Page 92 - หนังสือคู่มือดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
P. 92

84





                                                                          ี
                ในกรณีท่กำรไกล่เกล่ยข้อพิพำทตำมวรรคหน่ง เป็นกำรไกล่เกล่ยข้อพิพำทท่เก่ยวกับเงินหรือทรัพย์สิน
                                                                ี
                                                                            ี
                       ี
                                ี
                                                   ึ
           คณะรัฐมนตรีอำจก�ำหนดหลักเกณฑ์ให้หน่วยงำนทำงปกครองหรือเจ้ำหน้ำท่ของรัฐท่เป็นคู่กรณีต้องได้รับ
                                                                              ี
                                                                       ี
           ควำมเห็นชอบจำกกระทรวงกำรคลังหรือหน่วยงำนที่มีอ�ำนำจก�ำกับดูแลตำมกฎหมำยด้วยก็ได้
                            ๗๘
                มำตรำ 66/๓  ห้ำมมิให้มีกำรไกล่เกลี่ยข้อพิพำทในกรณีที่มีลักษณะ ดังต่อไปนี้
                (๑) กำรไกล่เกลี่ยข้อพิพำทที่เป็นกำรฝ่ำฝืนหรือต้องห้ำมชัดแจ้งโดยกฎหมำย
                (๒) กำรไกล่เกลี่ยข้อพิพำทที่เกี่ยวกับควำมสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชำชน
                (๓) กำรไกล่เกล่ยข้อพพำทท่มีผลกระทบต่อสถำนะของบุคคลหรือมผลกระทบในทำงเสียหำย
                                        ี
                                                                         ี
                              ี
                                   ิ
           ต่อประโยชน์สำธำรณะ
                (๔) กำรไกล่เกลี่ยข้อพิพำทที่มีผลกระทบร้ำยแรงต่อกำรบังคับใช้กฎหมำย
                (๕) กำรไกล่เกลี่ยข้อพิพำทที่อยู่นอกเหนือสิทธิ อ�ำนำจหน้ำที่ หรือควำมสำมำรถของคู่กรณี
                                            ี
                (๖) กำรไกล่เกล่ยข้อพิพำทท่เก่ยวกับค�ำวินิจฉัยของคณะกรรมกำรวินิจฉัยข้อพิพำทตำม
                                          ี
                               ี
           มำตรำ ๑๑ (๑)
                                                                                 ี
                                        ี
                (๗) กำรไกล่เกล่ยข้อพิพำทท่เก่ยวกับค�ำวินิจฉัยของคณะกรรมกำรวินิจฉัยข้อพิพำทท่กฎหมำยก�ำหนด
                            ี
                                      ี
           ให้ฟ้องคดีต่อศำลปกครองสูงสุด
                             ี
                                        ี
                                                       ี
                (๘) กำรไกล่เกล่ยข้อพิพำทท่มีลักษณะอ่นตำมท่ก�ำหนดในระเบียบของท่ประชุมใหญ่ตุลำกำรใน
                                                 ื
                                                                           ี
           ศำลปกครองสูงสุด
                            ๗9
                                                                                ิ
                มำตรำ 66/๔  ในเวลำใด ๆ นับแต่มีกำรฟ้องคดีต่อศำลปกครองจนถึงวันส้นสุดกำรแสวงหำ
                                    ื
                                                                ี
                                                 ื
           ข้อเท็จจริง คู่กรณีอำจร่วมกันย่นค�ำขอต่อศำลเพ่อให้มีกำรไกล่เกล่ยข้อพิพำท หรือคู่กรณีฝ่ำยใดฝ่ำยหนึ่ง
                                                   ี
                                  ื
               ื
           อำจย่นค�ำขอและคู่กรณีฝ่ำยอ่นตกลงให้มีกำรไกล่เกล่ยข้อพิพำท ในกรณีเช่นน้ ถ้ำองค์คณะพิจำรณำพิพำกษำ
                                                                      ี
                                                                  ั
           เห็นสมควรและประธำนศำลปกครองสูงสุดหรืออธิบดีศำลปกครองช้นต้น แล้วแต่กรณีเห็นชอบให้ศำล
                                                                                          ิ
                                               ั
                                                                                     ่
                                                                ่
                                                                ี
               ิ
                                                     �
                                                           ู
                                              ี
                                                                                     ี
           ด�ำเนนกำรไกล่เกล่ยข้อพิพำทระหว่ำงคู่กรณน้นได้ สำหรับค่กรณีทไม่ได้ตกลงให้มีกำรไกล่เกลยข้อพพำท
                          ี
           ศำลอำจด�ำเนินกระบวนพิจำรณำต่อไปก็ได้
                                                              ี
                  ื
                เม่อองค์คณะพิจำรณำพิพำกษำเห็นสมควรให้มีกำรไกล่เกล่ยข้อพิพำทและคู่กรณียินยอมให้น�ำควำม
           ในวรรคหนึ่งมำใช้บังคับโดยอนุโลม
                                                          ั
                                                                             ั
                ให้ประธำนศำลปกครองสูงสุดหรืออธิบดีศำลปกครองช้นต้น แล้วแต่กรณี แต่งต้งตุลำกำรศำลปกครอง
                                                                     ี
           ซ่งไม่มีหน้ำท่รับผิดชอบคดีในส�ำนวนคดีน้น ปฏิบัติหน้ำท่เป็นผู้ไกล่เกล่ยข้อพิพำท โดยค�ำนึงถึงควำมรู้
            ึ
                                             ั
                     ี
                                                         ี
                 ี
           ควำมเช่ยวชำญและควำมเหมำะสมของตุลำกำรศำลปกครองผู้น้น
                                                            ั
                            ๘0
                มำตรำ 66/๕  กำรไกล่เกลี่ยข้อพิพำทต้องด�ำเนินกำรให้เสร็จโดยเร็วภำยในระยะเวลำที่ตุลำกำร
                             ี
                                                                                  ั
           ศำลปกครองผู้ไกล่เกล่ยข้อพิพำทก�ำหนด โดยต้องไม่ท�ำให้กำรพิจำรณำพิพำกษำคดีน้นล่ำช้ำออกไป
           โดยไม่สมควร
                ๗๘  มำตรำ ๖๖/๓ เพ่มโดยพระรำชบัญญัติจัดตงศำลปกครองและวธีพจำรณำคดีปกครอง (ฉบับท่ ๑๒) พ.ศ. ๒๕๖๒
                                                                                  ี
                                                ั
                                                ้
                                                              ิ
                               ิ
                                                                ิ
                ๗9  มำตรำ ๖๖/๔ เพ่มโดยพระรำชบัญญัติจัดตงศำลปกครองและวธีพจำรณำคดีปกครอง (ฉบับท่ ๑๒) พ.ศ. ๒๕๖๒
                                                ั
                                                                                  ี
                               ิ
                                                              ิ
                                                                ิ
                                                ้
                ๘0  มำตรำ ๖๖/๕ เพ่มโดยพระรำชบัญญัติจัดตงศำลปกครองและวธีพจำรณำคดีปกครอง (ฉบับท่ ๑๒) พ.ศ. ๒๕๖๒
                                                                                  ี
                                                                ิ
                               ิ
                                                ั
                                                              ิ
                                                ้
   87   88   89   90   91   92   93   94   95   96   97