Page 93 - หนังสือคู่มือดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
P. 93

85




                             ๘๑
                  มำตรำ 66/6 ตุลำกำรศำลปกครองผู้ไกล่เกล่ยข้อพิพำทต้องวำงตนเป็นกลำงและปรำศจำกอคต ิ
                                                        ี
            ในกำรปฏิบัติหน้ำที่
                  ให้น�ำควำมในมำตรำ ๖๓ มำใช้บังคับแก่กำรคัดค้ำนและกำรถอนตัวของตุลำกำรศำลปกครอง
            ผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพำทโดยอนุโลม
                              ๘๒
                  มำตรำ 66/๗  แนวทำง ควำมเห็นชอบ ค�ำสั่ง หรือกำรด�ำเนินกำรใด บรรดำซึ่งกระท�ำลงในกำร
                                                                         ั
                   ี
            ไกล่เกล่ยข้อพิพำทโดยประธำนศำลปกครองสูงสุด อธิบดีศำลปกครองช้นต้น ตุลำกำรศำลปกครอง
                    ี
            ผู้ไกล่เกล่ยข้อพิพำท องค์คณะพิจำรณำพิพำกษำ หรือตุลำกำรเจ้ำของส�ำนวนท่เก่ยวกับกำรไกล่เกล่ย
                                                                                               ี
                                                                              ี
                                                                                ี
            ข้อพิพำท ไม่อำจอุทธรณ์ได้
                             ๘๓
                                                                                               ่
                                                              ี
                                             ี
                                                                                               ี
                  มำตรำ 66/๘  ห้ำมมิให้คู่กรณีท่เข้ำร่วมในกำรไกล่เกล่ยข้อพิพำท ตุลำกำรศำลปกครองผู้ไกล่เกลย
                                                                                       ี
                                                  ่
                                                  ี
                       ี
                     ู
                        ี
                                                                      ่
                                                                      ื
                                                                             ื
            ข้อพิพำทผ้ท่เก่ยวข้องในกำรด�ำเนินกำรไกล่เกลยข้อพิพำท หรือบุคคลอนใดน�ำเร่องดงต่อไปน้ไปเปิดเผย
                                                                                 ั
                                                                                ื
                                                                                            ื
            หรืออ้ำงอิง หรือน�ำสืบเป็นพยำนหลักฐำนในกระบวนพิจำรณำคดีของศำลหรือเพ่อด�ำเนินกำรอ่นใด
            ไม่ว่ำจะด้วยวิธีกำรใด ๆ
                  (๑) ควำมประสงค์หรือควำมยินยอมของคู่กรณีในกำรขอเข้ำร่วมในกำรไกล่เกลี่ยข้อพิพำท
                                ื
                                                             ื
                                               ี
                                               ่
                  (๒) ควำมเหนหรอข้อเสนอแนะเกยวกับแนวทำงหรอวิธีกำรในกำรระงับข้อพิพำทของค่กรณ     ี
                             ็
                                                                                            ู
            ในกำรไกล่เกลี่ยข้อพิพำท
                  (๓) กำรยอมรับหรือข้อควำมที่กระท�ำโดยคู่กรณีในกำรไกล่เกลี่ยข้อพิพำท
                  (๔) ข้อเท็จจริงที่คู่กรณีน�ำมำใช้ในกำรไกล่เกลี่ยข้อพิพำท
                  (๕) เอกสำรที่จัดท�ำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในกำรไกล่เกลี่ยข้อพิพำท
                        ี
                          ี
                                                  ื
                  ข้อมูลท่เก่ยวกับกำรไกล่เกล่ยข้อพิพำทอ่นนอกจำกข้อมูลตำมวรรคหน่ง อำจเปิดเผยหรืออ้ำงอิงได้
                                        ี
                                                                          ึ
            ตำมที่ก�ำหนดในระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลำกำรในศำลปกครองสูงสุด
                  พยำนหลักฐำนใดท่ใช้ในกำรไกล่เกล่ยข้อพิพำท หำกเป็นพยำนหลักฐำนท่น�ำสืบได้อยู่แล้ว
                                                                                  ี
                                   ี
                                                 ี
                                                                              ื
            ในกระบวนกำรอนุญำโตตุลำกำร กระบวนพิจำรณำของศำล หรือกำรด�ำเนินกำรอ่นใด โดยอำศัยอ�ำนำจ
            ตำมกฎหมำย ย่อมไม่ต้องห้ำมตำมควำมในวรรคหนึ่ง
                  ห้ำมมให้อนญำโตตลำกำร ศำล หน่วยงำนทำงปกครอง หรอบคคลอนใดรบฟังหรอนำข้อเทจจรง
                            ุ
                                                                                               ิ
                                                                  ื
                                                                    ุ
                                                                         ื
                                                                             ั
                                 ุ
                       ิ
                                                                                    ื
                                                                         ่
                                                                                      �
                                                                                            ็
            ที่ได้มำจำกกำรฝ่ำฝืนมำตรำนี้ไปใช้ประโยชน์
                             ๘๔
                  มำตรำ 66/๙  กำรไกล่เกลี่ยข้อพิพำทในคดีปกครองสิ้นสุดลง เมื่อมีกรณีดังต่อไปนี้
                  (๑) มีกำรถอนค�ำฟ้องโดยศำลอนุญำตให้ถอนค�ำฟ้องได้ หรือศำลมีค�ำสั่งจ�ำหน่ำยคดีนั้นจำกสำรบบ
            ควำมโดยเหตุอื่น
                  (๒) กำรไกล่เกลี่ยข้อพิพำทส�ำเร็จในประเด็นแห่งคดีทั้งหมดหรือบำงส่วนตำมมำตรำ ๖๖/๑0
                  ๘๑  มำตรำ ๖๖/๖ เพ่มโดยพระรำชบัญญัติจัดตงศำลปกครองและวธีพจำรณำคดีปกครอง (ฉบับท่ ๑๒) พ.ศ. ๒๕๖๒
                                 ิ
                                                                                    ี
                                                  ั
                                                               ิ
                                                                  ิ
                                                  ้
                  ๘๒  มำตรำ ๖๖/๗ เพ่มโดยพระรำชบัญญัติจัดตงศำลปกครองและวธีพจำรณำคดีปกครอง (ฉบับท่ ๑๒) พ.ศ. ๒๕๖๒
                                                                                    ี
                                                  ้
                                                  ั
                                 ิ
                                                               ิ
                                                                  ิ
                  ๘๓  มำตรำ ๖๖/๘ เพ่มโดยพระรำชบัญญัติจัดตงศำลปกครองและวธีพจำรณำคดีปกครอง (ฉบับท่ ๑๒) พ.ศ. ๒๕๖๒
                                 ิ
                                                                  ิ
                                                                                    ี
                                                  ั
                                                  ้
                                                               ิ
                  ๘๔  มำตรำ ๖๖/9 เพมโดยพระรำชบัญญัติจัดตงศำลปกครองและวธีพจำรณำคดีปกครอง (ฉบับท่ ๑๒) พ.ศ. ๒๕๖๒
                                                  ้
                                 ่
                                 ิ
                                                  ั
                                                                                    ี
                                                                  ิ
                                                               ิ
   88   89   90   91   92   93   94   95   96   97   98