Page 161 - AW_Act_of_Legislation_Soil_2543
P. 161
-๒-
ุ
ํ
ิ
ิ
ิ
ิ
กําหนดใหผูที่จะดาเนนการขดดนที่มีความลึกจากระดบพื้นดนเกินสามเมตรหรือมีพื้นที่ปากบอดน
ั
ึ่
ั
ิ่
เกินหนงหมื่นตารางเมตร หรือมีความลึกหรือพื้นที่ตามที่เจาพนกงานทองถนประกาศกําหนดใหแจงตอ
ิ่
ื่
ั
เจาพนักงานทองถิ่นตามแบบที่เจาพนกงานทองถนกําหนดและยนเอกสารแจงขอมูลตามที่กําหนด ถาผูแจง
ู
ํ
ั้
ิ
ไดดาเนนการโดยถกตองแลว ใหเจาพนกงานทองถนออกใบรับแจงใหแกผูนนภายในเจ็ดวนนบแตวนที่ไดรับแจง
ั
ิ่
ั
ั
ั
ถาการแจงเปนไปโดยไมถูกตอง ใหแจงใหแกไขใหถูกตองภายในเจ็ดวัน ถาผูแจงไมแกไขใหถูกตองภายในกําหนด
ใหเจาพนักงานทองถิ่นออกคําสั่งใหการแจงนั้นเปนอันสิ้นผล กรณีนี้ขอเท็จจริงปรากฏวา เปนการขดบอดนลูกรัง
ุ
ิ
ในพื้นที่ปาไม ซึ่งผูดําเนินการจะตองไดรับความยินยอมจากกรมปาไมซึ่งเปนหนวยงานดูแลรับผิดชอบพื้นที่ปาไม
ํ
ิ
ิ
ํ
ุ
และอนญาตใหผูดาเนนการสามารถขดตกดนไดเสียกอน จึงจะสามารถนาเอกสารที่ไดรับอนญาตนน
ั้
ั
ุ
ุ
ิ
ุ
ั
ั้
ุ
ั
ั
ิ่
ไปประกอบในการดาเนนการแจงการขดดนตอเจาพนกงานทองถนได ดงนน เมื่อผูแจงยงมิไดรับอนญาต
ิ
ํ
ั
ึ
ุ
จากกรมปาไมใหขุดตักดินในพื้นที่ดังกลาว มีเพียงเอกสารการอนุญาตใหแผวถางปา ซึ่งไมครอบคลุมถงการขดตกดน
ิ
ิ
ื
ุ
ั
ิ่
ิ
ั
จึงไมสามารถใชเอกสารดงกลาวถอเปนเอกสารยนยอมใหขดดนไดเจาพนกงานทองถนจึงชอบที่จะ
ุ
ํ
ิ
ไมออกใบรับแจงใหกับผูแจงแตจะตองแจงใหแกไขโดยใหนาเอกสารการไดรับอนญาตใหขดดน
ุ
ํ
จากกรมปาไมมาประกอบในการแจงภายในระยะเวลาที่กําหนด เมื่อผูแจงไมสามารถดาเนนการใหถกตอง
ู
ิ
ั้
ภายในระยะเวลาที่กําหนดเจาพนกงานทองถนก็มีอํานาจสั่งใหการแจงนนสิ้นผลตอไป แตเนองจากกรณน้ ี
ี
ื่
ั
ิ่
เทศบาลฯ ไดออกใบรับแจงใหกับผูดาเนนการไปแลวและในภายหลังเห็นวา ผูแจงยงมิไดรับอนญาตใหขดดน
ั
ุ
ุ
ิ
ํ
ิ
ั
ิ
ในที่ดนดงกลาวจากกรมปาไม เทศบาลฯ ซึ่งเปนผูออกใบรับแจงก็ไดพิจารณาเพิกถอนใบรับแจงตามหลักเกณฑ
ื
ตามกฎหมายวาดวยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองแลว เน่องจากอํานาจในการเพิกถอนใบรับแจง
ั
ซึ่งถือเปนคําสั่งทางปกครองเปนของเจาหนาที่หรือผูบังคบบัญชาของเจาหนาที่ตามมาตรา ๔๙ แหงพระราชบัญญัติ
วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ คณะกรรมการฯ จึงไมอาจใหความเห็นได
๒. กรณีหารือวาหากที่ดินดังกลาวอยในเกณฑที่จะตองขออนุญาตตามมาตรา ๙
ู
ุ
ิ่
แหงประมวลกฎหมายที่ดิน จะตองใหผูดําเนินการแจงการขดดนตอเจาพนกงานทองถนอีกหรือไมนน เห็นวา
ิ
ั้
ั
ั
ิ
ตามมาตรา ๕ แหงพระราชบัญญัติการขุดดินและถมดิน พ.ศ. ๒๕๔๓ กําหนดใหพระราชบัญญัตนมิใหใชบังคบ
ี้
ิ
แกการขุดดนและถมดินซึ่งกระทําไดโดยอาศัยอํานาจตามกฎหมายอื่นที่ไดกําหนดมาตรการในการปองกันอันตราย
ี
ิ
ุ
ไวตามกฎหมายนั้นแลว กรณการไดรับอนุญาตตามมาตรา ๙ แหงประมวลกฎหมายที่ดนเปนการอนญาต
ิ
ิ
ุ
ิ
ใหสามารถใชประโยชนในที่ดนของรัฐมิไดมีเจตนารมณเพื่อการปองกันอันตรายในการขดดนและถมดน
ิ
ํ
เปนการเฉพาะ ดังน้น แมผูดาเนินการจะไดรับอนญาตตามกฎหมายดงกลาวแลวก็ยงคงตองปฏบัตตาม
ิ
ุ
ั
ั
ั
พระราชบัญญัติการขุดดินและถมดิน พ.ศ. ๒๕๔๓ ดวย
/๓. กรณีหารือ
หนา ๑๔๑