Page 356 - เอกสารฝนหลวง
P. 356
ประมวลและยืนยันผลสัมฤทธิ์ฯ เอกสารเฉลิมพระเกียรติฝนหลวง
ทรงประมวลและสรุปขั้นตอนกรรมวิธีเป็นเทคโนโลยีการทําฝน
ในปี พ.ศ. 2516
บทนํา
ในปี พ.ศ. 2516 ยังคงเป็นการปฏิบัติการทําฝนหวังผล ควบคู่กับการปฏิบัติการค้นคว้าทดลอง
ด้วยคณะปฏิบัติการ 2 คณะ แต่ละคณะประกอบด้วยเครื่องบินดาโกต้า หรือซี 123 ของกองทัพอากาศ
ร่วมกับเครื่องบินเล็กของกองบินตํารวจ และของกองบินเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
คณะปฏิบัติคณะที่ 1 บัญชาการโดย ม.ร.ว. เทพฤทธิ์ เทวกุล คณะปฏิบัติการคณะที่ 2
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงบัญชาการด้วยพระองค์เองจากพระตําหนักจิตรลดารโหฐานผ่านข่าย
วิทยุตํารวจ มายังหัวหน้านักวิชาการผู้ควบคุมคณะปฏิบัติการฯ คณะที่ 2 ในภาคสนาม ตั้งฐานปฏิบัติการ
ณ สนามบินจังหวัดขอนแก่น เพื่อช่วยเหลือการทํานาของจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน
โปรดเกล้าฯ ให้คณะปฏิบัติการทั้งสอง ปฏิบัติตามแบบอย่างและขั้นตอนกรรมวิธีที่ใช้
อย่างสัมฤทธิ์ผลมาแล้ว จากการปฏิบัติการทําฝนหวังผลควบคู่กับปฏิบัติการค้นคว้าทดลองตั้งแต่
พ.ศ. 2512 – 2515 โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามแบบอย่างการปฏิบัติการช่วยเหลือชาวสวนผลไม้ที่ทูลเกล้าฯ
ถวายฎีกาของชาวสวนผลไม้ของจังหวัดระยองและจันทบุรี และการปฏิบัติการทําฝนสาธิตแก่
นักวิทยาศาสตร์สิงคโปร์ในปี พ.ศ. 2515
ปี พ.ศ. 2516 จึงเป็นปีที่มีความสําคัญที่สมควรบันทึกไว้เป็นจดหมายเหตุ หรือประวัติศาสตร์
ของฝนหลวง เพราะระหว่างการปฏิบัติการทําฝนหลวงหวังผลควบคู่กับการปฏิบัติการค้นคว้าทดลอง
ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนในช่วงเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2516 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงประมวลและยืนยันผลสัมฤทธิ์จากการปฏิบัติการทําฝนหวังผลควบคู่กับการปฏิบัติการค้นคว้าทดลอง
ที่ดําเนินการอย่างเป็นขั้นตอนกรรมวิธีด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์อย่างเป็นระบบตั้งแต่
พ.ศ. 2512 – 2515 จนทรงแน่พระทัยและทรงเชื่อมั่นในความเป็นไปได้ ทรงนําผลสัมฤทธิ์ดังกล่าว
มาวิเคราะห์และประดิษฐ์คิดค้นเป็นเทคโนโลยีการทําฝน พระราชทานให้ใช้เป็นหลักการเบื้องต้น
ซึ่งเป็นพื้นฐานการปฏิบัติการทําฝนตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
เนื่องจากพาหะที่จะนําสารทําฝนและเทคโนโลยีการทําฝนขึ้นไปปฏิบัติการตามขั้นตอน
เทคโนโลยีการทําฝนในท้องฟ้า คือเครื่องบินที่ได้รับการจัดสรรให้ใช้ทั้งในการปฏิบัติการทําฝนหวังผล
และการปฏิบัติการค้นคว้าทดลองไม่ว่าจากกองทัพอากาศ กองบินตํารวจ และกองบินเกษตร เป็น
เครื่องบินที่ไม่มีระบบปรับความดัน ฉะนั้นจึงปฏิบัติการในท้องฟ้าที่ระดับการบินไม่เกิน
10,000 ฟุต แต่อาจเสี่ยงบินขึ้นสูงถึง 12,000 – 14,000 ฟุต เป็นครั้งคราวในช่วงเวลาสั้นๆ เพื่อ
ผลการทดลองและทางวิชาการ ฉะนั้นการประยุกต์เทคโนโลยีการทําฝนในระยะเริ่มแรกจึงจํากัด
308

