Page 87 - หนังสือคู่มือดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
P. 87

79





                                                                                   ึ
                                             ี
                             ี
                                                     ี
                  (๑) ในกรณีท่มีกำรจัดองค์คณะท่มีควำมเช่ยวชำญในประเภทคดีด้ำนใดด้ำนหน่งเป็นกำรเฉพำะ
            ต้องจ่ำยส�ำนวนคดีให้ตรงกับควำมเชี่ยวชำญขององค์คณะที่จัดไว้
                             ี
                  (๒) ในกรณีท่มีกำรแบ่งพ้นทรับผิดชอบคดขององค์คณะ ต้องจ่ำยส�ำนวนคดีท่มีมูลคดีเกิดข้นใน
                                                                                            ึ
                                       ื
                                                                                  ี
                                                     ี
                                         ่
                                         ี
            พื้นที่ให้แก่องค์คณะที่จัดไว้
                  (๓) ในกรณีที่ไม่มีกำรจัดองค์คณะตำม (๑) หรือ (๒) หรือมีกำรจัดไว้ลักษณะเดียวกันหลำยองค์คณะ
                         ี
                                                                           ึ
            หรือองค์คณะท่รับผิดชอบคดีดังกล่ำวมีคดีค้ำงกำรพิจำรณำอยู่เป็นจ�ำนวนมำก ซ่งหำกจ่ำยส�ำนวนคดีให้แก่
            องค์คณะนนจะทำให้คดล่ำช้ำ หรอกระทบกระเทอนต่อควำมยตธรรม ให้จ่ำยสำนวนคดโดยใช้วธกำรใด
                          �
                     ั
                     ้
                                                                            �
                                       ื
                                                    ื
                                                                                   ี
                                                                                         ิ
                                                                                          ี
                                ี
                                                                ิ
                                                               ุ
            ที่ไม่อำจคำดหมำยได้ล่วงหน้ำว่ำจะจ่ำยส�ำนวนคดีให้แก่องค์คณะใด
                  เม่อองค์คณะในศำลปกครองใดได้รับส�ำนวนคดีแล้ว ให้ตุลำกำรหัวหน้ำคณะศำลปกครองสูงสุดหรือ
                    ื
            ตุลำกำรหัวหน้ำคณะศำลปกครองชั้นต้นในองค์คณะนั้น แล้วแต่กรณี แต่งตั้งตุลำกำรศำลปกครองในคณะ
                                                 ื
                       ึ
            ของตนคนหน่งเป็นตุลำกำรเจ้ำของส�ำนวน เพ่อเป็นผู้ด�ำเนินกำรรวบรวมข้อเท็จจริงจำกค�ำฟ้อง ค�ำช้แจง
                                                                                            ี
                                              ี
                                                          ี
                                                ี
                                                       ั
            ของคู่กรณี และรวบรวมพยำนหลักฐำนท่เก่ยวข้อง ท้งน้โดยมีพนักงำนคดีปกครองเป็นผู้ช่วยด�ำเนินกำร
            ตำมที่ตุลำกำรเจ้ำของส�ำนวนมอบหมำย
                    ื
                  เม่อได้มอบส�ำนวนคดีให้แก่ตุลำกำรเจ้ำของส�ำนวนคนใดแล้ว หรือได้จ่ำยส�ำนวนคดีให้แก่องค์คณะใด
            แล้ว ห้ำมมิให้มีกำรเรียกคืนส�ำนวนคดีหรือโอนส�ำนวนคดี เว้นแต่กรณีดังต่อไปน  ี ้
                       ื
                                                  ี
                                       ี
                  (๑) เม่อมีกำรโอนคดีตำมท่ระเบียบของท่ประชุมใหญ่ตุลำกำรในศำลปกครองสูงสุดก�ำหนด
                  (๒) เมื่อมีกำรคัดค้ำนตุลำกำรเจ้ำของส�ำนวนส�ำหรับกรณีเรียกคืนส�ำนวน หรือตุลำกำรศำลปกครอง
            ในองค์คณะพิจำรณำพิพำกษำนั้นถูกคัดค้ำน หรือไม่ครบองค์คณะส�ำหรับกรณีโอนส�ำนวน
                        ื
                  (๓) เม่อตุลำกำรเจ้ำของส�ำนวนหรือองค์คณะพิจำรณำพิพำกษำมีคดีค้ำงกำรพิจำรณำอยู่เป็น
                       ึ
            จ�ำนวนมำกซ่งจะท�ำให้กำรพิจำรณำคดีล่ำช้ำ และตุลำกำรเจ้ำของส�ำนวนหรือองค์คณะพิจำรณำพิพำกษำ
            ขอสละส�ำนวนคดีที่ตนรับผิดชอบอยู่
                  มำตรำ ๕๗ ให้ตุลำกำรเจ้ำของส�ำนวนท�ำหน้ำท่ตรวจสอบและเสนอควำมเห็นในข้อเท็จจริง
                                                           ี
            และข้อกฎหมำยต่อองค์คณะพิจำรณำพิพำกษำ ตลอดจนด�ำเนินกำรต่ำง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับคดีนั้น
                                                                           ิ
                                                                          ้
                                                  ้
                                                                                     ่
                                                                                           ้
                         ่
                  ในระหวำงกำรด�ำเนินกำรของตุลำกำรเจำของส�ำนวนตำมวรรคหนึ่ง ใหเปดโอกำสใหคูกรณีไดทรำบ
                                                                                    ้
                                                                                ื
            ถึงข้ออ้ำงหรือข้อแย้งของแต่ละฝ่ำย และให้คู่กรณีแสดงพยำนหลักฐำนของฝ่ำยตนเพ่อยืนยันหรือหักล้ำง
                                          ุ
                                       ื
                 ็
            ข้อเทจจรงและข้อกฎหมำยได้ เม่อตลำกำรเจ้ำของสำนวนเห็นว่ำได้รวบรวมข้อเท็จจริงและข้อกฎหมำย
                    ิ
                                                       �
                                                                                 ื
            เพียงพอแล้ว ให้ตุลำกำรเจ้ำของส�ำนวนท�ำควำมเห็นเสนอให้องค์คณะพิจำรณำพิพำกษำเพ่อพิจำรณำคดีต่อไป
                  ในกำรให้โอกำสคู่กรณีตำมวรรคสอง ให้ตุลำกำรเจ้ำของส�ำนวนก�ำหนดให้คู่กรณีแสดงพยำนหลักฐำน
                                                                             �
                                                                                              ี
                                                                                          ู
                                                                            ี
                                                                            ่
                                      �
                                                ู
                                                    ี
            ของฝ่ำยตนภำยในระยะเวลำทกำหนด ถ้ำค่กรณมได้ปฏบตภำยในระยะเวลำทกำหนด ให้ถือว่ำค่กรณท    ี ่
                                     ่
                                     ี
                                                          ิ
                                                           ั
                                                     ิ
                                                            ิ
                                   ั
            ไม่ได้แสดงพยำนหลักฐำนน้นไม่มีพยำนหลักฐำนสนับสนุนหรือยอมรับข้อเท็จจริงตำมพยำนหลักฐำน
            ของคู่กรณีอีกฝ่ำยหน่งแล้วแต่กรณี และให้ศำลปกครองพิจำรณำพิพำกษำต่อไปตำมท่เห็นเป็นกำรยุติธรรม
                             ึ
                                                                               ี
                                                                                         ี
                                                         ี
                          ี
                  ในกรณีท่หน่วยงำนทำงปกครองหรือเจ้ำหน้ำท่ของรัฐไม่ด�ำเนินกำรภำยในระยะเวลำท่ก�ำหนด
                                                                                              ุ
            ตำมวรรคสำมหรือมีพฤติกรรมประวิงคดีให้ล่ำช้ำ ศำลปกครองจะรำยงำนผู้บังคับบัญชำ ผู้ก�ำกับดูแล ผู้ควบคม
   82   83   84   85   86   87   88   89   90   91   92