Page 90 - หนังสือคู่มือดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
P. 90
82
้
้
ื
ั
่
ี
(๒) มคำส่งเรยกใหหนวยงำนทำงปกครองหรอเจำหนำทของรฐทสงวตถ เอกสำร หรอพยำนหลกฐำน
ั
�
ี
่
้
ี
่
ั
ั
ื
ุ
่
ี
ื
ึ
ี
ี
อ่นท่เก่ยวข้อง หรือให้ควำมเห็นในเร่องหน่งเร่องใด หรือส่งผู้แทนหรือเจ้ำหน้ำท่ของรัฐในหน่วยงำนทำง
ื
ื
ี
ปกครองนั้นมำชี้แจงหรือให้ถ้อยค�ำประกอบกำรพิจำรณำ
(๓) มีค�ำสั่งเรียกให้คู่กรณีมำให้ถ้อยค�ำหรือน�ำพยำนหลักฐำนมำประกอบกำรพิจำรณำ
ี
ั
ี
(๔) มีค�ำส่งเรียกให้บุคคลท่เก่ยวข้องกับคดีมำให้ถ้อยค�ำ หรือให้ส่งพยำนหลักฐำนมำประกอบกำร
พิจำรณำ
ั
ี
ี
ั
ื
ี
ี
(๕) ไต่สวนหรือมีค�ำส่งในเร่องใดท่มิใช่กำรวินิจฉัยช้ขำดคดี ท้งน้ ตำมท่ก�ำหนดในระเบียบของที ่
ประชุมใหญ่ตุลำกำรในศำลปกครองสูงสุด
ี
ในกรณีจ�ำเป็น ตุลำกำรศำลปกครองหรือบุคคลท่ได้รับมอบหมำยจำกตุลำกำรศำลปกครองมีอ�ำนำจ
ไปตรวจสอบสถำนที่ บุคคล หรือสิ่งอื่นใดเพื่อประกอบกำรพิจำรณำก็ได้
มำตรำ 6๒ ถ้ำผู้ฟ้องคดีได้รับค�ำส่งจำกศำลปกครองให้มำให้ถ้อยค�ำหรือแสดงพยำนหลักฐำนแล้ว
ั
ไม่ด�ำเนินกำรตำมค�ำสั่งนั้นภำยในระยะเวลำที่ศำลปกครองก�ำหนดโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ศำลปกครอง
จะสั่งให้จ�ำหน่ำยคดีเสียก็ได้
ึ
ั
ั
ี
คดีท่ศำลปกครองได้ส่งจ�ำหน่ำยตำมวรรคหน่ง ถ้ำภำยในเก้ำสิบวันนับแต่วันที่ศำลปกครองมีค�ำส่ง
ี
ี
�
่
่
ิ
�
ิ
ั
ู
ั
่
ให้จำหน่ำยคด ผ้ฟ้องคดแสดงให้เป็นทพอใจแก่ศำลปกครองได้ว่ำกำรทตนไม่สำมำรถปฏบตตำมคำสงของ
ี
ี
ศำลปกครองได้น้น เป็นเพรำะเหตุสุดวิสัยหรือมีเหตุอันสมควร ศำลปกครองจะอนุญำตให้พิจำรณำใหม่
ั
หรือฟ้องคดีใหม่ก็ได้
มำตรำ 6๓ ตุลำกำรศำลปกครองในองค์คณะพิจำรณำพิพำกษำหรือผู้แถลงคดีปกครองอำจ
ี
ถูกคัดค้ำนได้ตำมเหตุแห่งกำรคัดค้ำนผู้พิพำกษำท่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมำยวิธีพิจำรณำควำมแพ่ง
รวมทั้งเหตุอื่นใดอันมีสภำพร้ำยแรงซึ่งอำจท�ำให้กำรพิจำรณำพิพำกษำคดีเสียควำมยุติธรรม
ื
ั
กำรขอถอนตัวจำกคดี กำรย่นค�ำคัดค้ำน กำรพิจำรณำค�ำคัดค้ำน กำรส่งให้ผู้ถูกคัดค้ำนงดกำรปฏิบัต ิ
ี
ี
่
ื
ิ
่
้
่
ั
่
ุ
่
่
ี
ุ
ู้
หนำท และกำรสงให้ผอนเขำปฏบตหนำทแทน ให้เปนไปตำมทกำหนดในระเบยบของทประชมใหญตลำกำร
้
ิ
ี
ี
่
ั
็
้
�
ในศำลปกครองสูงสุด
ั
กำรส่งให้ตุลำกำรศำลปกครองผู้ถูกคัดค้ำนงดกำรพิจำรณำย่อมไม่กระทบกระเทือนถึงกำรกระท�ำ
ใด ๆ ของตุลำกำรศำลปกครองผู้ถูกคัดค้ำนที่กระท�ำไปแล้ว
มำตรำ 6๔ นอกจำกท่บัญญัติไว้แล้วในพระรำชบัญญัติน้ให้น�ำบทบัญญัติท่ถือว่ำเป็นกำรกระท�ำ
ี
ี
ี
ละเมิดอ�ำนำจศำลตำมประมวลกฎหมำยวิธีพิจำรณำควำมแพ่งมำใช้บังคับโดยอนุโลมและเม่อมีกำรละเมิด
ื
อ�ำนำจศำลให้ศำลปกครองมีอ�ำนำจสั่งลงโทษได้ดังนี้
(๑) ตักเตือน โดยจะมีค�ำต�ำหนิเป็นลำยลักษณ์อักษรด้วยหรือไม่ก็ได้
(๒) ไล่ออกจำกบริเวณศำล
(๓) ลงโทษจ�ำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินห้ำหมื่นบำท หรือทั้งจ�ำทั้งปรับ
กำรส่งลงโทษฐำนละเมิดอ�ำนำจศำลพึงใช้อย่ำงระมัดระวังและเท่ำท่จ�ำเป็นตำมพฤติกำรณ์แห่งกรณ ี
ี
ั
และหำกเป็นกำรสั่งลงโทษตำม (๓) ให้องค์คณะอื่นที่มิใช่องค์คณะพิจำรณำพิพำกษำคดีนั้นเป็นผู้พิจำรณำ
และสั่งลงโทษ