Page 32 - ตำนานการสวดพระมาลัย
P. 32
๒๖
สําหรับจับสัตว์นรก มานอนหงายแล้วตักน้ําทองแดงในกระทะ มากรอกปาก ให้ปากคอและท้องไส้
ถูกเผาไหม้แตกพังทลายตายไปในที่สุด
แดนกระทะทองแดงนี้ เป็นแหล่งลงโทษนักดื่มเหล้าคอทองแดงทั้งหลาย พวกที่เช้าเมาเย็นเมา
้
ระวังไว้ให้ดีเถอะ ตายไป จะถูกนําตัวไปนอนหงายกรอกน้ําทองแดง ณ แดนนี้จนได
ั้
และทันทีที่เดินผ่านหม้อกระทะทองแดงนนไป ก็มาถึงปุางิ้วใหญ่ ซึ่งมีต้นงิ้วสูงยิ่งกว่าต้นไม้ใด ใน
เมืองมนุษย์ ยิ่งไปกว่านั้น แต่ละต้นมีหนามแหลมคม เป็นเหล็กยาวชี้ออกมา พร้อมด้วยเปลวไฟติดโชน
อยู่ทั่วทุกอัน
นี่คือ ดงต้นงิ้ว ที่บรรดาชายหญิง ผู้ไม่รู้จักอิ่มในรสสวาท เที่ยวนอกใจผัวนอกใจเมีย ไปเสพสุข
กับคนที่เขามีเจ้าของอื่นๆ พากันกลัวนักกลัวหนา ถึงกับบางคน ก่อนจะตาย ได้สั่งให้ญาติเอาขวาน
่
ใหญ่ใส่ในโลง จะได้เอาขวานนนไปโคนต้นงิ้วในเมืองนรกเสียนั่นเอง
ั้
พอดีขณะนั้น ผู้คุมในแดนนี้ กําลังไล่ให้สัตว์นรกตัวเมีย ปุายปีนขึ้นไปตามความสูงลิบลิ่ว ของตน
้
ั
งิ้วนั้น และไล่ตัวผู้ขึ้นตามไป ครั้นขัดขนก็เอาหอกแทงส่งขึ้นไป ทั้งตัวเมียตวผู้ถูกหนามงิ้วทิ่มแทงทั่ว
ื
ร่าง ร้องเจ็บปวดครวญครางออกมาไม่ขาดระยะ
ู
แต่ดเหมือนจะยิ่งร้องครวญครางเท่าใด เหล่าผู้คุมก็ส่งขึ้นไปด้วยหอกคู่มือเท่านั้น และพอแข็งจิต
้
้
แข็งใจขึ้นไปไดครึ่งตน ก็มีกาปากเหล็กตัวใหญ่ โผถลาเข้ามาจิกเนื้อกินเป็นพัลวัน ทั้งตัวเมียและตัวผู้
ต่างก็สู้ทนความเจ็บปวดต่อไปไม่ไหว เลยปล่อยร่างหงายผึ่งลงมาสิ้นใจอยู่เบื้องล่าง
ั
ั
ั้
ทุกสิ่งทุกอย่างน่าจะอวสานเพียงแค่นั้น แต่ในทนทีนนเอง มีสุนขตัวใหญ่เท่าช้างหลายตอหลาย
่
ตัว ซึ่งคอยทีอยู่เบื้องล่าง พอเห็นร่างของสัตว์นรกเหล่านั้นหงายผึ่งลงมา ก็โจนฟ๎ดเนื้อหนังกิน จน
เหลือแค่กระดูก
่
ความจริง อันรสสวาทนั้นจะก่อให้เกิดความชนมื่นได้ก็เพียงชวประเดี๋ยวประด๋าว แตทว่า หาก
ั่
ื่
เป็นการละเมิดต่อ "ของต้องห้าม" ผลลัพธ์ของมันช่างสยดสยองเสียจนเทียบกันไม่ตดเลยจริงๆ
ิ
เมื่อออกจากปุางิ้วแล้ว ยมบาลก็พาพระเถระมาดูพวกผีดิบ ที่ถูกขังอยู่ภายในอาณาบริเวณ
ล้อมรอบด้วยกําแพงเหล็กใหญ่หนา และมีเปลวไฟลุกโชนติดไปโดยตลอด