Page 164 - หนังสือคู่มือดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
P. 164

156




                            ๒๕
                                     ี
                มำตรำ 6๗/๙  กรณีท่มีกำรอุทธรณ์กำรใช้มำตรกำรบังคับทำงปกครองและขอทุเลำกำรบังคับ
                                      ี
           ตำมมำตรกำรดังกล่ำว เจ้ำหน้ำท่ผู้ออกค�ำส่งใช้มำตรกำรบังคับทำงปกครอง หรือผู้มีอ�ำนำจพิจำรณำ
                                               ั
                         ั
                                                                                  ื
           ค�ำอุทธรณ์ อำจส่งให้มีกำรทุเลำกำรบังคับทำงปกครองไว้ก่อนก็ได้ โดยมีอ�ำนำจก�ำหนดเง่อนไขให้ผู้อยู่ใน
           บังคับของมำตรกำรบังคับทำงปกครองต้องปฏิบัติด้วยก็ได้
                             ๒๖
                                   ื
                                                                                   ั
                มำตรำ 6๓/1๐  เพ่อประโยชน์ในกำรบังคับทำงปกครอง ให้เจ้ำหน้ำท่ผู้ออกค�ำส่ง ใช้มำตรกำร
                                                                           ี
           บังคับทำงปกครองมีอ�ำนำจ
                (๑ มีหนังสือสอบถำมสถำบันกำรเงิน สหกรณ์ออมทรัพย์ สหกรณ์เครดิตยูเนียน ตลำดหลักทรัพย์
           แห่งประเทศไทย กรมท่ดิน กรมกำรขนส่งทำงบก กรมทรัพย์สินทำงปัญญำ หรือหน่วยงำนอ่นของรัฐท่ม  ี
                              ี
                                                                                             ี
                                                                                     ื
           หน้ำที่ควบคุมทรัพย์สินที่มีทะเบียน เกี่ยวกับทรัพย์สินของผู้อยู่ในบังคับของมำตรกำรบังคับทำงปกครอง
                (๒) มีหนังสือขอให้นำยทะเบียน พนักงำนเจ้ำหน้ำท่ หรือบุคคลอ่นผู้มีอ�ำนำจหน้ำท่ตำมกฎหมำย
                                                                                   ี
                                                                     ื
                                                          ี
           ระงับกำรจดทะเบียนหรือแก้ไขเปล่ยนแปลงทำงทะเบียนท่เก่ยวกับทรัพย์สินของผู้อยู่ในบังคับของมำตรกำร
                                                        ี
                                                          ี
                                      ี
           บังคับทำงปกครองไว้เป็นกำรช่วครำวเท่ำท่จ�ำเป็นเน่องจำกมีเหตุขัดข้องท่ท�ำให้ไม่อำจยึดหรืออำยัดทรัพย์สิน
                                            ี
                                                                   ี
                                  ั
                                                   ื
           ได้ทันที และเมื่อเหตุขัดข้องสิ้นสุดลงให้แจ้งยกเลิกหนังสือดังกล่ำว ทั้งนี้ ต้องปฏิบัติตำมหลักเกณฑ์เกี่ยวกับ
           กำรระงับกำรจดทะเบียนหรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงทำงทะเบียนตำมกฎหมำยว่ำด้วยกำรนั้น
                                                ี
                หน่วยงำนตำม (๑) ท่ให้ข้อมูลแก่เจ้ำหน้ำท่ผู้ออกค�ำส่งใช้มำตรกำรบังคับทำงปกครองในกำรด�ำเนินกำร
                                ี
                                                        ั
           ตำม (๑) ให้ถือว่ำไม่เป็นควำมผิดตำมกฎหมำยว่ำด้วยธุรกิจสถำบันกำรเงินกฎหมำยว่ำด้วยหลักทรัพย์และ
           ตลำดหลักทรัพย์ และกฎหมำยอื่น
                                                ี
                                                        ั
                ผู้ใดไม่ปฏิบัติตำมหนังสือของเจ้ำหน้ำท่ผู้ออกค�ำส่งใช้มำตรกำรบังคับทำงปกครองตำมวรรคหน่ง
                                                                                             ึ
           โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ผู้นั้นมีควำมผิดฐำนขัดค�ำสั่งเจ้ำพนักงำนตำมประมวลกฎหมำยอำญำ
                             ๒๗
                มำตรำ 6๓/11  ในกำรสืบหำทรัพย์สินของผู้อยู่ในบังคับของมำตรกำรบังคับทำงปกครอง หน่วยงำน
                        ั
                                                                         ื
                 ี
           ของรัฐท่ออกค�ำส่งให้ช�ำระเงินอำจร้องขอให้ส�ำนักงำนอัยกำรสูงสุดหรือหน่วยงำนอ่นด�ำเนินกำรสืบหำทรัพย์สิน
           แทนได้ โดยให้หน่วยงำนดังกล่ำวมีอ�ำนำจตำมมำตรำ ๖๓/๑0 ด้วย
                                              ั
                                       ี
                                                                    ี
                        ี
                ในกรณีท่หน่วยงำนของรัฐท่ออกค�ำส่งให้ช�ำระเงิน ไม่มีเจ้ำหน้ำท่ในกำรด�ำเนินกำรสืบหำทรัพย์สิน
                   �
                                                               ้
                                                               ั
                                                  ั
                                                ั
                         ิ
                                                                  ี
                                                                                       ้
                                                                                             ื
           และหำกจำนวนเงนทต้องชำระตำมมำตรกำรบงคบทำงปกครองนนมมลค่ำตงแต่สองล้ำนบำทขนไปหรอ
                                                                                       ึ
                                                                   ู
                                                                        ั
                                                                        ้
                            ่
                                �
                            ี
                    ี
                            ิ
           ตำมมูลค่ำท่ก�ำหนดเพ่มข้นโดยกฎกระทรวง หน่วยงำนของรัฐอำจมอบหมำยให้เอกชนสืบหำทรัพย์สินแทนได้
                              ึ
                         ี
                                                                                       ี
                ให้เอกชนท่สืบพบทรัพย์สินได้รับค่ำตอบแทนไม่เกินร้อยละสองคร่งจำกเงินหรือทรัพย์สินท่ได้มำจำก
                                                                    ึ
                                                                                         ิ
                                            ิ
           กำรยด อำยด หรอขำยทอดตลำดทรพย์สนทสบพบได้ ทงน จำนวนเงนค่ำตอบแทนสงสดต้องไม่เกนหนง    ึ ่
                                                                  ิ
               ึ
                                        ั
                                                                               ู
                         ื
                                                        ้
                                              ่
                                                ื
                                              ี
                                                        ั
                                                          ้
                                                          ี
                                                            �
                    ั
                                                                                 ุ
           ล้ำนบำทต่อจำนวนเงนทต้องชำระตำมคำสงทำงปกครองในเรองนนหรอตำมจำนวนทีกำหนดเพมขนโดย
                                                                                          ้
                                                                                          ึ
                                   �
                                                                                       ิ
                              ี
                              ่
                                                                                       ่
                                                                                �
                                                               ั
                                                               ้
                                                                   ื
                                             ่
                                             ั
                                                            ื
                                                            ่
                     �
                            ิ
                                                                         �
                                                                               ่
                                           �
           กฎกระทรวง
                ๒๕  มำตรำ ๖๓/9 เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติวิธีปฏิบัติรำชกำรทำงปกครอง (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒
                ๒๖  มำตรำ ๖๓/๑0 เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติวิธีปฏิบัติรำชกำรทำงปกครอง (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒
                ๒๗  มำตรำ ๖๓/๑๑ เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติวิธีปฏิบัติรำชกำรทำงปกครอง (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒
   159   160   161   162   163   164   165   166   167   168   169