Page 97 - 10_พระราชบญญตตำรวจแหงชาต2547_Neat
P. 97

๙๐




                          ÊÃØ»  มาตรา ๘๔ – ๘๗
                          การสืบสวนขอเท็จจริง ตองทําตาม กฎ ก.ตร.วาดวยการสืบสวนขอเท็จจริง พ.ศ. ๒๕๕๖

              (ราชกิจจานุเบกษา เลม ๑๓๐ ตอนที่ ๔๘ ก วันที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๕๖) สรุปสาระสําคัญไดวา เมื่อมี
              การกลาวหาหรือมีกรณีเปนที่สงสัยวาขาราชการตํารวจผูใดกระทําผิดวินัยหากผูบังคับบัญชาไดพิจารณา
              ในเบื้องตนแลวไมมีมูลหรือมีมูลเพียงพอที่จะแตงตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอยางรายแรงหรือมี

              พยานหลักฐานฟงไดวาผูถูกกลาวหากระทําผิดวินัยและสามารถสั่งการไดในกรณีเปนความผิดที่ปรากฏ
              ชัดแจง ก็ใหผูบังคับบัญชาผูมีอํานาจพิจารณาสั่งการไปภายในอํานาจโดยไมตองสืบสวนขอเท็จจริง

              แตถาจะตองสืบสวนขอเท็จจริงก็ใหดําเนินการตามหลักเกณฑและวิธีการสืบสวนขอเท็จจริงที่กําหนด
              ในกฎ ก.ตร. นี้ ซึ่งการสืบสวนขอเท็จจริง หมายถึง การแสวงหาขอเท็จจริงและพยานหลักฐาน
              ซึ่งผูมีหนาที่สืบสวนขอเท็จจริงไดปฏิบัติไปตามอํานาจและหนาที่เพื่อที่จะทราบรายละเอียดแหงพฤติการณ

              และการกระทําของขาราชการตํารวจผูถูกรองเรียนกลาวหาหรือมีกรณีเปนที่สงสัยวากระทําผิดวินัย
              วากรณีมีมูลที่ควรกลาวหาวาผูนั้นกระทําผิดวินัยหรือไม หรือผูนั้นไดกระทําผิดวินัยตามที่ถูกกลาวหา

              หรือไมอยางไร กรณีที่ควรทําการสืบสวนขอเท็จจริง ไดแก
                          (๑)  ผูบังคับบัญชามีเหตุอันควรสงสัยวาขาราชการตํารวจในบังคับบัญชาผูใดกระทําผิด
              วินัย

                          (๒)  มีผูรองเรียนกลาวหาวาขาราชการตํารวจในบังคับบัญชาผูใดกระทําผิดวินัยโดย
              ผูรองเรียนนั้นไดแจงชื่อและที่อยูของตนเองเปนที่แนนอน พรอมทั้งระบุพฤติการณแหงกรณีที่กลาวหา

              วาขาราชการตํารวจกระทําผิดวินัยนั้น
                          (๓)  สวนราชการอื่นหรือหนวยงานอื่นแจงมาใหทราบวาขาราชการตํารวจในบังคับบัญชา
              ผูใดกระทําผิดวินัยหรือสงสัยวากระทําผิดวินัย

                          (๔)  มีบัตรสนเทหกลาวหาวาขาราชการตํารวจในบังคับบัญชาผูใดกระทําผิดวินัย
              ตามปกติการรองเรียนกลาวหาขาราชการตํารวจวากระทําผิดวินัยในลักษณะเปนบัตรสนเทหหามมิใหรับฟง

              เวนแตบัตรสนเทหนั้นระบุขอเท็จจริง พยานหลักฐานกรณีแวดลอม และหรือระบุพยานบุคคล
              พยานวัตถุ หรือพยานเอกสารชี้แนะแนวทางเพียงพอที่จะดําเนินการสืบสวนได
                          (๕)  กรณีปรากฏเปนขาวในสื่อสารมวลชนใด ๆ วาขาราชการตํารวจในบังคับบัญชา

              ผูใดกระทําผิดวินัยตามปกติหากไมมีชื่อและที่อยูของผูรองเรียนกลาวหาหามมิใหรับฟง เวนแตขาวใน
              สื่อมวลชนนั้นระบุขอเท็จจริง พยานหลักฐาน กรณีแวดลอม และหรือระบุพยานบุคคล พยานวัตถุหรือ

              พยานเอกสารชี้แนะแนวทางเพียงพอที่จะดําเนินการสืบสวนได
                          (๖)  กรณีอื่นๆ ที่ผูบังคับบัญชาเห็นควรใหมีการสืบสวนขอเท็จจริง
                          ผูสั่งแตงตั้งคณะกรรมการสืบสวนหรือผูสั่งใหสืบสวนยกเวนนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการ

              สืบสวนหรือผูสืบสวน จะตองไมเปนบุคคลดังตอไปนี้
                          (๑)  รูเห็นเหตุการณในเรื่องที่สืบสวน

                          (๒)  มีสวนไดเสียในเรื่องที่สืบสวน
   92   93   94   95   96   97   98   99   100   101   102