม ส าหรับภาคีที่ยังไม่มีความพร้อม จะหารือกับภาคีอนและอาจมีการน ามาบังคับใช้เมื่อเข้าร่วมเป็น
ื่
ภาคีอื่นที่มีพันธกรณีที่คล้ายคลึงกัน