Page 158 - หนังสือคู่มือดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
P. 158
150
ั
ั
(๓) ผู้น้นได้รู้ถึงควำมไม่ชอบด้วยกฎหมำยของค�ำส่งทำงปกครองในขณะได้รับค�ำส่งทำงปกครอง
ั
หรือกำรไม่รู้นั้นเป็นไปโดยควำมประมำทเลินเล่ออย่ำงร้ำยแรง
ในกรณีท่เพิกถอนโดยให้มีผลย้อนหลัง กำรคืนเงินทรัพย์สินหรือประโยชน์ท่ผู้รับค�ำส่งทำงปกครอง
ี
ี
ั
ิ
ิ
ได้ไป ให้น�ำบทบัญญัตว่ำด้วยลำภมิควรได้ในประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณชย์มำใช้บังคับโดยอนุโลม
ั
ื
ั
โดยถ้ำเม่อใดผู้รับค�ำส่งทำงปกครองได้รู้ถึงควำมไม่ชอบด้วยกฎหมำยของค�ำส่งทำงปกครองหรือควรได้รู้เช่นน้น
ั
ั
ั
ั
หำกผู้น้นมิได้ประมำทเลินเล่ออย่ำงร้ำยแรงให้ถือว่ำผู้นั้นตกอยู่ในฐำนะไม่สุจริตต้งแต่เวลำน้นเป็นต้นไป
และในกรณีตำมวรรคสำม ผู้นั้นต้องรับผิดในกำรคืนเงิน ทรัพย์สินหรือประโยชน์ที่ได้รับไปเต็มจ�ำนวน
มำตรำ ๕๒ ค�ำส่งทำงปกครองทไม่ชอบด้วยกฎหมำยและไม่อยู่ในบังคับของมำตรำ ๕๑ อำจถูก
่
ี
ั
ั
ั
ั
เพิกถอนท้งหมดหรือบำงส่วนได้ แต่ผู้ได้รับผลกระทบจำกกำรเพิกถอนค�ำส่งทำงปกครองดังกล่ำวมีสิทธิได้รบ
ั
ื
ค่ำทดแทนควำมเสียหำยเน่องจำกควำมเช่อโดยสุจริตในควำมคงอยู่ของค�ำส่งทำงปกครองได้ และให้น�ำ
ื
ควำมในมำตรำ ๕๑ วรรคหนึ่ง วรรคสอง และวรรคสำม มำใช้บังคับโดยอนุโลม แต่ต้องร้องขอค่ำทดแทน
ภำยในหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่ได้รับแจ้งให้ทรำบถึงกำรเพิกถอนนั้น
ค่ำทดแทนควำมเสียหำยตำมมำตรำน้จะต้องไม่สูงกว่ำประโยชน์ท่ผู้น้นอำจได้รับหำกค�ำส่งทำง
ั
ั
ี
ี
ปกครองดังกล่ำวไม่ถูกเพิกถอน
ี
�
ึ
ั
่
มำตรำ ๕๓ คำสงทำงปกครองทชอบด้วยกฎหมำยซงไม่เป็นกำรให้ประโยชน์แก่ผ้รบคำสงทำง
่
ั
ั
ู
�
่
่
ปกครองอำจถูกเพิกถอนท้งหมดหรือบำงส่วนโดยให้มีผลต้งแต่ขณะท่เพิกถอนหรือมีผลในอนำคตไปถึง
ี
ั
ั
ี
ี
ั
ขณะใดขณะหน่งตำมท่ก�ำหนดได้ เว้นแต่เป็นกรณีท่คงต้องท�ำค�ำส่งทำงปกครองท่มีเน้อหำท�ำนองเดียวกัน
ี
ื
ึ
ั
ี
ี
ั
น้นอีกหรือเป็นกรณีท่กำรเพิกถอนไม่อำจกระท�ำได้เพรำะเหตุอื่น ท้งน้ ให้ค�ำนึงถึงประโยชน์ของบุคคล
ภำยนอกประกอบด้วย
ั
ั
ค�ำส่งทำงปกครองท่ชอบด้วยกฎหมำยซ่งเป็นกำรให้ประโยชน์แก่ผู้รับค�ำส่งทำงปกครองอำจถูก
ึ
ี
เพิกถอนท้งหมดหรือบำงส่วนโดยให้มีผลต้งแต่ขณะท่เพิกถอนหรือมีผลในอนำคตไปถึงขณะใดขณะหน่ง
ึ
ั
ั
ี
ตำมที่ก�ำหนดได้เฉพำะเมื่อมีกรณีดังต่อไปนี้
(๑) มีกฎหมำยก�ำหนดให้เพิกถอนได้หรือมีข้อสงวนสิทธิ์ให้เพิกถอนได้ในค�ำสั่งทำงปกครองนั้นเอง
ี
ั
ั
ั
ั
่
ี
ั
(๒) ค�ำสงทำงปกครองน้นมข้อก�ำหนดให้ผู้รบประโยชน์ ต้องปฏิบติแต่ไม่มกำรปฏิบติภำยในเวลำ
ที่ก�ำหนด
ี
(๓) ข้อเท็จจริงและพฤติกำรณ์เปล่ยนแปลงไป ซ่งหำกมีข้อเท็จจริงและพฤติกำรณ์เช่นน้ในขณะท�ำ
ี
ึ
ั
ี
ั
ั
ค�ำส่งทำงปกครองแล้วเจ้ำหน้ำท่คงจะไม่ท�ำค�ำส่งทำงปกครองน้นและหำกไม่เพิกถอนจะก่อให้เกิดควำม
เสียหำยต่อประโยชน์สำธำรณะได้
ี
้
(๔) บทกฎหมำยเปลยนแปลงไป ซ่งหำกมีบทกฎหมำยเช่นนในขณะท�ำค�ำสงทำงปกครองแล้ว
ี
่
ึ
่
ั
เจ้ำหน้ำท่คงจะไม่ท�ำค�ำส่งทำงปกครองน้น แต่กำรเพิกถอนในกรณีน้ให้กระท�ำได้เท่ำท่ผู้รับประโยชน์ยังไม่ได้
ี
ั
ี
ี
ั
ั
ใช้ประโยชน์ หรือยังไม่ได้รับประโยชน์ตำมค�ำส่งทำงปกครองดังกล่ำว และหำกไม่เพิกถอนจะก่อให้เกิด
ควำมเสียหำยต่อประโยชน์สำธำรณะได้