Page 89 - หนังสือคู่มือดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
P. 89
81
ั
หรือเห็นว่ำกำรไม่จัดให้มีกำรน่งพิจำรณำคดีจะไม่ท�ำให้เสียควำมยุติธรรม องค์คณะพิจำรณำพิพำกษำ
อำจไม่จัดให้มีกำรนั่งพิจำรณำคดีก็ได้ ในกรณีนี้ให้ผู้แถลงคดีปกครองด�ำเนินกำรตำมมำตรำ ๕๘ วรรคหนึ่ง
หรือวรรคสอง ในวันประชุมปรึกษำเพื่อมีค�ำพิพำกษำ
ั
ให้ศำลแจ้งกำรไม่จัดให้มีกำรน่งพิจำรณำคดีตำมวรรคหน่งพร้อมส่งสรุปข้อเท็จจริงของตุลำกำร
ึ
ี
ั
เจ้ำของส�ำนวนให้คู่กรณีทรำบ ท้งน้ ไม่เป็นกำรตัดสิทธิคู่กรณีท่จะย่นค�ำแถลงเป็นหนังสือต่อองค์
ื
ี
ี
คณะพิจำรณำพิพำกษำภำยในเจ็ดวันนับแต่วันท่ได้รับแจ้ง และหำกคู่กรณีประสงค์ท่จะให้ศำลจัดให้มีกำร
ี
ั
ั
ี
น่งพิจำรณำคดี ให้คู่กรณีแจ้งควำมประสงค์เช่นน้นให้ศำลทรำบภำยในเจ็ดวันนับแต่วันท่ได้รับแจ้งและ
ให้องค์คณะพิพำกษำให้มีกำรนั่งพิจำรณำคดีต่อไป
มำตรำ 6๐ กำรนั่งพิจำรณำคดีจะต้องกระท�ำโดยเปิดเผย
ในคดีเร่องใดเพ่อรักษำควำมสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดี หรือเพ่อคุ้มครองประโยชน์สำธำรณะ
ื
ื
ื
ั
ถ้ำศำลปกครองเห็นสมควรจะห้ำมมิให้มีกำรเปิดเผยข้อเท็จจริงหรือพฤติกำรณ์ต่ำง ๆ ท้งหมดหรือแต่
่
ี
่
�
�
ู
ึ
ั
ื
ี
ู
บำงส่วนแห่งคด ซงปรำกฏจำกคำค่ควำมหรอคำแถลงของค่กรณหรอคำพยำน หลกฐำนทได้สบมำแล้ว
�
ี
ื
ื
ศำลปกครองจะมีค�ำสั่งดังต่อไปนี้ก็ได้
ิ
ั
(๑) ห้ำมประชำชนมให้เข้ำฟังกำรพจำรณำทงหมดหรอบำงส่วน แล้วดำเนนกำรพจำรณำไปโดย
ิ
ิ
้
ื
ิ
�
ไม่เปิดเผย หรือ
(๒) ห้ำมมิให้ออกโฆษณำข้อเท็จจริงหรือพฤติกำรณ์ต่ำง ๆ เช่นว่ำนั้น
ั
ั
ไม่ว่ำศำลปกครองจะได้มีค�ำส่งตำมวรรคสองหรือไม่ มิให้ถือว่ำกำรออกโฆษณำท้งหมดหรือแต่
บำงส่วนแห่งค�ำพิพำกษำ หรือย่อเร่องแห่งค�ำพิพำกษำโดยเป็นกลำงและถูกต้องเป็นกำรผิดกฎหมำย เว้นแต่
ื
ในกรณีท่ศำลเห็นสมควรเพ่อประโยชน์ในกำรรักษำควำมสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีหรือเพ่อคุ้มครอง
ี
ื
ื
ประโยชน์สำธำรณะ จะห้ำมมิให้มีกำรเปิดเผยข้อควำมทั้งหมดหรือบำงส่วนแห่งค�ำพิพำกษำนั้นก็ได้
๗๔
ึ
มำตรำ 6๐/1 เม่อศำลเห็นสมควร หรือคู่กรณีฝ่ำยใดฝ่ำยหน่งมีค�ำขอและศำลเห็นว่ำจะเป็น
ื
ประโยชน์แก่ควำมยุติธรรมหรือเพ่ออ�ำนวยควำมสะดวกแก่คู่กรณี ศำลอำจมีค�ำส่งให้ด�ำเนินกระบวนพิจำรณำ
ั
ื
ั
ุ
ี
่
ี
ี
โดยวธกำรทำงอเลกทรอนกส์หรอระบบกำรประชมทำงจอภำพได้ตำมหลกเกณฑ์และวธกำรทกำหนด
�
ิ
ิ
ิ
ื
็
ิ
โดยระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลำกำรในศำลปกครองสูงสุด
่
ึ
�
�
ิ
ี
ั
ิ
่
ี
ิ
�
�
กำรดำเนนกระบวนพจำรณำทต้องกระทำต่อหน้ำศำลและศำลมคำส่งให้ดำเนนกำรตำมวรรคหนง
ให้ถือเป็นกำรด�ำเนินกระบวนพิจำรณำในห้องพิจำรณำของศำล และเป็นกำรกระท�ำต่อหน้ำศำล
ศำลอำจเรียกเก็บค่ำใช้จ่ำยในกำรด�ำเนินกระบวนพิจำรณำตำมวรรคหนึ่งจำกคู่กรณีที่ร้องขอได้ตำม
หลักเกณฑ์และอัตรำที่ประธำนศำลปกครองสูงสุดก�ำหนด โดยไม่ถือว่ำค่ำใช้จ่ำยนี้เป็นค่ำธรรมเนียมศำล
ุ
ี
ึ
ึ
มำตรำ 61 ให้ตลำกำรศำลปกครองคนหนงคนใดซงได้รับมอบหมำยจำกองค์คณะมอ�ำนำจ
่
่
ดังต่อไปนี้
(๑) มค�ำสงเรียกให้หน่วยงำนทำงปกครองหรือเจ้ำหน้ำทของรฐท่เก่ยวข้องช้แจงข้อเท็จจริงหรือให้
ี
ั
่
ี
่
ั
ี
ี
ี
ี
ี
ควำมเห็นเป็นหนังสือเก่ยวกับกำรปฏิบัติงำนของหน่วยงำนทำงปกครองหรือของเจ้ำหน้ำท่ของรัฐท่เก่ยวข้อง
ี
ี
๗๔ มำตรำ ๖0/๑ เพมโดยพระรำชบัญญัติจัดตงศำลปกครองและวธีพจำรณำคดีปกครอง (ฉบับท่ ๑0) พ.ศ. ๒๕๖๑
ั
ิ
ิ
้
ี
่
ิ