Page 526 - เอกสารฝนหลวง

ประมวลและยืนยันผลสัมฤทธิ์ฯ เอกสารเฉลิมพระเกียรติฝนหลวง

6.2.2 ขั้นตอนกรรมวิธี

ขั้นตอนกรรมวิธี และวิธีการในการประยุกต์เทคโนโลยีฝนหลวงและข้อแนะนํา
ทางเทคนิคพระราชทาน ตลอดช่วยการปฏิบัติการในช่วงฤดูร้อนนี้ สัมฤทธิ์ผลตามวัตถุประสงค์และ

เป้าหมายดังกล่าว และข้อแนะนําพระราชทานที่ประมวลไว้ข้างต้น พอสรุปเป็นหลักการหรือ
หลักเกณฑ์ในการถือปฏิบัติเป็นแบบอย่าง และขั้นตอนกรรมวิธีตามลําดับ ดังนี้

(1) ประมวลผลวิเคราะห์ข้อมูลที่เป็นปัจจัยแปรที่เกื้อหนุนการปฏิบัติการ โดยการ
หยั่งอากาศชั้นบนจากภาคพื้นดินสู่ท้องฟ้าด้วยระบบเรวินซอนด์ และจากเครื่องบินตรวจวัดเมฆฟิสิกส์

ทั้งในช่วงเช้าและช่วงบ่าย ข่าวสารในการพยากรณ์หรือคาดหมายลักษณะอากาศ แหล่งหรือพื้นที่
เกิดเมฆ ณ วันที่ปฏิบัติการ

(2) ทําความเข้าใจในองค์ประกอบของพื้นที่เป้าหมายปฏิบัติการ ทั้งลักษณะภูมิประเทศ

ภูมิอากาศหรือสภาพประจําถิ่น และช่วงฤดูกาล ณ วันที่ปฏิบัติการ

(3) วางแผนปฏิบัติการและกําหนดพื้นที่เป้าหมายหวังผลประจําวัน โดยอาศัยข้อมูล

และข่าวสารดังกล่าวในข้อ (1) และ (2) พื้นที่เป้าหมายปฏิบัติการหวังผล ได้รับการออกแบบเป็นรูปกรวย
จากประสบการณ์มาอย่างยาวนาน โดยมีทิศทางลมชั้นบนเฉลี่ยเป็นแกนกลาง และกําหนดพื้นที่เริ่มต้น

การปฏิบัติการขั้นตอนที่ 1 (ก่อกวน) ซึ่งเป็นการกระตุ้นหรือเร่งเร้าให้ก่อเกิดเมฆใหม่ในท้องฟ้าโปร่ง
หรือท้องฟ้าที่มีเมฆเดิมก่อตัวอยู่บ้างแล้ว และเคลื่อนตัวไปทางใต้ลมเข้าสู่พื้นที่ปฏิบัติการตาม

ขั้นตอนที่ 2 (เลี้ยงให้อ้วน) ซึ่งเป็นการเร่งการเจริญเติบโตของเมฆดังกล่าวในขั้นตอนที่ 1 ซึ่ง

เคลื่อนตัวไปทางใต้ลม และเจริญเติบโตขึ้นตามลําดับ จนมีสภาพใกล้แก่ตัวหรือเริ่มแก่ตัว เริ่ม
เคลื่อนตัวไปทางใต้ลมเข้าสู่พื้นที่ปฏิบัติการตามขั้นตอนที่ 3 (โจมตี) ซึ่งเป็นการเร่งให้ฝนตก และ

ขั้นตอนที่ 4 เพิ่มปริมาณฝนและชักนําให้ฝนตกลงสู่พื้นที่เป้าหมายอย่างแม่นยํา (ดังภาพที่ 310 หน้า 468
แสดงการวางแผนปฏิบัติการภายในพื้นที่เป้าหมายปฏิบัติการในกรอบรูปทรงกรวย)

ในขั้นตอนการโจมตีนี้ เป็นการปฏิบัติการโจมตีด้วยเทคนิคตามสภาพเมฆที่แก่ตัวจัด
ในขณะที่ทําการโจมตี คือ

 การโจมตีเมฆอุ่นด้วยแซนด์วิชเทคนิค (Sandwich Technic) กับเมฆที่เจริญเติบโต

ก่อยอดไม่เกินระดับระดับที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 0°C และอยู่ในสภาพแก่ตัว สภาพและลักษณะเมฆ

ที่เข้าเกณฑ์ที่พร้อมจะโจมตีได้ คือเป็นเมฆคิวมูลัสที่ความหนาจากฐานเมฆถึงยอดเมฆเป็น 2 เท่า
ของระยะจากฐานเมฆถึงพื้นดิน ฐานเมฆมีสีเทาเข้มจนเกือบดํา และค่อยจางลงตามระดับความสูง

จนถึงยอดเมฆ ซึ่งมีลักษณะเหมือนดอกกะหลํ่าปมที่ขอบเมฆยังดูคมชัดและมีสีเทาอ่อนหรือสีขาว
(ดังภาพที่ 308 หน้า 467)

464