Page 20 - งานนำเสนอ PowerPoint
P. 20
๑๗กำรศึกษำไทย
วิวัฒนำกำรในกำรจัดกำรศึกษำ มีดังนี้
ปี พ.ศ. 2453 ประกำศตั้งโรงเรียนข้ำรำชกำรพลเรือนเพื่อฝึกคนเข้ำ
รับรำชกำรตำมกระทรวง ทบวง กรมต่ำง ๆ
ต่อมำปี พ.ศ. 2459 ได้ประกำศยกฐำนะโรงเรียนข้ำรำชกำรพลเรือนนี้
ขึ้นเป็นจุฬำลงกรณ์มหำวิทยำลัย นับเป็นมหำวิทยำลัยแห่งแรกของ
ประเทศไทย
ปี พ.ศ. 2454 ตั้งกองลูกเสือหรือเสือป่ำขึ้นเป็นครั้งแรกโครงกำร
ศึกษำ พ.ศ. 2456 และฉบับแก้ไข พ.ศ. 2458 โดยมุ่งให้ประชำชนมี
ควำมรู้ทำงด้ำนกำรท ำมำหำเลี้ยงชีพตำมอัตภำพของตน พยำยำมที่จะ
เปลี่ยนค่ำนิยมของประชำชนไม่ให้มุ่งที่จะเข้ำรับรำชกำรอย่ำงเดียว
ปี พ.ศ. 2459 จัดตั้งกองลูกเสือหญิงและอนุกำชำดโรงเรียนกุลสตรี
วังหลังและได้จัดตั้งกองลูกเสือหญิงขึ้น เรียกว่ำ เนตรนำรี
ปี พ.ศ. 2461 มีกำรปรับปรุงและขยำยฝึกหัดครูขึ้นโดยโอนกลับมำ
ขึ้นกับกระทรวงศึกษำธิกำร ซึ่งเดิมเป็นแผนกหนึ่งของโรงเรียนข้ำรำชกำร
พลเรือน ปี พ.ศ. 2461 ประกำศใช้พระรำชบัญญัติโรงเรียนรำษฎร์
ปี พ.ศ. 2464 ปรับปรุงโครงกำรศึกษำชำติ โดยวำงโครงกำรศึกษำ
ขึ้นใหม่เพื่อส่งเสริมให้ท ำมำหำเลี้ยงชีพ นอกเหนือจำกท ำรำชกำร ปี พ.ศ.
2464 ใช้พระรำชบัญญัติประถมศึกษำบังคับให้เด็กทุกคนที่มีอำยุ 7 ปี
บริบูรณ์หรือย่ำงเข้ำปีที่ 8 ให้เรียนอยู่ในโรงเรียนจนถึงอำยุ 14 ปีบริบูรณ์
หรือย่ำงเข้ำปีที่ 15 โดยไม่ต้องเสียค่ำเล่ำเรียน และมีกำรเรียกเก็บเงิน
ศึกษำพลีจำกประชำชนคนละ 1- 3 บำทเพื่อน ำไปใช้จ่ำยในกำรจัด
ด ำเนินกำรประถมศึกษำ