Page 86 - หนังสือคู่มือดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
P. 86
78
ื
ื
่
กำรฟ้องคดีปกครองทย่นเมอพนก�ำหนดเวลำกำรฟ้องคดีแล้ว ถำศำลปกครองเหนว่ำคดีท่ยนฟ้องน้น
่
ี
้
ื
่
ั
้
็
ี
ื
จะเป็นประโยชน์แก่ส่วนรวมหรือมีเหตุจ�ำเป็นอ่นโดยศำลเห็นเองหรือคู่กรณีมีค�ำขอ ศำลปกครองจะรับไว้
พิจำรณำก็ได้
มำตรำ ๕๓ ในกรณีที่คู่กรณีฝ่ำยหนึ่งถึงแก่ควำมตำยก่อนศำลปกครองพิพำกษำคดีให้ศำลปกครอง
รอกำรพิจำรณำไปจนกว่ำทำยำท ผู้จัดกำรมรดก ผู้ปกครองทรัพย์มรดก หรือผู้สืบสิทธิของคู่กรณีผู้นั้นจะมี
ี
ค�ำขอเข้ำมำแทนท่คู่กรณี ผู้ถึงแก่ควำมตำยหรือผู้มีส่วนได้เสียจะมีค�ำขอเข้ำมำ โดยมีค�ำขอเข้ำมำเองหรือ
ี
ึ
ื
โดยท่ศำลหมำยเรียกให้เข้ำมำ เน่องจำกคู่กรณีฝ่ำยหน่งฝ่ำยใดมีค�ำขอ ค�ำขอเช่นว่ำน้จะต้องย่นภำยในก�ำหนด
ื
ี
หนึ่งปีนับแต่วันที่คู่กรณีผู้นั้นถึงแก่ควำมตำย
ึ
ถ้ำไม่มีค�ำขอของบุคคลดังกล่ำว หรือไม่มีค�ำขอของคู่กรณีฝ่ำยหน่งฝ่ำยใดภำยในเวลำท่ก�ำหนดตำม
ี
วรรคหนึ่ง ศำลปกครองจะมีค�ำสั่งจ�ำหน่ำยคดีนั้นก็ได้
ส่วนที่ ๒
กำรด�ำเนินคดีปกครอง
มำตรำ ๕๔ ศำลปกครองสูงสุดต้องมีตุลำกำรในศำลปกครองสูงสุดอย่ำงน้อยห้ำคนจึงจะเป็น
องค์คณะพิจำรณำพิพำกษำ
ศำลปกครองช้นต้นต้องมีตุลำกำรในศำลปกครองช้นต้นอย่ำงน้อยสำมคนจึงจะเป็นองค์คณะพิจำรณำ
ั
ั
พิพำกษำ
มำตรำ ๕๕ กำรพิจำรณำพิพำกษำคดีต้องด�ำเนินกำรให้เสร็จส้นไปโดยเร็ว แต่ต้องเปิดโอกำสให้คู่
ิ
ั
กรณีช้แจงและแสดงพยำนหลกฐำนประกอบค�ำช้แจงของตนตำมควรแก่กรณี แต่กำรช้แจงต้องท�ำเป็น
ี
ี
ี
หนังสือ เว้นแต่เป็นกรณีที่ศำลอนุญำตให้ชี้แจงด้วยวำจำต่อหน้ำศำล
่
้
่
ุ
ี
ื
่
�
้
่
ี
้
้
่
คกรณีมีสทธขอตรวจดพยำนหลกฐำนทแตละฝำยไดยนไวในสำนวน เวนแตกรณใดมกฎหมำยคมครอง
ั
ู
ิ
ิ
ู
ี
่
ิ
ิ
้
ิ
่
่
้
�
้
ี
่
็
ิ
่
็
้
�
ใหไมตองเปดเผย หรอศำลปกครองเหนวำจำเปนตองไมเปดเผย เพอมใหเกดควำมเสยหำยแกกำรดำเนนงำน
ื
่
ิ
ื
ของรัฐ แต่กรณีที่ไม่เปิดเผยดังกล่ำว ศำลปกครองจะน�ำมำใช้รับฟังในกำรพิจำรณำพิพำกษำคดีไม่ได้
ในกำรพิจำรณำพิพำกษำคดี ศำลปกครองอำจตรวจสอบและแสวงหำข้อเท็จจริงได้ตำมควำม
เหมำะสม ในกำรน้ ศำลปกครองจะรับฟังพยำนบุคคล พยำนเอกสำร พยำนผู้เช่ยวชำญหรือพยำนหลักฐำนอน
ี
ื
่
ี
นอกเหนือจำกพยำนหลักฐำนของคู่กรณีได้ตำมที่เห็นสมควร
พยำนบุคคลหรือพยำนผู้เช่ยวชำญท่ศำลปกครองเรียกมำให้ถ้อยค�ำหรือท�ำควำมเห็นต่อศำลปกครอง
ี
ี
มีสิทธิได้รับค่ำตอบแทนตำมหลักเกณฑ์และวิธีกำรที่ก�ำหนดในพระรำชกฤษฎีกำ
ื
ั
มำตรำ ๕6 เม่อมีกำรฟ้องคดีต่อศำลปกครองใด กำรจ่ำยส�ำนวนคดีในศำลปกครองน้นให้ประธำน
ศำลปกครองสูงสุดหรืออธิบดีศำลปกครองชั้นต้นปฏิบัติตำมหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้