Page 157 - หนังสือคู่มือดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
P. 157

149




                           ๕
                                                                      ่
                                                                                ึ
                                                                                ้
                                                                       ่
                                                                            ั
                                                                              ั
                                                                              ้
                                ่
                                ั
                              �
                                                                ่
                  มำตรำ ๔๘  คำสงทำงปกครองของบรรดำคณะกรรมกำรตำง ๆ ไมวำจะจดตงขนตำมกฎหมำยหรอ
                                                                                               ื
            ไม่ ให้คู่กรณีมีสิทธิโต้แย้งต่อคณะกรรมกำรวินิจฉัยร้องทุกข์ตำมกฎหมำยว่ำด้วยคณะกรรมกำรกฤษฎีกำได้
              ั
                                                                 ี
            ท้งในปัญหำข้อเท็จจริงและข้อกฎหมำย ภำยในเก้ำสิบวันนับแต่วันท่ได้รับแจ้งค�ำส่งน้น แต่ถ้ำคณะกรรมกำร
                                                                              ั
                                                                            ั
            ดังกล่ำวเป็นคณะกรรมกำรวินิจฉัยข้อพิพำท สิทธิกำรอุทธรณ์และก�ำหนดเวลำอุทธรณ์ให้เป็นไปตำมท  ่ ี
            บัญญัติในกฎหมำยว่ำด้วยคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
                                                  ส่วนที่ 6
                                        กำรเพิกถอนค�ำสั่งทำงปกครอง
                                             ________________
                                     ี
                                                                              ั
                                                                ี
                  มำตรำ ๔๙ เจ้ำหน้ำท่หรือผู้บังคับบัญชำของเจ้ำหน้ำท่อำจเพิกถอนค�ำส่งทำงปกครองได้ตำม
            หลักเกณฑ์ในมำตรำ ๕๑ มำตรำ ๕๒ และมำตรำ ๕๓ ไม่ว่ำจะพ้นข้นตอนกำรก�ำหนดให้อุทธรณ์หรือให้โต้แย้ง
                                                               ั
            ตำมกฎหมำยนี้หรือกฎหมำยอื่นมำแล้วหรือไม่
                                ั
                  กำรเพิกถอนค�ำส่งทำงปกครองท่มีลักษณะเป็นกำรให้ประโยชน์ต้องกระท�ำภำยในเก้ำสิบวันนับแต่
                                            ี
                                      ั
                                                             ั
                                                                                 ึ
                                                                               �
                                      ่
                                                   ้
                                                   ั
            ได้รู้ถึงเหตุท่จะให้เพิกถอนค�ำสงทำงปกครองนนเว้นแต่ค�ำส่งทำงปกครองจะได้ทำข้นเพรำะกำรแสดง
                      ี
            ข้อควำมอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อควำมจริงซ่งควรบอกให้แจ้งหรือกำรข่มขู่หรือกำรชักจูงใจโดยกำรให้
                                                 ึ
            ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดที่มิชอบด้วยกฎหมำย
                  มำตรำ ๕๐ ค�ำส่งทำงปกครองท่ไม่ชอบด้วยกฎหมำยอำจถูกเพิกถอนท้งหมดหรือบำงส่วน โดยจะ
                                                                          ั
                                ั
                                            ี
                                                                              ี
            ให้มีผลย้อนหลังหรือไม่ย้อนหลังหรือมีผลไปในอนำคตไปถึงขณะใดขณะหน่งตำมท่ก�ำหนดได้ แต่ถ้ำค�ำส่ง ั
                                                                        ึ
              ั
                      ั
            น้นเป็นค�ำส่งซ่งเป็นกำรให้ประโยชน์แก่ผู้รับ กำรเพิกถอนต้องเป็นไปตำมบทบัญญัติมำตรำ ๕๑ และ
                        ึ
            มำตรำ ๕๒
                                                                       ึ
                  มำตรำ ๕1 กำรเพิกถอนค�ำส่งทำงปกครองท่ไม่ชอบด้วยกฎหมำยซ่งเป็นกำรให้เงินหรือให้ทรัพย์สิน
                                                     ี
                                         ั
                                                          ื
            หรือให้ประโยชน์ท่อำจแบ่งแยกได้ ให้คำนึงถึงควำมเช่อโดยสุจรตของผู้รับประโยชน์ในควำมคงอย่  ู
                            ี
                                                                   ิ
                                              �
            ของค�ำสั่งทำงปกครองนั้นกับประโยชน์สำธำรณะประกอบกัน
                                                                         ั
                                                                  ื
                        ื
                                           ึ
                  ควำมเช่อโดยสุจริตตำมวรรคหน่งจะได้รับควำมคุ้มครองต่อเม่อผู้รับค�ำส่งทำงปกครองได้ใช้ประโยชน์
                                           �
                         ั
                                              ิ
            อนเกดจำกคำสงทำงปกครองหรอได้ดำเนนกำรเก่ยวกบทรพย์สินไปแล้วโดยไม่อำจแก้ไขเปลยนแปลงได้
                                                                                       ี
                         ่
                                                                                       ่
                       �
                                      ื
              ั
                                                    ี
                                                        ั
                 ิ
                                                            ั
            หรือกำรเปลี่ยนแปลงจะท�ำให้ผู้นั้นต้องเสียหำยเกินควรแก่กรณี
                  ในกรณีดังต่อไปนี้ ผู้รับค�ำสั่งทำงปกครองจะอ้ำงควำมเชื่อโดยสุจริตไม่ได้
                        ั
                                                                     ึ
                  (๑) ผู้น้นได้แสดงข้อควำมอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อควำมจริงซ่งควรบอกให้แจ้ง หรือข่มขู่ หรือ
            ชักจูงใจโดยกำรให้ทรัพย์สินหรือให้ประโยชน์อื่นใดที่มิชอบด้วยกฎหมำย
                  (๒) ผู้นั้นได้ให้ข้อควำมซึ่งไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วนในสำระส�ำคัญ
                  ๕   มำตรำ ๔๘ ยกเลิกโดยผลของมำตรำ ๘๗ เน่องจำกมีกำรจัดต้งศำลปกครองแล้ว โดยพระรำชบัญญัติจัดต้ง ั
                                                     ื
                                                                ั
            ศำลปกครองและวิธีพิจำรณำคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒
   152   153   154   155   156   157   158   159   160   161   162