Page 36 - Printing System E-Book
P. 36
1 Offset Printing
(ข) เลเซอร์ช่วงรังสีความร้อน (thermal lasers) ได้แก่ เลเซอร์ไดโอด IR (~ 830 nm) และเลเซอร์ YAG
(~ 1050 nm) แม่พิมพ์จะออกแบบมาโดยเฉพาะให้สารเคลือบมีสมบัติความไวต่อรังสีช่วงคลื่นดังกล่าว เพื่อให้เกิด
ปฏิกิริยา ได้เรียกแม่พิมพ์ประเภทนี้ว่า แม่พิมพ์เทอร์มัล หรือแม่พิมพ์ความร้อนก็ได้ มีให้เลือก 2 แบบ คือ แบบ
เนกาทีฟ และพอสิทีฟ ตามล�าดับ การใช้งานของแม่พิมพ์ประเภทนี้จะสามารถท�าได้ในห้องสว่างและเนื่องจากสาร
เคลือบมีความไวต�่าจึงต้องการเลเซอร์ก�าลังสูงในขั้นตอนฉายแสง ในขณะที่คุณภาพงานพิมพ์ที่ได้จะอยู่ในเกณฑ์
เช่นเดียวกับแม่พิมพ์โฟโต้พอลิเมอร์
- แม่พิมพ์ความร้อนแบบเนกาทีฟ มีหลักการคล้ายระบบแม่พิมพ์โฟโต้พอลิเมอร์ที่ต้องการพรีฮีท ที่อุณหภูมิ
150 ° - 180 °C ก่อนท�าการสร้างภาพในเครื่องโพรเซสเซอร์รังสีความร้อนจะท�าให้แม่พิมพ์ปล่อยสารกรดอิสระ
(free acid) ออกมา และเมื่อน�าไปพรีฮีทจะกระตุ้นให้กรดท�าปฏิกิริยากับสารเคลือบ เปลี่ยนสภาวะโครงสร้างให้
แข็งตัวไม่ละลายในน�้ายาสร้างภาพ หลังการสร้างภาพจะท�าให้แม่พิมพ์ทนทานขึ้นถึงหนึ่งล้านกดพิมพ์
- แม่พิมพ์ความร้อนแบบพอสิทีฟ แม่พิมพ์ประเภทนี้หลังจากขั้นตอนฉายแรง (ให้รังสีความร้อน) แล้วน�าไป
ผ่านโพรเซสเซอร์ได้ทันที ไม่ต้องผ่านขั้นตอนพรีฮีทเพราะส่วนถูกรังสีจะละลายออกได้แม่พิมพ์มีความทนทานพิมพ์
ได้ 200,000 กดพิมพ์ เท่านั้น ไม่สามารถน�าไปอบเพิ่มความแข็งแรงได้
ข้อสังเกต : ปัจจุบันแม่พิมพ์ความร้อนแบบพอสิทีฟได้รับการพัฒนาไปอีกระดับหนึ่งในแบบที่ไม่ต้องผ่าน
น�้ายาสร้างภาพหรือผ่านโพรเซสเซอร์เลย เรียกว่าแม่พิมพ์ความร้อนไร้โพรเซส (thermal processless plate)
สารเคลือบจะถูกออกแบบมาเป็นพิเศษให้รังสีความร้อนสามารถท�าปฏิกิริยาก�าจัดชั้นสารเคลือบบริเวณนั้นออกได้
ทันที ด้วยวิธีการเผาไหม้ (ablation) ซึ่งอาจจะมีลมดูด (sucker) ช่วยดูดเศษฝุ่นออกทีหลังก่อนน�าไปใช้งาน หรือ
อีกระบบหนึ่งที่เรียกว่า การเปลี่ยนสภาวะเฟส (phase change) คือ รังสีความร้อนจะท�าให้สารเคลือบบริเวณ
ดังกล่าวอ่อนตัว เพื่อให้สามารถก�าจัดออกได้ด้วยน�้ายาฟาวน์เทนหรือหมึกพิมพ์บนเครื่องพิมพ์ ซึ่งก�าจัดออกแล้วถูก
ถ่ายโอนไปติดที่กระดาษพิมพ์ออกไป แม่พิมพ์ชนิดนี้เหมาะส�าหรับพิมพ์งานจ�านวนน้อย ๆ ไม่เกิน 30,000 แผ่น
(ภาพที่ 12)