Page 51 - Final
P. 51

39























                                         ภำพที่ 2.33 ภำพตัวอย่ำงกำรใช้งำนโปรแกรม Flip PDF

                                                      ที่มำ : Bitsdujour, 2553


                       2.10 ทฤษฎีการวาดบทภาพ

                               อิศเรศ ภำชนะกำญจน์ (2557) กล่ำวถึง แอนิเมชันว่ำคือ กำรสร้ำงภำพเคลื่อนไหว โดยกำร
                       ฉำยภำพนิ่งหลำยๆ ภำพต่อเนื่องกันด้วยควำมที่เหมำะสม ซึ่งหลักกำรจะคล้ำยๆ กับกำรฉำย

                       ภำพยนตร์แต่ภำพยนตร์จะเป็นกำรใช้ฟิล์ม โดยในแต่ละเฟรมของฟิล์มก็จะเป็นภำพนิ่งเช่นกัน เมื่อ

                       น ำมำฉำยภำพต่อเนื่องกันด้วยควำมเร็ว 24 เฟรมต่อวินำที ก็จะท ำให้เกิดภำพเคลื่อนไหวที่เรียกว่ำ
                       ภำพยนตร์นั้นเอง



                                      2.10.1 ความหมายของการวาดบทภาพ
                                  สตอรี่บอร์ด คือ กำรเขียนภำพนิ่งและข้อควำมเพื่อก ำหนดแนวทำงในกำรถ่ำยท ำหรือผลิต

                       ภำพเคลื่อนไหวในรูปแบบต่ำงๆ เช่น ภำพยนตร์ โฆษณำ กำร์ตูน สำรคดี เป็นต้น เพื่อก ำหนดกำรเล่ำ

                       เรื่องล ำดับเรื่องจัดมุมกล้อง ก ำหนดเวลำ ซึ่งภำพที่วำดไม่จ ำเป็นจะต้องละเอียดมำก แต่บอก
                       องค์ประกอบส ำคัญได้ มีกำรระบุถึงต ำแหน่งของตัวละครที่มีควำมสัมพันธ์กับฉำกและตัวละครอื่นๆ

                       กรอบแสดงภำพและมุมกล้อง แสงเงำ เป็นกำรสเกตซ์ (Sketches) ภำพของเฟรม (Frame) ต่ำงๆ
                       จำกบทเปรียบเสมือนกำรวำดกำร์ตูนในกรอบสี่เหลี่ยมแต่ละช่อง


                                 2.10.2 ส่วนประกอบของบทภาพ

                                 บทภำพจะประกอบไปด้วยชุดของภำพสเกตซ์ของเฟรมต่ำงๆ พร้อมค ำบรรยำยหรือบท

                       สนทนำในเรื่อง ซึ่งอำจจะเขียนเรื่องย่อและบทก่อนหรือสเกตซ์ภำพก่อน แล้วจึงใส่ค ำบรรยำยลงไป
                       อำจมีบทสนทนำหรือไม่มีบทสนทนำก็ได้ และส ำหรับกำรก ำหนดเสียงในแต่ละภำพต้องพิจำรณำว่ำ

                       ภำพและเสียงไปด้วยกันได้หรือไม่ไม่ว่ำจะเป็นเสียงดนตรี เสียงธรรมชำติหรือเสียงอื่นๆ
   46   47   48   49   50   51   52   53   54   55   56