Page 178 - 08_กฎหมายอาญา_Neat
P. 178

๑๖๕




                                  คํา͸ԺÒÂ
                                  àÃÕ¡ ÃѺ ËÃ×ÍÂÍÁ¨ÐÃѺ·ÃѾÊÔ¹ËÃ×Í»ÃÐ⪹Í×è¹ã´ ¡ÒÃàÃÕ¡ หมายถึง

                 การกระทําใดๆ อันเปนการเรียกรองใหผูอื่นใหทรัพยสินหรือประโยชน สวนเขาจะยอมใหหรือไมใหไมสําคัญ
                 คือ เพียงแคเรียกก็เปนความผิดสําเร็จแลว เชน เรียกทรัพยผูตองหาอางวาจะเอาไปใหพนักงานสอบสวน
                 เพื่อชวยใหพนคดี แมผูถูกเรียกไมยอมใหเงินก็ผิด

                                  ¡ÒÃÃѺ หมายถึง ผูอื่นเสนอใหทรัพยสินหรือประโยชนแลวรับเอาหรืออาจเปนตนเอง
                 เรียกแลวรับเอาทรัพยหรือประโยชนตามที่เรียกนั้น

                                  สวน ¡ÒÃÂÍÁ¨ÐÃѺ หมายถึง ผูอื่นเสนอใหทรัพยสินหรือประโยชนและยอมจะรับเอง
                 แตยังไมไดรับคือเพียงยอมจะรับเทานั้นก็ผิดสําเร็จแลวเหมือนกัน

                                  สิ่งที่เรียก รับหรือยอมจะรับนั้นตองเปนทรัพยสินหรือประโยชนอื่นใด ·ÃѾÊÔ¹
                 หมายถึง วัตถุมีรูปรางหรือสิ่งที่ไมมีรูปรางซึ่งอาจมีราคาได และถือเอาได »ÃÐ⪹ หมายถึง สิ่งอื่น

                 ที่มิใชทรัพยสิน แตเปนคุณแกผูรับ เชน ใหอยูบานโดยไมตองเสียคาเชา ใหบริการโดยไมคิดเงินทอง
                 ใหโดยสารรถ เรือ หรือเครื่องบิน โดยไมตองเสียเงิน เปนตน
                                  สําËÃѺμ¹àͧËÃ×ͼٌÍ×è¹  การเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพยสิน หรือประโยชน

                 ดังกลาวจะกระทําเพื่อตนเองหรือผูอื่นก็ได ผูอื่นจะเปนใครก็ได และในขณะที่เรียกนี้จะตั้งใจเอาไปให
                 ผูอื่นจริงหรือไม ไมสําคัญเปนความผิดแลว

                                  ®Õ¡Ò·Õè óñó/òôùð  การอางวาจะพูดกับภริยาหัวหนาศาลใหชวยพูดกับหัวหนาศาลนั้น
                 จะเห็นวาภริยาหัวหนาศาลไมใชเจาพนักงาน จึงไมมีความผิด ตามมาตรา ๑๔๓ วินัย เลิศประเสริฐ

                 (๒๕๔๖:๑๖๘)
                                  ®Õ¡Ò·Õè õø÷/òõòó เรียกทรัพยวาจะเอาไปใหผูพิพากษาตัดสินยกฟอง แมผูเรียก

                 จะมิไดตั้งใจเอาทรัพยที่เรียกไปใหผูพิพากษาเลย ก็เปนความผิด
                                  ®Õ¡Ò·Õè óóô/òõòö  การที่จําเลยเรียกเงินจากผูมีชื่อโดยอางวาจะนําไปให
                 ผูพิพากษาเพื่อใหพิพากษายกฟองปลอยตัวจําเลยในคดีอาญา และตอมาจําเลยไดรับเงินดังกลาว

                 จากผูมีชื่อดังนี้ จําเลยมีเจตนาที่จะเรียกและรับเงินจากผูมีชื่อเพื่อจูงใจผูพิพากษา ซึ่งเปนเจตนาอันเดียวกัน
                 มาแตแรกและเปนการกระทําตอเนื่องในคราวเดียวกัน ถือไดวาเปนการกระทํากรรมเดียวกัน

                                  ໚¹¡ÒÃμͺ᷹㹡Ò÷Õè¨Ð¨Ù§ã¨ËÃ×Íä´Œ¨Ù§ã¨à¨ŒÒ¾¹Ñ¡§Ò¹ ÊÁÒªÔ¡ÊÀÒ
                 ¹ÔμÔºÑÞÞÑμÔáË‹§ÃѰ ÊÁÒªÔ¡¨Ñ§ËÇÑ´ ËÃ×ÍÊÁÒªÔ¡ÊÀÒà·ÈºÒÅ  การเรียก รับหรือยอมจะรับทรัพยสิน
                 หรือประโยชนอื่นใดนั้น ตองเปนการกระทําเพื่อตอบแทนการที่จะจูงใจหรือไดจูงใจเจาพนักงาน

                 สมาชิกสภานิติบัญญัติ สมาชิกสภาจังหวัดหรือสมาชิกสภาเทศบาล
                                  ¡Òè٧㨠หมายถึง การเกลี้ยกลอมหรือโนมนาวจิตใจใหกระทําหรือละเวน

                 กระทําการอยางใดอยางหนึ่ง กฎหมายใชคําวาจะจูงใจหรือไดจูงใจ จะจูงใจคือยังมิไดจูงใจ แตจะทําการ
                 จูงใจในอนาคต เปนลักษณะใหคํามั่นวาจะกระทํา สวนไดจูงใจนั้นก็หมายความวา ไดจูงใจเจาพนักงาน

                 มาแลวในอดีตกอนจะมาเรียกทรัพยสินจากผูใชทรัพยสิน ในกรณีจะจูงใจนั้น แมภายหลังจะมิไดมี
   173   174   175   176   177   178   179   180   181   182   183