Page 2 - รายงานวิจัยน้ำทะเล_Neat
P. 2
ก
กิตติกรรมประกาศ
การพัฒนาและส่งเสริมชุมชนและเครือข่ายของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียให้มีความตระหนัก
และเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการการกัดเซาะชายฝั่ง ส าเร็จลงได้เนื่องมาจากความร่วมมือและ
ความช่วยเหลือ ตลอดจนการแนะน าจากหลายฝุาย
กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ร่วมกับมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ตระหนักถึง
ความส าคัญต่อการปูองกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งเป็นอย่างยิ่ง จึงได้มีการด าเนินกิจกรรม
หลากหลายรูปแบบ ทั้งการจัดสัมมนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ การอบรมให้
ความรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการวิจัยในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการใช้ไม้ไผ่ปักชะลอคลื่นที่เน้นการ
มีส่วนร่วมของชุมชนชายฝั่งในพื้นที่ 5 จังหวัด คือ จังหวัดสมุทรสงคราม สมุทรสาคร สมุทรปราการ
ฉะเชิงเทรา และชลบุรี มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 ซึ่งพบว่าประสบความส าเร็จในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม
การบริหารจัดการปูองกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งอย่างมีประสิทธิภาพจ าเป็นต้องได้รับ
ความร่วมมือจากชุมชนชายฝั่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการด าเนินงานในรูปแบบเครือข่ายชุมชนฯ จึงได้เริ่ม
ให้มีการศึกษาในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครเป็นล าดับแรกมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 ซึ่งพบว่าการด าเนินงาน
ของเครือข่ายชุมชนฯ จ าเป็นต้องมีการก าหนดโครงสร้างการบริหารที่มีตัวแทนจากต าบลต่างๆ ที่ติด
ชายฝั่งทะเล มาเป็นตัวแทนของชุมชน รวมทั้งต้องมีการก าหนดแนวทางการด าเนินงานของเครือข่าย
ชุมชนฯ ที่ครอบคลุมการจัดการชายฝั่งในทุกด้าน
เพื่อน าผลที่ได้รับจากการจัดตั้งเครือข่ายชุมชนฯ ในจังหวัดสมุทรสาครข้างต้นมาท าการ
สนับสนุนความเข้มแข็งของเครือข่ายฯ ให้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งการน าไปประยุกต์ใช้ในการปูองกันและ
แก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งของจังหวัดข้างเคียง ได้แก่ จังหวัดสมุทรสงคราม สมุทรปราการ
ฉะเชิงเทรา และชลบุรี ในการด าเนินโครงการในครั้งนี้ ซึ่งนอกจากมุ่งหวังให้เครือข่ายชุมชนฯ ทั้ง
5 จังหวัด มีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ยังได้ส่งเสริมให้แต่ละเครือข่ายชุมชนฯ ได้ด าเนิน
โครงการตามความประสงค์อย่างเป็นรูปธรรมตามศักยภาพของงบประมาณและทรัพยากรที่มีอีกด้วย
คณะผู้วิจัยขอขอบพระคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งหน่วยงานในสังกัดของกรมทรัพยากร
ทางทะเลและชายฝั่ง และหน่วยงานอื่นๆ ได้แก่ ส านักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด
สมุทรสาคร องค์การบริหารส่วนจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งก านัน ผู้ใหญ่บ้าน และ
ประชาชนที่เกี่ยวข้องใน 8 ต าบลของอ าเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร ได้แก่ ต าบลพันท้ายนรสิงห์
โคกขาม บางหญ้าแพรก บางกระเจ้า บ้านบ่อ บางโทรัด กาหลง และนาโคก ต าบลบางแก้ว จังหวัด
สมุทรสงคราม ต าบลแหลมฟูาผ่า จังหวัดสมุทรปราการ ต าบลสองคลอง จังหวัดฉะเชิงเทรา และ
ต าบลคลองต าหรุ จังหวัดชลบุรี ที่ให้ความอนุเคราะห์ในการศึกษาครั้งนี้ลุล่วงไปได้ด้วยดี
ท้ายที่สุด ผู้วิจัยใคร่ขอขอบคุณส านักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติที่ได้ให้ทุนอุดหนุนการวิจัย
ประจ าปีงบประมาณ 2559
คณะนักวิจัย
มกราคม 2561