Page 12 - _Neat
P. 12

5

                 1.2.7 ลักษณะทางสังคม ไดแก ทาที การปฏิบัติตอสังคมและสิ่งแวดลอม เชน ชอบออกงานสมาคม มี

          เมตตาปราณี เห็นอกเห็นใจผูอื่น มีความเสียสละ เปนตน


                 1.3 ความสําคัญของบุคลิกภาพ


                 ปจจุบันมนุษยทุกคนมีบทบาทในสังคมมากขึ้นทั้งหญิงชาย เด็ก ผูใหญ และทุกเพศทุกวัย ตางมีฐานะและ

          บทบาทในสังคม มีความสัมพันธ มีการทํางานติดตอสื่อสารกัน มีการเกี่ยวพันกันเพิ่มมากขึ้น และโดยธรรมชาติ


          ของมนุษยมักจะตัดสินใจดวยความคิดเห็นของตนเองเมื่อพบเห็นหรือสัมพันธกับบุคคลวาคนนี้เปนคนใจดีมี

          เมตตา หรือคนนี้หนาตาทาทางนากลัวอาจเปนคนไมดีก็ได ซึ่งเปนการตัดสินใจดูแตภายนอกเทานั้น แตเมื่อได

          พูดคุยคบหาหรือทํางานรวมกันความรูสึกที่ไมดีมากอนอาจเปลี่ยนไปในทางที่ดี นั่นเปนเพราะเราดูแตการ

          แสดงออกแตภายนอกเทานั้น แตเมื่อเราคบหากับเขาแลวเขาไดแสดงบุคลิกภาพภายในออกมาใหเห็น เราจึงมี

          ความรูสึกหรือเจตคติที่เปลี่ยนไปในทางที่ดี ดังนั้นการที่บุคคลมีบุคลิกภาพที่ดีแสดงพฤติกรรมที่ดี เหมาะสมกับ


          กาลเทศะ ยอมเปนที่ยอมรับของสังคม สามารถอยูในสังคมเหลานั้นไดอยางมีความสุข


                 1.4 องคประกอบของบุคลิกภาพ


                 1.4.1 พันธุกรรม (Heredity) เปนสิ่งที่ติดตัวมากับทารกตั้งแตเกิด ซึ่งอาจเปนผลของพันธุกรรมที่ไดรับ

          การถายทอดมาจากบรรพบุรุษ หรืออิทธิพลตางๆ ที่มีตอทารกกอนคลอดสิ่งตางๆ เหลานี้จะเปนตัวกําหนด

          ทิศทางและขอบเขตของการพัฒนาบุคลิกภาพในระดับหนึ่ง เชน รูปราง หนาตา ลักษณะสีผิว ชนิดของโลหิต


          สติปญญา ระบบประสาท ความสมบูรณหรือ พิการของรางกาย ลักษณะทางอารมณ เปนตน


                 1.4.2 สิ่งแวดลอม (Environment) สิ่งแวดลอมหมายถึงสิ่งที่อยูรอบๆ ตัวบุคคลและเปนสิ่งที่เขามา

          เกี่ยวของทั้งที่เปนสิ่งที่มีชีวิตและไมมีชีวิต รวมทั้งขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรมการอบรมเลี้ยงดู สภาพ

          ภูมิศาสตรและสถาบันตางๆ


                 สิ่งแวดลอมมีอิทธิพลตอบุคลิกภาพมาก โดยเริ่มตั้งแตทารกยังอยูในครรภมารดามีอิทธิพลตอการสราง

          บุคลิกภาพตั้งแตเกิดจนกระทั่งตาย ในวัยเด็กครอบครัวมีอิทธิพลตอบุคลิกภาพมาก เด็กมีแนวโนมที่จะเลียนแบบ


          พอแมหรือบุคคลในครอบครัว ทั้งเจตคติ คานิยม อารมณและแบบพฤติกรรมของบุคคลในครอบครัว ระยะนี้เด็ก

          อยูในสิ่งแวดลอมวงจํากัด ฉะนั้นสิ่งที่พบเห็นมีผลตอเนื่องไปจนกระทั่งเจริญเติบโต ยิ่งโตมากขึ้นยิ่งพบเห็น

          สิ่งแวดลอมเพิ่มมากขึ้น เด็กไดเรียนรูและเริ่มสรางแบบแผนพฤติกรรมของตัวเองขึ้นมาใหม ซึ่งเปนผลมาจาก

          สิ่งแวดลอมที่ไดรับการสั่งสมมาเรื่อยๆ และเมื่อรวมเขากับพันธุกรรมจึงทําใหลักษณะบุคลิกภาพของแตละบุคคล

          เดนชัดขึ้น
   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16   17