Page 138 - 08_กฎหมายอาญา_Neat
P. 138
๑๒๕
®Õ¡Ò·Õè öôøð/òõôø กอนเกิดเหตุโจทกรวมเห็น อ. นั่งดื่มสุราอยูที่หนาราน
ของจําเลย ตอมาจําเลยเขามาทวงหนี้จากโจทกรวม โดยจําเลยกับ อ. พากันเขามาในรานเกมของ
โจทกรวมพรอมกัน แลวจําเลยชี้ตัวโจทกรวมให อ. ดูพรอมกับพูดวา คนนี้แหละชื่อยันต หลังจากนั้น
อ. พูดวา มึงพากูออกไปตามหาพอมึง ติดหนี้แลวตองใชหนี้ เมื่อโจทกรวมบอกวาไมทราบวาพออยู
ที่ไหนและไมยอมไป อ. ก็เดินเขามาเตะโจทกรวม พฤติการณแหงการกระทําของจําเลยดังกลาวเชนนี้
ถือไดวาจําเลยสมคบรวมกันกับ อ. มาเตะทํารายโจทกรวมแลว แมขณะที่ อ. เขามาเตะทําราย
โจทกรวม จําเลยจะเพียงแตยืนอยูเฉยๆ ไมไดพูดอะไรก็ตาม
®Õ¡Ò·Õè òðù/òõõõ จําเลยทั้งสองซึ่งเปนพี่นองกันกับพวกที่หลบหนีมาดวยกัน แตละคน
มีอาวุธติดตัวมาโดยจําเลยที่ ๑ มีสนับมือ จําเลยที่ ๒ มีเหล็กขูดชารป และพวกที่หลบหนีมีมีดปลายแหลม
จําเลยที่ ๑ กับพวกเขาไปกอดคอลากโจทกรวมที่ ๑ จากลานหนาเวทีออกไปริมถนนแลวใชสนับมือ
ชกตอยทํารายโจทกรวมที่ ๑ จนบาดเจ็บ โจทกรวมที่ ๑ วิ่งหนี จําเลยทั้งสองกับพวกวิ่งไลตาม
รุมกระทืบและจําเลยที่ ๒ ใชเหล็กขูดชารปแทงโจทกรวมที่ ๑ เมื่อโจทกรวมที่ ๒ เขาหาม จําเลยที่ ๑
ยังพูดวา “อยางนี้ตองเอาใหตายสักคน” จําเลยที่ ๒ ใชเหล็กขูดชารปแทงโจทกรวมที่ ๒ แสดงวาจําเลย
ทั้งสองกับพวกที่หลบหนีรวมรูเห็นสมคบกันกระทําความผิด เมื่อเหล็กขูดชารปที่จําเลยที่ ๒ ใชเปน
อาวุธ มีความยาว ๑๕.๕ เซนติเมตร หนาตัดเปนสามเหลี่ยมแตละดานกวาง ๐.๖ เซนติเมตร นับวา
เปนอาวุธรายแรงสามารถใชทําอันตรายถึงชีวิตได ประกอบกับจําเลยที่ ๒ ใชแทงโจทกรวมที่ ๑ ที่ชาย
โครงลึกถึงปอด และแทงโจทกรวมที่ ๒ ที่หลังดานซายทะลุชองอกซาย ซึ่งเปนอวัยวะสวนสําคัญของ
รางกายและแทงอยางแรงบงชี้วามุงประสงคตอชีวิต จึงฟงไดวาจําเลยทั้งสองกับพวกเจตนาฆาโจทกรวม
ทั้งสองและกระทําไปโดยตลอดแลว แตการกระทําไมบรรลุผลเนื่องจากแพทยชวยรักษาชีวิตไดทัน
จําเลยทั้งสองจึงมีความผิดฐานพยายามฆาโจทกรวมทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘
ประกอบมาตรา ๘๐, ๘๓
㪌ãËŒ¼ÙŒÍ×蹡ÃÐทํา¤ÇÒÁ¼Ô´
ÁÒμÃÒ øô ผูใดกอใหผูอื่นกระทําความผิดไมวาดวยการใช บังคับ ขูเข็ญ จาง วาน
หรือยุยงสงเสริม หรือดวยวิธีอื่นใด ผูนั้นเปนผูใชใหกระทําความผิด
ถาความผิดมิไดกระทําลงไมวาจะเปนเพราะผูถูกใชไมยอมกระทํา ยังไมไดกระทํา หรือ
เหตุอื่นใด ผูใชตองระวางโทษเพียงหนึ่งในสามของโทษที่กําหนดไวสําหรับความผิดนั้น
ถาผูถูกใชไดกระทําความผิดนั้น ผูใชตองรับโทษเสมือนเปนตัวการ และถาผูถูกใชเปน
บุคคลอายุไมเกินสิบแปดป ผูพิการ ผูทุพพลภาพ ลูกจางหรือผูที่อยูใตบังคับบัญชาของผูใช ผูที่มีฐานะ
ยากจนหรือผูตองพึ่งพาผูใชเพราะเหตุปวยเจ็บหรือไมวาทางใด ใหเพิ่มโทษที่จะลงแกผูใชกึ่งหนึ่ง
ของโทษที่ศาลกําหนดสําหรับผูนั้น”