Page 96 - หนังสือคู่มือดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
P. 96
88
ี
มำตรำ ๗๐ ค�ำพิพำกษำศำลปกครองให้ผูกพันคู่กรณีท่จะต้องปฏิบัติตำมค�ำบังคับนับแต่วันท่ก�ำหนด
ี
ในค�ำพิพำกษำจนถึงวันที่ค�ำพิพำกษำนั้นถูกเปลี่ยนแปลงแก้ไขกลับหรืองดเสีย
ั
ี
ในกรณีท่เป็นค�ำพิพำกษำของศำลปกครองช้นต้น ให้รอกำรปฏิบัติตำมค�ำบังคับไว้จนกว่ำจะพ้นระยะ
เวลำกำรอุทธรณ์ หรือในกรณีที่มีกำรอุทธรณ์ ให้รอกำรบังคับคดีไว้จนกว่ำคดีจะถึงที่สุด แต่ถ้ำเป็นกรณีที่มี
กำรอุทธรณ์และเป็นคดีท่ก�ำหนดในระเบียบของท่ประชุมใหญ่ตุลำกำรในศำลปกครองสูงสุดคู่กรณีฝ่ำยชนะ
ี
ี
่
ื
�
้
ี
้
ุ
ี
ั
ู
ุ
ี
คดอำจยนคำขอต่อศำลปกครองชนต้น หรือศำลปกครองสงสด แล้วแต่กรณ โดยชแจงเหตผลอันสมควรท ่ ี
ั
ั
ี
ขอให้มีกำรปฏิบัติตำมค�ำบังคับ และให้ศำลปกครองสูงสุดพิจำรณำค�ำขอและมีค�ำส่งตำมท่เห็นสมควร ท้งน้ ี
ี
ตำมหลักเกณฑ์ วิธีกำร และเง่อนไขท่ก�ำหนดโดยระเบียบของท่ประชุมใหญ่ตุลำกำรในศำลปกครองสูงสุด ๘๘
ี
ื
มำตรำ ๗1 ภำยใต้บังคับบทบัญญัติว่ำด้วยกำรอุทธรณ์ค�ำพิพำกษำหรือค�ำสั่งค�ำพิพำกษำหรือค�ำสั่ง
ใด ๆ ให้มีผลผูกพันบุคคลภำยนอกได้ในกรณี ดังต่อไปนี้
ั
ี
ี
(๑) ในค�ำพิพำกษำให้บุคคลใดออกไปจำกสถำนท่ใดให้ใช้บังคับตลอดถึงบริวำรของผู้น้นท่อยู่ใน
สถำนที่นั้นด้วย เว้นแต่ผู้นั้นจะพิสูจน์ได้ว่ำตนมีสิทธิพิเศษอื่น
ั
ื
�
(๒) ถ้ำบุคคลใดได้เข้ำเป็นผู้ค้ำประกันในศำลเพ่อกำรด�ำเนินกำรใด ๆ ตำมค�ำพิพำกษำหรือค�ำส่ง
ให้ค�ำพิพำกษำหรือค�ำสั่งใช้บังคับแก่กำรประกันนั้นได้โดยไม่ต้องฟ้องผู้ค�้ำประกันใหม่
ั
(๓) ค�ำพิพำกษำหรือค�ำส่งเก่ยวกับสถำนะหรือควำมสำมำรถของบุคคล หรือนิติบุคคล บุคคลภำยนอก
ี
จะยกขึ้นอ้ำงอิงหรือใช้ยันกับบุคคลภำยนอกก็ได้ เว้นแต่บุคคลภำยนอกจะมีสิทธิดีกว่ำ
ี
ั
ี
ี
(๔) ค�ำพิพำกษำหรือค�ำส่งท่เก่ยวกับสิทธิแห่งทรัพย์สินใด ๆ คู่กรณีท่เก่ยวข้องอำจอ้ำงกับบุคคล
ี
ภำยนอกได้ เว้นแต่บุคคลภำยนอกจะมีสิทธิดีกว่ำ
มำตรำ ๗๒ ในกำรพิพำกษำคดี ศำลปกครองมีอ�ำนำจก�ำหนดค�ำบังคับอย่ำงหนึ่งอย่ำงใด ดังต่อไปนี้
ั
ั
ั
ั
(๑) ส่งให้เพิกถอนกฎหรือค�ำส่งหรือส่งห้ำมกำรกระท�ำท้งหมดหรือบำงส่วน ในกรณีท่มีกำรฟ้องว่ำ
ี
หน่วยงำนทำงปกครองหรือเจ้ำหน้ำที่ของรัฐกระท�ำกำรโดยไม่ชอบด้วยกฎหมำยตำม มำตรำ 9 วรรคหนึ่ง
(๑)
้
่
ิ
้
่
ั
ี
ี
่
้
(๒) สงใหหวหนำหนวยงำนทำงปกครองหรอเจำหนำทของรฐทเกยวของปฏบตตำมหนำทภำยในเวลำ
ี
ั
ั
่
ิ
ั
่
ี
้
ื
้
่
้
ที่ศำลปกครองก�ำหนด ในกรณีที่มีกำรฟ้องว่ำหน่วยงำนทำงปกครอง หรือเจ้ำหน้ำที่ของรัฐละเลยต่อหน้ำที่
หรือปฏิบัติหน้ำที่ล่ำช้ำเกินสมควร
ั
(๓) ส่งให้ใช้เงินหรือให้ส่งมอบทรัพย์สินหรือให้กระท�ำกำรหรืองดเว้นกระท�ำกำรโดยจะก�ำหนด
ื
ี
ี
ระยะเวลำและเง่อนไขอ่น ๆ ไว้ด้วยก็ได้ ในกรณีท่มีกำรฟ้องเก่ยวกับกำรกระท�ำละเมิดหรือควำมรับผิด
ื
ของหน่วยงำนทำงปกครองหรือเจ้ำหน้ำที่ของรัฐหรือกำรฟ้องเกี่ยวกับสัญญำทำงปกครอง
ี
(๔) ส่งให้ถือปฏิบัติต่อสิทธิหรือหน้ำท่ของบุคคลท่เก่ยวข้อง ในกรณีท่มีกำรฟ้องให้ศำลมีค�ำพิพำกษำ
ี
ั
ี
ี
แสดงควำมเป็นอยู่ของสิทธิหรือหน้ำที่นั้น
(๕) สั่งให้บุคคลกระท�ำหรือละเว้นกระท�ำอย่ำงหนึ่งอย่ำงใดเพื่อให้เป็นไปตำมกฎหมำย
๘๘ มำตรำ ๗0 วรรคสอง แก้ไขเพ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลปกครองและวิธีพิจำรณำคดีปกครอง
ิ
ั
(ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๕9