Page 165 - หนังสือคู่มือดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
P. 165
157
หลักเกณฑ์และวิธีกำรคัดเลือกเอกชนท่สืบหำทรัพย์สิน กำรก�ำหนดค่ำตอบแทนและวิธีกำรจ่ำย
ี
ค่ำตอบแทนตำมวรรคสำม ให้เป็นไปตำมที่ก�ำหนดในกฎกระทรวง
๒๘
ั
ี
มำตรำ 6๓/1๒ ช้นตอนและวิธีปฏิบัติเก่ยวกับกำรยึด กำรอำยัด และกำรขำยทอดตลำดทรัพย์สิน
ให้เป็นไปตำมท่ก�ำหนดใบกฎกระทรวง ในกรณีท่กฎกระทรวงไม่ได้ก�ำหนดเร่องใดไว้ให้น�ำบทบัญญัติใน
ื
ี
ี
ประมวลกฎหมำยวิธีพิจำรณำควำมแพ่งมำใช้บังคับโดยอนุโลม โดยให้ถือว่ำ
(๑) เจ้ำหนี้ตำมค�ำพิพำกษำ หมำยถึง หน่วยงำนของรัฐที่ออกค�ำสั่งให้ช�ำระเงิน
(๒) ลูกหนี้ตำมค�ำพิพำกษำ หมำยถึง ผู้อยู่ในบังคับของมำตรกำรบังคับทำงปกครอง
(๓) อ�ำนำจของศำลในส่วนท่เก่ยวกับกำรบังคับคดี เป็นอ�ำนำจของหัวหน้ำหน่วยงำนของรัฐ ท้งน ้ ี
ั
ี
ี
ตำมที่ก�ำหนดในกฎกระทรวง
(๔) เจ้ำพนักงำนบังคับคดี หมำยถึง เจ้ำหนักงำนบังคับทำงปกครอง
๒9
ี
มำตรำ 6๗/1๓ กำรโต้แย้งหรือกำรใช้สิทธิทำงศำลเก่ยวกับกำรยึด กำรอำยัด และกำรขำยทอด
ั
ั
ิ
ั
ู
ั
ู
้
ั
ตลำดทรพย์สนโดยผ้อย่ในบงคบของมำตรกำรบงคบทำงปกครอง รวมทงบคคลภำยนอก ผ้มส่วนได้เสย
ุ
ั
ี
ู
ี
เกี่ยวกับทรัพย์สินที่ถูกยึดหรืออำยัด ให้เสนอต่อศำล ดังต่อไปนี้
(๑) ศำลแรงงำน ศำลภำษีอำกร ศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ ศำลเยำวชน
ึ
และครอบครัว หรือศำลช�ำนัญพิเศษอ่น แล้วแต่กรณี ซ่งเป็นศำลท่มีเขตอ�ำนำจในกำรพิจำรณำพิพำกษำคด ี
ื
ี
เกี่ยวกับค�ำสั่งที่มีกำรบังคับทำงปกครองนั้น
(๒) ศำลปกครอง ส�ำหรับกรณีอื่นที่ไม่อยู่ภำยใต้บังคับ (๑)
๓0
ื
ี
ี
มำตรำ 6๓/1๔ กรณีท่เจ้ำหน้ตำมค�ำพิพำกษำในคดีอ่นได้มีกำรยึดทรัพย์สินหรืออำยัดสิทธ ิ
ื
ื
เรียกร้องอ่นใด ของผู้อยู่ในบังคับของมำตรกำรบังคับทำงปกครองเพ่อน�ำเงินมำช�ำระตำมค�ำพิพำกษำ
ให้หน่วยงำนของรัฐที่ออกค�ำสั่งให้ช�ำระเงินมีสิทธิขอเข้ำเฉลี่ยได้เช่นเดียวกับเจ้ำหนี้ตำมค�ำพิพำกษำ
๒. กำรบังคับโดยเจ้ำพนักงำนบังคับคดี
________________
๓๑
่
่
ิ
�
ั
่
�
�
มำตรำ 6๓/1๕ ในกรณทมกำรบงคบให้ชำระเงนและคำสงทำงปกครองทกำหนดให้ชำระเงน
ี
ี
�
ี
ั
ั
ิ
ี
ี
เป็นท่สุดแล้ว หำกหน่วยงำนของรัฐท่ออกค�ำส่งให้ช�ำระเงินประสงค์ให้เจ้ำพนักงำนบังคับคดีในสังกัดกรม
ี
ั
ั
ื
บังคับคดีด�ำเนินกำรบังคับให้เป็นไปตำมค�ำส่งทำงปกครองดังกล่ำว ให้ย่นค�ำขอฝ่ำยเดียวต่อศำลภำยในสิบปี
ื
นับแต่วันท่ค�ำส่งทำงปกครองท่ก�ำหนดให้ช�ำระเงินเป็นท่สุด เพ่อให้ศำลออกหมำยบังคับคดีเพ่อบังคับให้เป็น
ี
ี
ื
ี
ั
๒๘ มำตรำ ๖๓/๑๒ เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติวิธีปฏิบัติรำชกำรทำงปกครอง (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒
๒9 มำตรำ ๖๓/๑๓ เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติวิธีปฏิบัติรำชกำรทำงปกครอง (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒
๓0 มำตรำ ๖๓/๑๔ เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติวิธีปฏิบัติรำชกำรทำงปกครอง (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒
๓๑ มำตรำ ๖๓/๑๕ เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติวิธีปฏิบัติรำชกำรทำงปกครอง (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒