Page 148 - โครงการแกว_Neat
P. 148
141
6) ควรหาโอกาสไปสวดศพในตอนกลางคืนและควรนำพวงหรีดหรือพวงมาลัยดอกไม้สดไปมอบให้
เจ้าภาพ เพื่อวางหน้าศพซึ่งเป็นเครื่องหมายแสดงว่ามีความเสียใจร่วมกับเจ้าภาพ
7) ควรกราบพระก่อน แล้วจึงไปเคารพศพ โดยใช้ธูป 3 ดอก ในการกราบศพพระกราบเบญจางคประ
ดิษฐ์ 3 ครั้ง ศพผู้อาวุโสใช้ธูป 1 ดอก กราบแบบตั้งมือ 1 ครั้ง ศพเด็กหรือผู้มีอาวุโสน้อยกว่า ใช้ธูป 1 ดอก นั่ง
พับเพียบในลักษณะที่สำรวม มือประสาน
8) ขณะพระสวดให้นั่งอาการสำรวมไม่พูดคุยเสียงดัง หรือสูบบุหรี่รบกวนคนข้างเคียง
9) ในกรณีที่แขกเป็นเจ้าภาพสวดศพ ต้องเป็นผู้จุดธูปเทียนบูชาพระ และเป็นผู้ถวายเครื่องปัจจัย
ไทยทานเอง
10) ในงานปลงศพ ผู้ที่ได้รับเชิญเป็นประธานในพิธีต้องไปถึงก่อนเวลา
11) เมื่อเข้าไปในบริเวณเมรุ ซึ่งมีศพตั้งอยู่ชายควรคำนับ หญิงนิยมไหว้ศพก่อนแล้วจึงนั่งในที่ด้วยท่า
สำรวมและไม่ควรนั่งข้างหน้าผู้ใหญ่
12) ควรนำธูป 1 ดอก เทียน 1 เล่ม มัดรวมไปกับดอกไม้จันทน์ ธูปเทียนใช้เป็นการขอขมาศพ ส่วน
ดอกไม้จันทน์ใช้สำหรับเผาศพ (ปัจจุบันเจ้าภาพจัดเตรียมไว้ให้)
13) เมื่อประธานในพิธีจุดไฟทุกคนลุกขึ้นอย่างสงบ เพื่อแสดงความเคารพและแสดงความอาลัยเป็นครั้ง
สุดท้ายร่วมกัน เมื่อประธานลงจากเมรุจึงค่อยๆ ทยอยกันขึ้นไปเผาโดยเรียงลำดับความอาวุโส ดอกไม้ธูปเทียนให้
วางบนเชิงตะกอนเป็นการขอขมาศพ ก่อนวางควรทำความเคารพศพครั้งหนึ่งก่อน แล้วจึงวางมัดดอกไม้จันทน์ลง
ใต้เชิงตะกอน และเมื่อวางแล้วทำความเคารพอีกครั้งหนึ่งจึงเดินลงจากเมรุ
14) ควรหยิบของชำร่วยจากพานเพียงชิ้นเดียว
15) การลากลับควรเลือกกลับตามโอกาสที่เหมาะสม ถ้าสามารถลาเจ้าภาพได้ก็ให้ลาโดยมารยาทแล้ว
เจ้าภาพจะคอยส่งและกล่าวขอบคุณแขกที่มาร่วมงาน