Page 15 - _Neat
P. 15

8

                 1.5.2 วัยเด็กตอนตน (Children) อายุ 3-5 ป


          พัฒนาการในวัยนี้เด็กจะเลียนแบบบิดามารดาหรือบุคคลในครอบครัว เชนพฤติกรรม เจตคติ คานิยม อารมณ

          เปนวัยที่เด็กผูกพันกับครอบครัวมาก และจากการวิจัยของนักจิตวิทยา พบวาเด็กที่แยกจากบิดามารดาเปนระยะ

          นานๆ เด็กจะแสดงอาการไมมีความสุขอยางเดนชัดและมักแสดงพฤติกรรมกาวราว สวนเด็กที่มีพอเลี้ยงหรือมีแม


          เลี้ยง ขึ้นอยูกับการปฏิบัติของผูใหญที่มีตอเด็กและหากบิดามารดามีการหยาราง หรือบิดามารดาตายเด็กจะมี

          การปรับตัวมาก เด็กในวัยนี้จะมีความคิดเห็นตอตนเอง โดยเด็กจะสังเกตจากปฏิกิริยาของผูใหญที่มีตอตนซึ่งจะ

          ทําใหเกิดความคิดเห็นตอตนเองวาเปนคนดีหรือไม มีความสามารถมากนอยเพียงใด ถาผูปกครองตั้งระดับ

          ความหวังไวสูงเกินไป เด็กไมมีความสามารถพอที่จะทําได มีแนวโนมวาจะไมประสบผลสําเร็จ จะทําใหเด็กเกิด

          ความรูสึกไมดีตอตนเอง อาจเกิดความรูสึกเปนปมดอยวาตนไมมีความสามารถ การอบรมเลี้ยงดูมีผลตอ


          บุคลิกภาพของเด็กมาก เด็กบางคนมีลักษณะเอาการเอางาน มีความรับผิดชอบ เพราะบิดามารดาฝกหัดใหเปน

          ตัวอยางที่ดีแกนองๆ เด็กบางคนมีอารมณออนไหวงาย ทั้งนี้อาจเนื่องมาจากบิดามารดาลําเอียงรักลูกไมเทากัน

          ความแตกตางระหวางบุคคลในวัยเด็กนี้จะปรากฎชัดเจน คือเด็กบางคนมีลักษณะการเปนผูนํา บางคนมีลักษณะ

          เปนผูตาม บางคนชอบเขาสังคมสนุกสนาน บางคนชอบอยูเงียบๆ ชอบหนีสังคมทั้งนี้ขึ้นอยูกับประสบการณและ

          การไดรับการอบรมฝกฝนมาจากบิดามารดา นอกจากนี้ความแตกตางระหวางเพศเกี่ยวกับบุคลิกภาพจะปรากฏ

          ชัดเจนในวัยนี้เชนเดียวกัน เด็กชายมักมีลักษณะเปนผูนําคลองแคลววองไวปราดเปรียว เด็กหญิงจะเชื่อฟง สุภาพ

          ออนหวาน เรียบรอย ความแตกตางเหลานี้อาจเกิดจากการเลียนแบบพฤติกรรมของบิดามารดา หรืออาจเกิดจาก


          การอบรมสั่งสอนใหเด็กมีบทบาทตามเพศของตน


                 1.5.3 วัยรุนตอนตน อายุ 13-16 ป


          อายุ 13-16 ป ถือวาเปนวัยที่เขาสูวัยรุน เด็กในวัยนี้ในเรื่องบุคลิกภาพ เด็กจะมีลักษณะไมมีความเชื่อมั่นใน

          ตนเอง มีเจตคติที่ไมดีตอตนเอง ไมพอใจในตนเองในเรื่องของรูปราง หนาตา ผิวพรรณ และสัดสวนของตน ทั้งนี้

          อาจเนื่องมาจากวัยนี้การพัฒนาการของรางกายยังไมพัฒนาไปถึงขีดสุด เด็กจะมีความวิตกกังวลกับการ


          เปลี่ยนแปลงของรางกาย และอารมณ เชน มือเทาใหญเกินไป แขนขายาว ผิวพรรณไมเกลี้ยง รูปรางไมสมสวน

          ซึ่งรางกายจะเปนเชนนี้ชั่วคราวเทานั้น เด็กในวัยนี้ไมเขาใจทําใหคิดวาตนเองผิดปกติ นอกจากนี้ความ

          เจริญเติบโตของรางกายในวัยนี้ทําใหเด็กเกิดความรูสึกเกงกาง ไมทะมัดทะแมง เด็กจะรูสึกรําคาญและอายถาถูก

          วิจารณ จึงทําใหเด็กรูสึกผิดปกติมากขึ้น


                 เด็กในวัยนี้จะมีการปรับตัวอีกระดับหนึ่งจึงทําใหมีกิริยาอาการเปลี่ยนแปลงไปบางครั้งมีพฤติกรรมดี ไม

          ถูกตองเหมาะสม หรือมีพฤติกรรมที่สังคมไมยอมรับ บางครั้งโดนดุวาโตแลวยังทําตัวเปนเด็ก เด็กจะเกิดความ


          สงสัยวาอะไรคือความพอดี และอีกประการหนึ่งที่เปนสาเหตุทําใหเด็กมีเจตคติที่ไมดีตอตนเอง คือเด็กไมประสบ
   10   11   12   13   14   15   16   17   18   19   20