Page 35 - ตำนานการสวดพระมาลัย
P. 35

๒๙


                                             มาณพเข็ญใจถวายดอกบัว


                       วันหนึ่งพระมาลัยออกจาริกภึกขาจารเพื่อโปรดสัตว์ตามพุทธประเพณี ณ บ้านกัมโพชคาม

               ตามปกติ ลําดับนั้นยังมีมาณพเข็ญใจยากไร้ผู้หนึ่งอยู่กับมารดาด้วยบิดาถึงแก่กรรม มาณพผู้นี้ออกจาก

               บ้านเข้าปุาหาเก็บผักหักฟืนเพื่อนํามาขายเลี้ยงชีพ



                   ครั้นเมื่อเห็นว่าได้ปริมาณมากพอควรแล้วจึงเดินทางกลับ ในระหว่างทางพบสระโบกขรณีมีน้ําใส
                                                ู
               เย็นเดียรดาษด้วยเหล่ากออุบลอันชดอกบานสะพรั่งน่ารื่นรมย์ มาณพผู้นั้นจึงลงอานน้ําให้หายคลาย
                                                            ้
               เหนื่อย เมื่อยล้า ครั้นขนมาจึงเด็ดดอกบัวนั้นมาดวยจํานวนแปดดอกออกเดนทางกลับ
                                                                                    ิ
                                    ึ้
                   ในระหว่างนั้นพระมาลัยเถรเจ้ากลับจากบิณฑบาตออกจากหมู่บ้านหมายกลับยังอาวาสแห่งตน

               ตามมรรคาวิถี มาณพหนุ่มผู้นี้เดนสวนทางมา เห็นกิริยาแห่งพระเถรเจ้าสงบสํารวมน่าเสื่อมใสจึงได ้
                                             ิ
               ตรงเข้าไปนมัสการแล้วถวายดอกอุบลอันตนเก็บมานน แล้วออกปากตั้งมโนปนิธานปรารถนาว่า
                                                                ั้


                   " ดูกรพระคุณเจ้า อันตัวข้าพเจ้าเกล้ากระหม่อมฉันถวายดอกบุษบันในครั้งนด้วยหวังอยากให้มั่งมี
                                                                                        ี้
               ซึ่งทรัพย์สินศฤงคารอันร่ํารวยทนตาเห็น ความปราถนาของกระหม่อมฉันนั้นจักสําเร็จผลหรือไม่ "
                                            ั

                   ครั้นพระมาลัยเถรเจ้าได้สดับตรับฟ๎งยังมโนปนิธานของมาณพเข็ญใจผู้นั้นอันแสดงกถาปุจฉามา

               ดังนั้น จึงเจรจาด้วยวาทีอันเอื้อเอ็นดูว่า



                   " ดูกรมาณพผู้นี้ ตัวท่านมีมโนปนิธานอันพ้นวิสัย ด้วยทานที่จักให้ผลทันตาเห็นนี้มีได้เฉพาะก็

               ต่อเมื่อถวายแด่พระอรหันต์อันออกจากนิโรธสมาบัตมาใหม่เพียงเท่านั้น อนว่าอาตมาภาพนี้มิได้ออก
                                                               ิ
                                                                                   ั
               จากนีโรธสมาบัติเห็นจักโปรดท่านให้สําเร็จผลดังปรารถนาไม่"



                   มาณพเข็ญใจจึ่งย้อนปุจฉาด้วยถ้อยวาจาว่า " เกล้ากระหม่อมเคยสดับรับฟ๎งมาว่า หากกระทําบุญ

               กับพระอรหันต์ผลของทานย่อมบันดาลให้เกิดผลทันตาเห็นมิใช่ฤา หรือไม่เป็นดังเช่นทเขาเล่าลือมา
                                                                                              ี่
               พระคุณเจ้า "



                   พระมาลัยเถรอรหันต์ผู้ประเสริฐได้สดับถ้อยกถาจึงเอ่นสุนทรวาจาแก้ป๎ญหาข้อสงสัยข้องใจของ

                                                                                         ึ้
               มาณพให้เข้าใจในการถวายทานว่า " ดูกรมาณพเอ๋ย อันผลของทานนี้มีเร็วมีช้าขนอยู่กับว่า
               องค์ประกอบอื่นดวย ตามพุทธดํารัสตรัสเอาไว้ดังนี้ ทานที่จักมีผลทันตาเห็นต้องประกอบด้วย องค์ ๔
                                ้
                                                                               ์
               คือ ถึงพร้อมด้วยผู้รับทานอันนับตั้งแต่พระโสดาบันจนถึงพระอรหันต ถึงพร้อมด้วยวัตถุทานไทยธรรม
               อันบริสุทธิ์หามาโดยสุจริต ถึงพร้อมด้วนเจตนาที่จะให้ทาน ถึงพร้อมด้วยว่าพระอรหันต์ผู้มากด้วย
   30   31   32   33   34   35   36   37   38   39   40