Page 92 - DDD4
P. 92
84
ในปัจจุบันจึงพยายามค้นหาและค้นคว้าเกี่ยวกับเชื้อเพลิงชนิดใหม่หรือแหล่งพลังงานทดแทน
อื่นๆที่จะน ามาทดแทนหรือเพื่อลดการใช้เชื้อเพลิงจากซากดึกด าบรรพ์ให้น้อยลง
เป็นที่ทราบกันดีว่า ก่อนยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมพลังงานที่มนุษย์ใช้ในชีวิตประจ าวันเป็น
พลังงานปฐมภูมิได้แก่ตารางงานความร้อนและแสงสว่างได้มาจากดวงอาทิตย์กับเขาคืนเผาฟาง
ถึงบริษัทพลังงานกลได้มาจากแรงงานสัตว์พลังงานน ้าพลังงานลมแต่หลังจาก โทมัส นิวโค
เมนและเจมส์ วัตต์ ประดิษฐ์เครื่องจักรไอน ้าขึ้นเมื่อ 300 ปีมาแล้วไม้และถ่านหินถูกน ามาใช้
อย่างมากมายเพื่อท าให้เกิดพลังงานและหลังจากนั้นก็มีเครื่องก าเนิดไฟฟ้าเครื่องแรกก าเนิดขึ้น
จากสิ่งเหล่านี้เองท าให้โลกเกิดการเปลี่ยนแปลงการใช้พลังงานจากปฐมภูมิกลายเป็นพลังงาน
ทุติยภูมิคือการใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นหลักโดยใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงบางอย่างเช่นไม้ถ่านหิน
และน ้ามันสร้างกระแสไฟฟ้าส่งไปตามบ้านน ากระแสไฟฟ้านั้นไปเปลี่ยนเป็นพลังงานชนิดอื่น
ในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ได้มีการค้นพบปิ โตรเลียมและวิธีการกลั่นน ้ามันบางจาก
ปิโตรเลียมแต่ไม่นานก็เกิดวิกฤตการณ์ด้านพลังงานคลื่น
ส าหรับปิโตรเลียมนั้นมนุษย์มาตั้งแต่สมัยโบราณ ชาวเมโสโปเตเมีย น าเอาน ้ามันดิบมาใช้
เป็นวัตถุเชื่อมประสานก่ออิฐในการก่อสร้างและใช้ปูลวดบนถนนชาวอียิปต์โบราณใช้
ปิโตรเลียมดองศพป้องกันศพเน่าก่อนน าไปเก็บในสุสานชาวจีนค้นพบปิโตรเลียมโดยบังเอิญ
จากการเจาะบ่อเกลือและน ามาเป็นเชื้อเพลิงในการต้มเกลือสินเธาว์ กรีกและโรมันใช้
ปิโตรเลียมเป็นเชื้อเพลิงจุดตะเกียงและท าขี้ผึ้งรักษาโรคโรมาเนียพม่าอินเดียและบริเวณรอบ
รอบทะเลสาบเเคสเปียนใช้ปิโตรเลียมเป็นเชื้อเพลิงจุดจุดให้แสงสว่างประกอบมาใช้เป็นสาร
หล่อลื่นและยาในสมัยนั้นปิโตรเลียมที่น ามาใช้เป็นน ้ามันดิบที่พุ่งขึ้นมาเองบนผิวโลกหรือขุด
พบในหลุมตื้นๆ
6.2 สถานการณ์พลังงานของโลก
จากการที่มนุษย์รู้จักและน าเอาพลังงานมาใช้ ตั้งแต่สมัยโบราณโดยยุคแรกๆมนุษย์ใช้
พลังงานส่วนใหญ่เพียงเพื่อการด ารงชีวิตต่อมาพลังงานถูกน ามาใช้ด าเนินกิจกรรมต่างๆเพื่อ
การอุปโภคและบริโภคเมื่อมนุษย์มีการพัฒนามากขึ้นพลังงาน ส่วนใหญ่ถูกน ามาใช้เพื่อการ
พัฒนาทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้พลังงานอย่างสิ้นเปลือง
เมื่อลูกเข้าสู่ยุคของการเปลี่ยนแปลงจากระบบสังคมและเศรษฐกิจทั้งเกษตรกรรมให้เป็น
สังคมและเศรษฐกิจอุตสาหกรรมการใช้พลังงานสิ้นเปลืองเริ่มปรากฏให้เห็นอย่างชัดโดย
ในช่วงศตวรรษ 18-19 อังกฤษซึ่งถือว่าเป็นผู้น าในการปฏิวัติอุตสาหกรรม ได้มีการน าเชื้อเพลิง
ประเภทถ่านหินน ้ามันและก๊าซธรรมชาติมาใช้เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างมากมายและขยาย
กว้างออกไปทั่วโลกในเวลาต่อมา