Page 35 - จากบุตรช่างสู่บัลลังก์ศาล
P. 35

ของแถม ค าแนะน าการเตรียมสอบใบอนุญาตว่าความ                              ๑. จะค้นดูตัวอย่างค าฟ้องในแต่ละประเภทที่น่าสนใจและเวียนออก

                                                                                         ข้อสอบอยู่บ่อยครั้ง เช่น ฟ้องตามสัญญากู้ยืมเงิน ฟ้องตามสัญญาประนีประนอม
                       อย่างที่ผมเล่ามาข้างต้นว่า สมัยที่ผมสอบใบอนุญาตว่าความเป็น

               ทนายความ ผมเตรียมสอบควบคู่ไปกับการสอบเนติบัณฑิตภาคหนึ่งไปด้วย             ยอมความ ฟ้องละเมิด เป็นต้น เมื่อรวบรวมค าฟ้องทั้งหมดแล้ว พอจะสรุปเนื้อหา
                                                                                         ค าบรรยายฟ้องที่ควรจะมีในทุกๆ ค าฟ้องได้ดังนี้
               ยุทธวิธีของผมในเบื้องต้น คือจะตั้งหลักในใจตัวเองก่อนว่า “ขอแค่ผ่านพอ”

               เพราะเนื่องจากโฟกัสส าคัญ ณ เวลานั้น คือ การเรียนเนติฯ ให้จบภายใน ๑ ปี ไว้       ๑.๑ โจทก์และจ าเลยเป็นใคร หมายเหตุ ข้อนี้ต้องดูข้อเท็จจริงแต่ละ
               ก่อน ส่วนเรื่องการหางานท าจะค่อยเป็นค่อยไปกันอีกที ดังที่เกริ่นไว้ตอนต้น  เรื่องไป ที่ควรจะต้องบรรยายส่วนนี้ประจ าได้แก่ คู่ความเป็นนิติบุคคล หรือเป็น

               เช่นเดียวกัน ผมให้เวลากับการเตรียมตัวสอบด้านนี้เพียง ๑ สัปดาห์ก่อนสอบ     เจ้าของกรรมสิทธิ์ที่มีเอกสารอะไรบ้าง และเมื่อมีข้อมูลเป็นหนังสือหรือเอกสาร ก็
               จากนั้นผมก็ไปเปิดดูระเบียบการสอบของสภาทนายความจึงทราบมาว่าหากจะ           ต้องอ้างอิงในส่วนท้ายหัวข้อนี้ด้วย กล่าวคือ “รายละเอียดปรากฏตาม...เอกสาร

               สอบในประเภทรุ่น หรือที่เรียกกันว่า “ตั๋วรุ่น” ก็จะต้องสอบข้อเขียนกัน ๒ รอบ  ท้ายค าฟ้องหมายเลข ๑” นั่นเอง  และควรสังเกตจดจ าชื่อเอกสารที่มักจะพบใน

               คือ รอบทฤษฎีและรอบปฏิบัติ ซึ่งผมตรวจสอบข้อมูลดูแล้ว ในการสอบแต่ละ         ชีวิตประจ าวัน เช่น “หนังสือรับรองของส านักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท
               รอบ ต้องการคะแนนเพียง ๕๐ คะแนน จากคะแนนเต็ม ๑๐๐ คะแนน ก็จะผ่าน            กรุงเทพมหานคร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์” “รายการจด

               เกณฑ์แล้ว ซึ่งในแต่ละรอบ จ าได้คล่าวๆ ว่า จะมีข้อสอบแบบอัตนัยหรือข้อเขียน  ทะเบียนรถยนต์” “หนังสือรับรองการท าประโยชน์” เป็นต้น

               มีคะแนนเต็ม ๘๐ คะแนน และข้อสอบแบบปรนัยหรือข้อกากบาทอีก ๒๐                        ๑.๒ ที่มาของนิติกรรมหรือสัญญาหรือละเมิด คือ วันเวลาเริ่มต้นของ
               คะแนน เนื้อหาที่ผมจะเพ่งเล็งคงหนีไม่พ้นคือข้อเขียน เพราะแบบกากบาทยังพอ
                                                                                         เรื่อง ใครท าอะไร ที่ไหน เมื่อใด อย่างไร และหากเป็นการท านิติกรรมหรือสัญญา
               เดาให้ลุ้นได้ (และคงใช้เวลาฝนไม่นาน^^’) สเต็ปต่อมาของผม ก็หนีไม่พ้น การดู  ก็ควรต้องมีจินตนาการไว้ก่อนว่ามีเอกสารของคู่กรณีประกอบเสมอ อาทิ
               ข้อสอบเก่า จะเห็นได้ว่า คะแนนที่จะได้มากที่สุดก็คือ ค าฟ้อง หรือค าร้อง   “รายละเอียดปรากฏตามหนังสือสัญญากู้ยืมเงินหรือหนังสือรับสภาพหนี้เอกสาร

               เริ่มต้นคดี เช่น ค าร้องขอจัดการมรดก (แล้วแต่คณะกรรมการแต่ละปีจะเลือก     ท้ายค าฟ้องหมายเลข...” เป็นต้น
               ออก)

                                                                                                ๑.๓ การโต้แย้งสิทธิ์ของโจทก์ เช่น วันผิดนัดของจ าเลย
                       เมื่อได้หลักใหญ่ใจความดังข้างต้นแล้ว การวางแผนศึกษาของผมจึง

               เป็นไปดังต่อไปนี้
   30   31   32   33   34   35   36   37   38   39   40