Page 98 - หนังสือคู่มือดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
P. 98

90





                (๒) คู่กรณีท่แท้จริงหรือบุคคลภำยนอกน้นมิได้เข้ำมำในกำรด�ำเนินกระบวนพิจำรณำคดีหรือ
                           ี
                                                   ั
           ได้เข้ำมำแล้วแต่ถูกตัดโอกำสโดยไม่เป็นธรรมในกำรด�ำเนินกระบวนพิจำรณำ
                (๓) มีข้อบกพร่องส�ำคัญในกระบวนพิจำรณำพิพำกษำที่ท�ำให้ผลของคดีไม่มีควำมยุติธรรม
                                             ึ
                (๔) ค�ำพิพำกษำหรือค�ำส่งน้นได้ท�ำข้นโดยอำศัยข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมำยใด และต่อมำข้อเท็จจริง
                                      ั
                                    ั
             ื
               ้
                                                   ึ
                         ้
                                                ั
                             ่
                                              �
                         ั
                             ี
                                                                                ั
                                                                              ั
                                                                            �
                                                                                  ั
           หรอขอกฎหมำยนนเปลยนแปลงไปในสำระสำคญซงทำใหผลแหงคำพพำกษำหรอคำส่งขดกบกฎหมำยทใช้
                                                                                            ี
                                                                                            ่
                                                                         ื
                                                        ้
                                                     �
                                                   ่
                                                               �
                                                                 ิ
                                                             ่
           บังคับอยู่ในขณะนั้น
                                     ึ
                     ื
                                                                                             ั
                                                         ื
                กำรย่นค�ำขอตำมวรรคหน่ง ให้กระท�ำได้เฉพำะเม่อคู่กรณีหรือบุคคลภำยนอกไม่ทรำบถึงเหตุน้น
           ในกำรพิจำรณำคดีครั้งที่แล้วมำ โดยมิใช่ควำมผิดของผู้นั้น
                                                                                          ี
                                                      ั
                กำรย่นค�ำขอให้พิจำรณำพิพำกษำคดีหรือมีค�ำส่งใหม่ต้องกระท�ำภำยในเก้ำสิบวันนับแต่วันท่ผู้น้น
                     ื
                                                                                             ั
           ได้รู้หรือควรรู้ถึงเหตุซ่งอำจขอให้พิจำรณำพิพำกษำหรือมีค�ำส่งใหม่ได้ แต่ไม่เกินห้ำปี นับแต่ศำลปกครอง
                            ึ
                                                            ั
           ได้มีค�ำพิพำกษำหรือค�ำสั่งชี้ขำด
                            9๓
                มำตรำ ๗๕/1  กำรบังคับคดีตำมค�ำพิพำกษำหรือค�ำสั่งของศำลปกครอง ให้น�ำบทบัญญัติว่ำด้วย
                                          ั
           กำรบังคับคดีตำมค�ำพิพำกษำหรือค�ำส่ง และบทบัญญัติว่ำด้วยค่ำฤชำธรรมเนียมตำมประมวลกฎหมำย
           วิธีพิจำรณำควำมแพ่ง และค่ำธรรมเนียมเจ้ำพนักงำนบังคับคดีท้ำยประมวลกฎหมำยดังกล่ำว มำใช้บังคับ
           โดยอนุโลมกับกำรบังคับคดีปกครอง ท้งน้ เท่ำท่ไม่ขัดหรือแย้งกับพระรำชบัญญัติน้และหลักกฎหมำยท่วไป
                                                                           ี
                                                ี
                                           ี
                                         ั
                                                                                           ั
           ว่ำด้วยวิธีพิจำรณำคดีปกครอง
                  ี
                ท่ประชุมใหญ่ตุลำกำรในศำลปกครองสูงสุดมีอ�ำนำจออกระเบียบก�ำหนดหลักเกณฑ์วิธีกำร
           และเงื่อนไขเพื่อปฏิบัติกำรให้เป็นไปตำมวรรคหนึ่ง และเพื่อบังคับตำมค�ำพิพำกษำ หรือค�ำสั่งทำงปกครอง
                            9๔
                มำตรำ ๗๕/๒  ให้เจ้ำพนักงำนบังคับคดีซึ่งศำลปกครองแต่งตั้งจำกข้ำรำชกำรฝ่ำยศำลปกครองที่
           มีคุณสมบัติตำมท่ ก.ศป. ก�ำหนด มีหน้ำท่ปฏิบัติตำมท่บัญญัติไว้ในพระรำชบัญญัติน้และระเบียบของ
                                                                                ี
                                                        ี
                         ี
                                             ี
                                                                       ื
           ท่ประชุมใหญ่ตุลำกำรในศำลปกครองสูงสุด ในระหว่ำงกำรพิจำรณำหรือเพ่อบังคับตำมค�ำพิพำกษำหรือ
            ี
           ค�ำสั่งของศำลปกครอง
                                                                                             ื
                                              ึ
                ในกำรบังคับคดีปกครองตำมวรรคหน่ง เจ้ำพนักงำนบังคับคดีอำจมอบหมำยให้เอกชนหรือบุคคลอ่น
                                                                  ั
                                                                                    ี
                                                                     ี
           ปฏิบัติกำรแทนภำยใต้กำรก�ำกับดูแลของเจ้ำพนักงำนบังคับคดีก็ได้ ท้งน้ ตำมระเบียบของท่ประชุมใหญ่
           ตุลำกำรในศำลปกครองสูงสุด
                            9๕
                มำตรำ ๗๕/๓ เมื่อควำมปรำกฏแก่ศำลปกครอง หรือคู่กรณียื่นค�ำขอ หรือเจ้ำพนักงำนบังคับคดี
           รำยงำนต่อศำลปกครองว่ำ คู่กรณียังไม่ปฏิบัติตำมค�ำบังคับของศำลปกครองหรือมีข้อขัดข้องในกำรปฏิบัติ
                                                                                 ่
                                                                                    �
                                                                                 ั
               �
                    ั
                  ั
                                                                                          ิ
                                                                                           ี
                                                                               �
                                                          ิ
                                                  ี
                                                    �
           ตำมคำบงคบของศำลปกครอง ให้ศำลปกครองมอำนำจพจำรณำหรอไต่สวนและมคำสงกำหนดวธกำร
                                                                              ี
                                                                  ื
           ด�ำเนินกำรให้เป็นไปตำมค�ำพิพำกษำหรือค�ำสั่งหรือมีค�ำสั่งใด ๆ เพื่อให้กำรบังคับคดีเสร็จสิ้นไปโดยเร็ว
                9๓  มำตรำ ๗๕/๑ เพ่มโดยพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลปกครองและวิธีพิจำรณำคดีปกครอง (ฉบับท่ ๘) พ.ศ. ๒๕๕9
                                                 ั
                               ิ
                                                                                   ี
                9๔  มำตรำ ๗๕/๒ เพ่มโดยพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลปกครองและวิธีพิจำรณำคดีปกครอง (ฉบับท่ ๘) พ.ศ. ๒๕๕9
                                                                                   ี
                                                 ั
                               ิ
                9๕  มำตรำ ๗๕/๓ เพ่มโดยพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลปกครองและวิธีพิจำรณำคดีปกครอง (ฉบับท่ ๘) พ.ศ. ๒๕๕9
                                                                                ี
                               ิ
                                                ั
   93   94   95   96   97   98   99   100   101   102   103