Page 83 - หนังสือคู่มือดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
P. 83

75





                                                             ั
                               ั
                                               ั
            ดังกล่ำว และได้มีกำรส่งกำรตำมกฎหมำยน้นหรือมิได้มีกำรส่งกำรภำยในเวลำอันสมควรหรือภำยในเวลำ
            ที่กฎหมำยนั้นก�ำหนด
                           ๖๖
                  มำตรำ ๔๓  ในกรณีท่ผู้ตรวจกำรแผ่นดินเห็นว่ำกฎ ค�ำส่ง หรือกำรกระท�ำอ่นใดของหน่วยงำนของ
                                                               ั
                                                                              ื
                                     ี
                                                                                           ี
            รัฐหรือเจ้ำหน้ำท่ของรัฐตำมกฎหมำยประกอบรัฐธรรมนูญว่ำด้วยผู้ตรวจกำรแผ่นดินมีปัญหำเก่ยวกับ
                          ี
                                                        ื
            ควำมชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือกฎหมำย ให้เสนอเร่องพร้อมด้วยควำมเห็นต่อศำลปกครองและให้
                                                                                             ้
            ศำลปกครองพิจำรณำวินิจฉัยโดยไม่ชักช้ำ ในกำรเสนอควำมเห็นดังกล่ำว ผู้ตรวจกำรแผ่นดินมีสิทธิและหนำท  ่ ี
            เสมือนหนึ่งเป็นผู้มีสิทธิฟ้องคดีตำมมำตรำ ๔๒
                                                ี
                  มำตรำ ๔๔ กำรด�ำเนินกำรท้งปวงเก่ยวกับกำรฟ้อง กำรร้องสอด กำรเรียกบุคคลหน่วยงำนทำง
                                          ั
                              ี
            ปกครองหรือเจ้ำหน้ำท่ของรัฐเข้ำมำเป็นคู่กรณีในคดี กำรด�ำเนินกระบวนพิจำรณำกำรรับฟังพยำนหลักฐำน
                             ี
                                             ่
            และกำรพพำกษำคดปกครอง นอกจำกทบญญตไว้แล้วในพระรำชบญญตน ให้เป็นไปตำมหลักเกณฑ์และ
                                             ี
                                              ั
                                                                      ิ
                                                                        ้
                                                                        ี
                                                                     ั
                                                  ั
                                                   ิ
                                                                  ั
                    ิ
            วิธีกำรที่ก�ำหนดโดยระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลำกำรในศำลปกครองสูงสุด
                  มำตรำ ๔๕ ค�ำฟ้องให้ใช้ถ้อยค�ำสุภำพและต้องมี
                  (๑) ชื่อและที่อยู่ของผู้ฟ้องคดี
                                                            ี
                                                    ี
                  (๒) ช่อหน่วยงำนทำงปกครองหรือเจ้ำหน้ำท่ของรัฐท่เก่ยวข้องอันเป็นเหตุแห่งกำรฟ้องคด  ี
                                                          ี
                      ื
                  (๓) กำรกระท�ำท้งหลำยท่เป็นเหตุแห่งกำรฟ้องคดี พร้อมท้งข้อเท็จจริงหรือพฤติกำรณ์ตำมสมควร
                                                                 ั
                                ั
                                       ี
            เกี่ยวกับกำรกระท�ำดังกล่ำว
                  (๔) ค�ำขอของผู้ฟ้องคดี
                  (๕) ลำยมือชื่อของผู้ฟ้องคดี ถ้ำเป็นกำรย่นฟ้องคดีแทนผู้อ่นจะต้องแนบใบมอบฉันทะให้ฟ้องคด  ี
                                                                 ื
                                                    ื
            มำด้วย
                                                                       ้
                  ค�ำฟ้องใดมีรำยกำรไม่ครบตำมวรรคหน่ง หรือไม่ชัดเจน หรือไม่อำจเขำใจได้ ให้ส�ำนักงำนศำลปกครอง
                                                ึ
                                                                                          ี
                                                                                           ื
            ให้ค�ำแนะน�ำแก่ผู้ฟ้องคดีเพ่อด�ำเนินกำรแก้ไขเพ่มเติมค�ำฟ้องน้นให้ถูกต้อง ในกำรน้ให้ถือวันท่ย่นฟ้อง
                                                                ั
                                                                                 ี
                                   ื
                                                    ิ
            ครั้งแรกเป็นหลักในกำรนับอำยุควำม
                                                                                  ั
                                                                                  ้
                          ี
                  ในกรณีท่มีผู้ประสงค์จะฟ้องคดีปกครองหลำยคนในเหตุเดียวกันบุคคลเหล่ำนนอำจย่น ค�ำฟ้อง
                                                                                        ื
            ร่วมกันเป็นฉบับเดียว โดยจะมอบหมำยให้ผู้ฟ้องคดีคนใดเป็นผู้แทนของผู้ฟ้องคดีทุกคนในกำรด�ำเนินคดีต่อไป
            ก็ได้ในกรณีเช่นว่ำนี้ ให้ถือว่ำกำรกระท�ำของผู้แทนผู้ฟ้องคดีในกระบวนพิจำรณำผูกพันผู้ฟ้องคดีทุกคน
                                                                       ั
                  กำรฟ้องคดีไม่ต้องเสียค่ำธรรมเนียมศำล เว้นแต่กำรฟ้องคดีขอให้ส่งให้ใช้เงินหรือส่งมอบทรัพย์สิน
            อันสืบเนื่องจำกคดีตำมมำตรำ 9 วรรคหนึ่ง (๓) หรือ (๔) ให้เสียค่ำธรรมเนียมศำล ตำมทุนทรัพย์ในอัตรำ
                 ี
                                                                                              ื
                                                                               ี
            ตำมท่ระบุไว้ในตำรำง ๑ ท้ำยประมวลกฎหมำยวิธีพิจำรณำควำมแพ่ง ส�ำหรับคดีท่มีค�ำขอให้ปลดเปล้อง
            ทุกข์อันอำจค�ำนวณเป็นรำคำเงินได้ ๖๗
                  ๖๖  มำตรำ ๔๓ แก้ไขเพ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลปกครองและวิธีพิจำรณำคดีปกครอง (ฉบับท่ ๑0) พ.ศ. ๒๕๖๑
                                                     ั
                                  ิ
                                                                                     ี
                  ๖๗  มำตรำ ๔๕ วรรคส่ แก้ไขเพ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลปกครองและวิธีพิจำรณำคดีปกครอง (ฉบับท่ ๓)
                                                                                             ี
                                        ิ
                                  ี
                                                            ั
            พ.ศ. ๒๕๔๘
   78   79   80   81   82   83   84   85   86   87   88