Page 97 - หนังสือคู่มือดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
P. 97

89





                  ในกำรมีค�ำบังคับตำมวรรคหน่ง (๑) ศำลปกครองมีอ�ำนำจก�ำหนดว่ำจะให้มีผลย้อนหลังหรือ
                                           ึ
                                                                                             ั
            ไม่ย้อนหลังหรือมีผลไปในอนำคตถึงขณะใดขณะหน่งได้ หรือจะก�ำหนดให้มีเง่อนไขอย่ำงใดก็ได้ ท้งน   ้ ี
                                                                             ื
                                                       ึ
            ตำมควำมเป็นธรรมแห่งกรณี
                  ในกรณีท่ศำลปกครองมีค�ำพิพำกษำถึงท่สุดให้เพิกถอนกฎ ให้มีกำรประกำศผลแห่งค�ำพิพำกษำ
                                                   ี
                         ี
            ดังกล่ำวในรำชกิจจำนุเบกษำ และให้กำรประกำศดังกล่ำวมีผลเป็นกำรเพิกถอนกฎนั้น
                       ๘9
                  วรรคสี่  (ยกเลิก)
                         90
                  วรรคห้ำ  (ยกเลิก)
                         9๑
                  วรรคหก  (ยกเลิก)
                              9๒
                                                                   ั
                                                                                       ั
                  มำตรำ ๗๒/1  ในกำรพิพำกษำคดี ให้ศำลปกครองมีค�ำส่งคืนค่ำธรรมเนียมศำลท้งหมดหรือ
            แต่บำงส่วนตำมส่วนของกำรชนะคดี
                                                         ั
                                                                         ั
                  มำตรำ ๗๓ กำรคัดค้ำนค�ำพิพำกษำหรือค�ำส่งของศำลปกครองช้นต้นน้น ให้ย่นอุทธรณ์ต่อ
                                                                               ั
                                                                                     ื
                                              ั
                                                                           ี
                                                                                               ั
            ศำลปกครองช้นต้นท่มีค�ำพิพำกษำหรือค�ำส่งภำยในก�ำหนดสำมสิบวันนับแต่วันท่ได้มีค�ำพิพำกษำหรือค�ำส่ง
                             ี
                        ั
            ถ้ำมิได้ยื่นอุทธรณ์ตำมก�ำหนดเวลำดังกล่ำว ให้ถือว่ำคดีนั้นเป็นอันถึงที่สุด
                                                                      ั
                                                                        ี
                  ค�ำพิพำกษำหรือค�ำส่งตำมวรรคหน่งให้หมำยควำมรวมถึง ค�ำส่งเก่ยวกับกำรละเมิดอ�ำนำจศำล
                                   ั
                                               ึ
            หรือค�ำสั่งอื่นใดที่ท�ำให้คดีเสร็จเด็ดขำด
                  ในกรณีท่ศำลปกครองสูงสุดเห็นว่ำค�ำอุทธรณ์ใดมีข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมำยท่ไม่เป็นสำระอันควร
                                                                                ี
                         ี
            ได้รับกำรวินิจฉัย ศำลปกครองสูงสุดจะสั่งไม่รับอุทธรณ์นั้นไว้พิจำรณำก็ได้
                  ค�ำพิพำกษำหรือค�ำสั่งของศำลปกครองสูงสุดให้เป็นที่สุด
                                                                             ั
                                                         ี
                                                 ั
                  มำตรำ ๗๔ เม่อมีค�ำพิพำกษำหรือค�ำส่งอันเป็นท่สุดของศำลปกครองต่ำงช้นกันในประเด็นแห่งคด ี
                              ื
            อย่ำงเดียวกัน ขัดหรือแย้งกันให้ถือตำมค�ำพิพำกษำหรือค�ำสั่งของศำลปกครองสูงสุด
                                                             ั
                                    ั
                                            ี
                  ถ้ำค�ำพิพำกษำหรือค�ำส่งอันเป็นท่สุดของศำลปกครองช้นต้นด้วยกันมีกำรขัดหรือแย้งกันในประเด็น
                                                                  ื
            แห่งคดีอย่ำงเดียวกัน คู่กรณีหรือบุคคลภำยนอกผู้มีส่วนได้เสียจะย่นค�ำร้องขอต่อศำลปกครองสูงสุดเพ่อ
                                                                                              ื
            ให้มีค�ำสั่งก�ำหนดว่ำจะให้ถือตำมค�ำพิพำกษำหรือค�ำสั่งใด ค�ำสั่งของศำลปกครองสูงสุดเช่นว่ำนี้ให้เป็นที่สุด
                                                                     ี
                                                                  ั
                                    ี
                  มำตรำ ๗๕ ในกรณีท่ศำลปกครองได้มีค�ำพิพำกษำหรือค�ำส่งช้ขำดคดีปกครองเสร็จเด็ดขำดแล้ว
                                                                         ั
            คู่กรณีหรือบุคคลภำยนอกผู้มีส่วนได้เสียหรืออำจถูกกระทบจำกผลแห่งคดีน้นอำจมีค�ำขอให้ศำลปกครอง
            พิจำรณำพิพำกษำคดีหรือมีค�ำสั่งชี้ขำดคดีปกครองนั้นใหม่ได้ในกรณีดังต่อไปนี้
                  (๑) ศำลปกครองฟังข้อเท็จจริงผิดพลำดหรือมีพยำนหลักฐำนใหม่ อันอำจท�ำให้ข้อเท็จจริงที่ฟังเป็น
            ยุติแล้วนั้นเปลี่ยนแปลงไปในสำระส�ำคัญ
                  ๘9  มำตรำ ๗๒ วรรคส่ ยกเลิกโดยพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลปกครองและวิธีพิจำรณำคดีปกครอง (ฉบับท่ ๘) พ.ศ. ๒๕๕9
                                 ี
                                                     ั
                                                                                      ี
                  90   มำตรำ ๗๒ วรรคห้ำ ยกเลิกโดยพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลปกครองและวิธีพิจำรณำคดีปกครอง (ฉบับท่ ๘) พ.ศ. ๒๕๕9
                                                                                      ี
                                                      ั
                  9๑   มำตรำ ๗๒ วรรคหก ยกเลิกโดยพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลปกครองและวิธีพิจำรณำคดีปกครอง (ฉบับท่ ๘) พ.ศ. ๒๕๕9
                                                      ั
                                                                                      ี
                  9๒  มำตรำ ๗๒/๑ เพ่มโดยพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลปกครองและวิธีพิจำรณำคดีปกครอง (ฉบับท่ ๘) พ.ศ. ๒๕๕9
                                 ิ
                                                  ั
                                                                                     ี
   92   93   94   95   96   97   98   99   100   101   102