Page 29 - ตำนานการสวดพระมาลัย
P. 29
๒๓
และทั้งหมดทะยานเข้าใส่สัตว์นรกพวกนั้น เหมือนเสือร้าย ที่กําลังกระหายหิว ต่างตัวต่างกระ
ิ้
โดยเข้าขย้ําค้ําคอเหยื่อของมันให้ด่าวดนลงสู่ภาคพื้น และกัดกินเลือดเนื้ออย่างเอรดอร่อย ท่างกลาง
็
เสียงร้องโอดโอย และพยายามดิ้นรนทุรนทุราย หนีพวกสัตว์นรกอย่างสุดแรงเกิด
ั้
ยิ่งไปกว่านน ในช่วงเวลาต่อมาไม่ถึงอึดใจ ยังมิทันที่สุนัขพวกนนจะกินอิ่ม ก็มีแร้งใหญ่ขนาดเท่า
ั้
เรือนเกวียนโถมถลาลงมาจากอากาศ ขับไล่สุนัขทั้งหมด ให้หนีไป แล้วจิกทิ้งกินเนื้อสัตว์นรกเหล่านั้น
จนเหลือแต่กระดูกในพริบตา
"ที่นี่มีชื่อว่า แดนหอกดาบร่วง ขอรับ พระคุณเจ้า" ยมบาลสาธยาย "สัตว์นรกต้องมาเสวยทุกข ์
ทรมาณอยู่ในดินแดนนี้ แต่ชาติก่อนได้ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตด้วยการเป็นพรานล่าเนื้อ ไล่ต้อน ทิ่มแทงสัตว์
่
อื่น ด้วยหอก และเอาไฟเผาปุา ครอกสัตว์ตายอยางทารุณโหดร้าย พระคุณเจ้า"
"แหม! น่าอัศจรรย์แท้" พระมาลัยพึมพําเบาๆ
้
"ยังมีที่น่าอัศจรรย์กว่านี้มากขอรับ นิมนต์ตามขาพเจ้ามาเถอะ ข้าพเจ้าจะพาไปดู" ว่าพลาง
ยมบาลก็รีบเดิน ออกหน้าพระเถระไปยังแดนอื่นโดยไม่รอช้า
ต่อมา ก็มาถึงที่โล่งแห่งหนึ่ง ซึ่งแลเห็นแม่น้ําเหยียดยาวขวางกั้น เป็นเส้นขนานอยู่เบื้องหน้า ทั้ง
สองฟากฝ๎่งมีเครือหวายอันใหญ่มหึมา เท่าตนมะพร้าวขนาดเขื่องขึ้นสลับซับซ้อน และเกี่ยวพันกันเต็ม
้
ึ่
ไปหมด แทบจะไม่มีเถาวัลย์ หรือ พันธุ์ไม้ใดๆเจือปน ราวกับมีคนหนงคนใด จงใจมาปลูกไว้ฉะนั้น
และดูเหมือนตลอดฟากฝ๎่งที่มาถึงนั้น จะมีที่ซึ่งเครือหวายเหล่านั้น ยอมเว้นว่างให้เพียงช่องทาง
ั้
เล็กๆ พอเดินเข้าไปในอาณาบริเวณของแม่น้ําได้ช่องเดียวเท่านนเอง
"ที่นี่คือ แดนเครือหวาย ขอรับพระคุณเจ้า" ยมบาลแนะนําขณะที่พาพระเถระ ไปยืนอยู่ที่ฝ๎่ง
แม่น้ําแห่งนน ตลอดสองฝ๎่งแม่น้ํา มีตนหวายขนเต็ม ทั้งเครือทั้งหนามของมันคมยิ่งกว่ามีดโกน
ึ้
ั้
้
้
ี
สามารถบาดร่างกายของสัตว์นรกให้ขาดสะบั้นหั่นแหลก เป็นท่อนน้อยท่อนใหญ่ไดดีทีเดยว
"สัตว์นรกที่มาได้รับกรรม ณ แดนนี้ เพราะทําความชั่วอะไรไว้หรือท่าน?" พระมาลัยซัก
"ส่วนมาก็เป็นพวกฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ด้วยการเอาเครื่องดักวาง ซุ่มซ่อนลวงไว้นั่นแหละขอรับ สัตว ์
อื่นๆ ที่เดนผ่านมา ไม่ทนได้ระวังตัว ก็ตดเครื่องดักของเขาเข้าจนได้ รับความทรมาณอย่างแสนสาหัส"
ิ
ั
ิ