Page 13 - E-book พระบรมมหาราชวัง
P. 13

ทําด้วยทองคําประดับเนาวรัตน์ โดยเครื่องทรงทั้ง 3 ฤดู องค์เก่า โปรดเกล้าฯ ให้นําไป
               ประดิษฐานที่พิพิธภัณฑ์วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
                   พระราชประเพณีการเปลี่ยนเครื่องทรงพระแก้วมรกต กระทําปีละ 3 หน คือ

                       1. วันแรม 1 คํ่า เดือน 4 เพื่อทรงเครื่องสําหรับฤดูร้อน
                       2. วันแรม 1 คํ่า เดือน 8 เพื่อทรงเครื่องสําหรับฤดูฝน
                       3. วันแรม 1 คํ่า เดือน 12 เพื่อทรงเครื่องสําหรับฤดูหนาว




























                       ด้านหน้าฐานชุกชีจะประดิษฐานพระพุทธรูปยืนทรงเครื่อง ปางห้ามสมุทร 2 องค์

               สูง 3 เมตร สร้างโดยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว องค์ด้านทิศเหนืออุทิศถวาย
               เป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระอัยกา พระราชทานนามพระพุทธรูปว่า “พระพุทธยอดฟ้ า
               จุฬาโลก” สําหรับองค์ทางด้านทิศใต้ทรงอุทิศถวายสมเด็จพระบรมชนกนาถ พระราชทาน

               นามพระพุทธรูป “พระพุทธเลิศหล้าสุลาลัย” และโปรดเกล้าฯ ให้ประชาชนขานพระนาม
               พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 1 และ รัชกาลที่ 2 ตามพระนามพระพุทธรูปทั้ง 2

               องค์นี้
                       บริเวณฐานชุกชียังประดิษฐานพระพุทธรูปทรงเครื่อง ปางห้ามสมุทร อีก 10
               องค์ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้สร้างเพื่ออุทิศถวายเป็นพระ

               ราชกุศลแด่เจ้านายฝ่ายหน้าและฝ่ายใน
                       ด้านหน้าฐานชุกชีมีพระพุทธรูปสําคัญอีกองค์หนึ่ง คือ พระสัมพุทธพรรณี ห่ม
               จีวรเฉียงมีริ้ว ประทับนั่งปางสมาธิ สร้างขึ้นโดยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

               เมื่อครั้งยังทรงผนวชและจําพรรษาอยู่ที่วัดราชาธิวาส พระพุทธรูปองค์นี้มีพุทธลักษณะที่
               แตกต่างจากพระพุทธรูปองค์อื่นๆ คือ ไม่มีพระเกตุมาลา พระรัศมีเป็นเปลวไฟ มี 3 องค์

               คือ สีทองสําหรับฤดูร้อน สีนํ้าเงินสําหรับฤดูฝน และสีหยาดนํ้าค้าง (แก้วใส) สําหรับฤดู
               หนาว โดยจะเปลี่ยนคราวเดียวกับพระราชพิธีเปลี่ยนเครื่องทรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิ
               มากร
   8   9   10   11   12   13   14   15   16