Page 35 - หนังสือแรงบันดาลใจ
P. 35

่
 จากแพทย์เกียรตินิยมอันดับหนึง...........สู่เส้นทางผู้พิพากษา


                 ่
        เรียน (มสธ.) เพือนชวนไปเรียนคณะรัฐศาสตร ์ แต ่ ผม
        สนใจทางด ้ านนิติศาสตร ์ มากกว ่ า  ผมมาเริ่มเรียน
                                     ี
        นิติศาสตร ์ ตอนผมเรียนอยู ่ คณะแพทยศาสตร ์  ชั้นป 2
        เทอม 2 ผมต ้ องการจบให ้ เร็ว จึงลงเรียนทั้งภาคปกติ
                          ั
                              ั
                                     ู
                             ิ
        และภาคพเศษและโอนวิชาจากสมฤทธบตรเข ้ าหลักสตร
              ิ
                                ี
        ปกติ ใช ้ เวลาเรียนกฎหมายเปนเวลาสามปครึ่ง สาเหตุ
                         ็
        ที่ตัดสินใจเรียนทางด ้ านกฎหมาย ในตอนแรกคือความ
        อยากรู ้ และความชอบ สมัยนั้นคนที่เรียนแพทย ์ หันมา
        เรียนกฎหมายกันมากขึ้น เพราะมีกระแสที่คนไข ้ ฟ ้ องร ้ อง
        หมอแพทย ์ หลายท ่ านเลยเห็นว ่ าต ้ องร ้ ูกฎหมายควบค ่ ู
        ไปด ้ วย






                                                                   ็
                                                จุดเปลี่ยน....จากแพทยมาเปนผูพิพากษา
                                                                     ้
                                                                ์
                                            จุดเปลี่ยนคือเกิดขึ้นเมือเริ่มเรียนคณะแพทย ์ ชั้นป  4  เพราะต ้ อง
                                                        ่
                                                                       ี
                                            เริ่มไปตรวจผ ้ ่ ูปวยโดยการตามอาจารย ์ ดูคนไข ้ ในตึกผ ้ ่ ูปวย
             เทคนิคการอานหนังสือหนึ่งรอบ    และต ้ องอยู ่ เวรก็เลยเห็นชีวิตจริงแล ้ วรู ้ สึกว ่ ามันไม ่ ใช ่   เราไม ่ ได ้
                     ่
                ใหประสบความสำาเร็จ          ชอบแบบนี้  คงไม ่ สามารถทำาแบบนี้ไปได ้ ตลอดชีวิตประกอบกับ
                  ้
                                                     ี
                                            พอเรียนอยู ่ ชั้นปที่ 5 ตอนนั้นใกล ้ เรียนจบกฎหมายแล ้ ว และได ้
                         ั
                   ั
                   ้
                          ้
                             ็
        การเรียนควบค ่ ูไปทงสองอย ่ างทงยังเปนวิชาคนละศาสตร ์  ไปนั่งเรียนสอนเสริมจึงได ้ มีโอกาสพบท ่ านอาจารย ์ อำานาจ พวงชมภู
        เปนเรืองที่ท ้ าทายมาก ผมมีข ้ อจำากัดที่ว ่ ามีเวลาในการ  ซึ่งท ่ านมาสอนเสริมที่มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช  (มสธ.)
          ็
            ่
        อ ่ านหนังสือไปสอบวิชากฎหมายแค ่ รอบเดียวเท ่ านั้น  ก็เลยเข ้ าไปถามท ่ านว ่ าอยากเปนผ ้ ูพิพากษาต ้ องทาอย ่ างไรบ ้ างครับ
                                                             ็
                                                                      ำ
                 ี
        ยิ่งเวลาขึ้นชั้นปที่ 4-6 คณะแพทย ์ ที่ต ้ องอยู ่ เวรบางคืน  เพราะมีความร ้ ูสึกว ่ าเวลาอ ่ านคาพิพากษาศาลฎีกาแล ้ วอยากได ้
                                                             ำ
        เวลาอ ่ านกฎหมายจำากัดมาก เพราะฉะนั้นเวลาผมอ ่ าน  มีโอกาสตัดสินและวางหลักกฎหมายอย ่ างนั้นบ ้ าง ซึ่งก็เปนการ
                                                                            ็
                                      ื
        หนังสือจะต้งใจมากเพราะเราไม ่ มีเวลาเหมือนคนอน  ทำาประโยชน ์ ให ้ สังคมอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งท ่ านก็ได ้ กรุณาบอกว ่ า
                                      ่
               ั
        สิ่งที่สำาคัญคือ อย ่ าไปกดดันตัวเอง ในช ่ วงนั้นยอมรับ  ต ้ องไปสอบตั๋วทนายแล ้ วก็ต ้ องไปว ่ าความที่ศาลเพือเก็บคดี ถึง
                                                                        ่
        ว ่ าเรียนกฎหมายเพราะความสนใจ  ความอยากรู ้ เท ่ านั้น  จะมีสิทธิสอบ ตอนนั้นตัดสินใจเลยว ่ าจะเปลี่ยนอาชีพ คิดว ่ า
                             ่
        มีความคิดว ่ าถ ้ าสอบไม ่ ผ ่ านก็สอบไปเรือย ๆ อาจทำาให ้  จะลาออกจาก นิสิตแพทย ์ เลยดีไหม แต ่ ที่บ ้ านบอกให ้ เรียนต ่ อ
        ไม ่ รู ้ สึกว ่ าต ้ องเคร ่ งเครียดอะไรมาก อย ่ างน ้ อยก็ได ้ ความรู ้  เพราะเหลืออีกหน่งปก็ได ้ รับปริญญาแล ้ วทาไมไม ่ เรียนให ้ จบก ่ อน
                                                      ึ
                                                       ี
                                                                   ำ
            ิ
        และเปดโลกทัศน ์ ของเรายิ่งขึ้น บางครั้งวันสอบที่ตรงกับ  ตอนนั้นมีความรู ้ สึกว ่ า  ทำาไมรู ้ ว ่ าตัวเองชอบอะไรช ้ าเกินไป
        วันเสาร ์ -อาทิตย ์  แต ่ เปนวันที่ผมต ้ องเข ้ าเวรก็มีความ  เพราะในสมัยก ่ อนไม ่ มีการเข ้ าค ่ ายต ่ าง ๆ เหมือนที่สำานักงานศาลยุติธรรม
                     ็
           ็
        จำาเปนที่จะต ้ องลาไปสอบ การวางแผนการอ ่ านหนังสือ  จัดในปจจุบัน เช ่ น ค ่ ายต ้ นกล ้ าตุลาการ หรือในต ่ างประเทศ
                                                ั
          ็
        เปนเรืองที่สำาคัญ  สำาหรับใครที่ต ้ องเรียนทั้งสองอย ่ าง  เช ่ น อเมริกาที่จะให ้ เข ้ าเรียนมหาวิทยาลัยก ่ อนทดลองเรียนหลาย ๆ
            ่
        ควบคู ่ กันไป                       วิชาแล ้ วค ่ อยเลือกวิชาเอกหรือสาขาที่สนใจ  ที่เราจะได ้ มีโอกาส
                                          32
   30   31   32   33   34   35   36   37   38   39   40