Page 162 - หนังสือคู่มือดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
P. 162

154





                (๑) ผู้อยู่ในบังคับของมำตรกำรบังคับทำงปกครองตำยก่อนส้นสุดระยะเวลำอุทธรณ์ กำรใช้มำตรกำร
                                                               ิ
           บังคับทำงปกครองและไม่ได้ยื่นอุทธรณ์กำรใช้มำตรกำรบังคับทำงปกครอง
                                                               ิ
                (๒) ผู้อยู่ในบังคับของมำตรกำรบังคับทำงปกครองตำยหลังส้นสุดระยะเวลำอุทธรณ์ กำรใช้มำตรกำร
                                                          ั
                                                        ั
                                  ่
                                  ื
                                     ุ
                                                                                         ี
                                                                                         ่
                                                                                          �
                                                                                  ิ
                                                                        ่
                                                                        ื
                                                                               ี
              ั
            ั
           บงคบทำงปกครองและไม่ได้ยนอทธรณ์กำรใช้มำตรกำรบงคบทำงปกครอง เนองจำกมพฤตกำรณ์ทจำเป็น
           อันมิได้เกิดจำกควำมผิดของผู้นั้น
                                                                                       ิ
                        ี
                                                                                     ั
                ในกรณีท่เป็นกำรใช้มำตรกำรบังคับทำงปกครองแก่นิติบุคคลใด หำกนิติบุคคลน้นส้นสภำพ
           โอนกิจกำร หรือควบรวมกิจกำร ให้ด�ำเนินกำรบังคับทำงปกครองต่อไปได้ โดยให้แจ้งมำตรกำรบังคับทำง
                                            ี
                                                                                            ั
           ปกครองไปยังผู้ช�ำระบัญชี หรือนิติบุคคลท่รับโอนกิจกำรหรือเกิดจำกกำรควบรวมกิจกำร แล้วแต่กรณี ท้งน้  ี
                            ั
                                                                                        ื
           โดยไม่จ�ำต้องออกค�ำส่งทำงปกครองใหม่แก่บุคคลหรือนิติบุคคลดังกล่ำวอีกและให้น�ำหลักเกณฑ์เร่องระยะ
           เวลำในกำรอุทธรณ์ตำมวรรคสองมำใช้บังคับด้วยโดยอนุโลม
                            ๒๑
                                      ี
                                                       ี
                                                                                      ื
                                                                   ื
                มำตรำ 6๓/๕  ในกรณีท่บทบัญญัติในหมวดน้หรือกฎหมำยอ่นมิได้ก�ำหนดเป็นอย่ำงอ่น ผู้อยู่ใน
           บังคับของมำตรกำรบังคับทำงปกครองอำจอุทธรณ์กำรใช้มำตรกำรบังคับทำงปกครอง นั้นได้
                กำรอุทธรณ์กำรใช้มำตรกำรบังคับทำงปกครองให้ใช้หลักเกณฑ์และวิธีกำรเดียวกับกำรอุทธรณ์
           ค�ำสั่งทำงปกครองตำมส่วนที่ ๕ กำรอุทธรณ์ค�ำสั่งทำงปกครอง ในหมวด ๒ ค�ำสั่งทำงปกครอง
                            ๒๒
                                                                                        ี
                มำตรำ 6๓/6  บทบัญญัติในหมวดน้มิให้ใช้บังคับกับกำรบังคับตำมค�ำสั่งทำงปกครองท่ก�ำหนด
                                                ี
                               �
                                                     ี
                                                                    ั
                                                                             ี
                       ื
           ให้ช�ำระเงินหรอให้กระทำหรือละเว้นกระทำในกรณท่หน่วยงำนของรฐได้ฟ้องคดต่อศำลและศำลได้ม  ี
                                              �
                                                       ี
           ค�ำพิพำกษำให้ช�ำระเงินหรือให้กระท�ำหรือละเว้นกระท�ำแล้ว
                                                                                ี
                                                                ี
                                           ึ
                  ื
                เม่อศำลได้รับฟ้องคดีตำมวรรคหน่งไว้แล้ว ห้ำมมีให้เจ้ำหน้ำท่ด�ำเนินกำรตำมส่วนท่ ๒ กำรบังคับตำม
           ค�ำสั่งทำงปกครองที่ก�ำหนดให้ช�ำระเงิน และส่วนที่ ๓ กำรบังคับตำมค�ำสั่งทำงปกครองที่ก�ำหนดให้กระท�ำ
           หรือละเว้นกระท�ำ เว้นแต่จะได้มีกำรถอนฟ้อง หรือศำลมีค�ำส่งจ�ำหน่ำยคดีจำกสำรบบควำมเพรำะเหตุอ่น
                                                           ั
                                                                                             ื
              ี
            ั
                                                                                         ี
                                                                ี
           ท้งน้ ไม่กระทบต่อกำรด�ำเนินกำรตำมมำตรกำรบังคับทำงปกครองท่เจ้ำหน้ำท่ได้ด�ำเนินกำรไปก่อนท่ศำลได้
                                                                       ี
           รับฟ้องคดี และให้เจ้ำหน้ำที่ด�ำเนินกำรตำมมำตรกำรบังคับทำงปกครองในส่วนนั้นต่อไปจนแล้วเสร็จ
                ๒๑  มำตรำ ๖๓/๕ เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติวิธีปฏิบัติรำชกำรทำงปกครอง (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒
                ๒๒  มำตรำ ๖๓/๖ เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติวิธีปฏิบัติรำชกำรทำงปกครอง (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒
   157   158   159   160   161   162   163   164   165   166   167