Page 191 - 08_กฎหมายอาญา_Neat
P. 191
๑๗๘
®Õ¡Ò·Õè óòòô, óòòõ/òõò÷ จําเลยมีหนาที่รับคําขอจดทะเบียนสิทธิและ
นิติกรรมการรับโอนมรดกและการซื้อขายที่ดิน เก็บเงินคาธรรมเนียมและรวบรวมสงมอบให
เจาหนาที่การเงินของสํานักงานที่ดิน การที่จําเลยรับเงินคาธรรมเนียมไวแลวไมรวบรวมสงมอบแก
เจาหนาที่การเงิน แตกลับเบียดบังเอาไวเปนของตน จึงเปนความผิดตาม ป.อ.มาตรา ๑๔๗ ซึ่งเอาผิดแก
เจาพนักงานที่เบียดบังเอาทรัพยที่ตนไดมาหรือถือไวเพื่อจัดการตามหนาที่ ไมใชเอาผิดเฉพาะวาทรัพยนั้น
จะตองเปนกรรมสิทธิ์ ของทางราชการหรือของรัฐ การที่จําเลยปลอมเอกสารและใชเอกสารปลอม
ก็โดยมีเจตนาที่จะใชเปนหลักฐานในการเบียดบังยักยอกเงินคาธรรมเนียม การกระทําของจําเลย
จึงเปนกรรมเดียวเปนความผิดตอกฎหมายหลายบทตองลงโทษตาม ป.อ. มาตรา ๑๔๗ ซึ่งเปนบทหนัก
ที่สุด
àºÕ´ºÑ§àÍÒ·ÃѾ¹Ñé¹à»š¹¢Í§μ¹ËÃ×Í໚¹¢Í§¼ÙŒÍ×è¹ ËÃ×ÍÂÍÁãËŒ¼ÙŒÍ×è¹àÍÒ·ÃѾ¹Ñé¹àÊÕÂ
ที่จะเปนความผิดตามมาตรา ๑๔๗ เจาพนักงานผูมีหนาที่ดังกลาวมาแลว จะตองกระทําการอยางใด
อยางหนึ่ง คือ (๑) เบียดบังเอาทรัพยนั้นเปนของตนหรือเปนของผูอื่น หรือ (๒) ยอมใหผูอื่น
เอาทรัพยนั้นเสีย
(๑) เบียดบังเอาทรัพยนั้นเปนของตนหรือเปนของผูอื่น เบียดบังแสดงวาผูกระทํา
ตองครอบครองทรัพยนั้นอยู แลวเอาทรัพยนั้นเปนของตนเสีย เชน เอาไปใชสอย ขายหรือจํานํา เปนตน
พลตํารวจรับมอบปนและกระสุนปนไปปฏิบัติราชการ ถือวามีหนาที่ตองรักษาสิ่งเหลานั้น เมื่อเอาไป
จํานําเสีย ก็เปนการเบียดบังเอาทรัพยนั้นเปนของตน
การเบียดบังกฎหมายมิไดจํากัดวาจะตองเบียดบังเพื่อตนเทานั้น แมจะเบียดบัง
เปนของผูอื่นก็ผิด เชน เจาพนักงานตํารวจไดรับมอบหมายจากผูบังคับบัญชาใหใชและรักษาปน
และกระสุนปน แลวเบียดบังเอาปนและกระสุนปนนั้นไปใหผูอื่นเสีย
มาตรา ๑๔๗ แหงประมวลกฎหมายอาญามีขอความวา àºÕ´ºÑ§·ÃѾ¹Ñé¹à»š¹
¢Í§μ¹ËÃ×ͧ͢¼ÙŒÍ×è¹ ไมใชแตเพียงเอาทรัพยนั้นเปนประโยชนชั่วคราวแลวคืนให เชน เอาทรัพยของคนอื่น
ไปจํานําแลวไถคืนมาไมเปนยักยอก แตถาเปนการเอาเงินที่ตนมีหนาที่รักษาไวไปใหผูอื่นยืม
เปนความผิด ตามมาตรา ๑๔๗ เพราะกรณีนี้เปนโภคยทรัพยคือเอาเงินไปใหคนอื่นยืมเปนการโอน
กรรมสิทธิ์ จึงเปนการเอาเปนของตนและของผูอื่นไมใชเอาไปเปนประโยชนชั่วคราว จึงเปนยักยอกได
(๒) ยอมใหผูอื่นเอาทรัพยนั้นเสีย มาตรา ๑๔๗ นี้ ยังขยายกวางไปถึงการยอมให
ผูอื่นเอาทรัพยที่ตนมีหนาที่ซื้อ ทํา จัดการ หรือรักษานั้นไปดวย
®Õ¡Ò·Õè óôñ/òõñò จําเลยเปนพลทหารเรือประจําการมีหนาที่ขับรถยนตของ
ราชการทหารเรือ จึงเปนเจาพนักงานมีหนาที่จัดการ ใชและรักษานํ้ามันรถที่จําเลยทําหนาที่ขับนั้นดวย
การที่จําเลยยอมใหบุคคลอื่นดูดเอานํ้ามันรถไป เปนความผิดตามมาตรา ๑๔๗
กรณีนี้ถาจําเลยดูดเอานํ้ามันรถเปนของตนเสีย ก็เปนการเบียดบังเอาเปนของตน
ผิดฐานเจาพนักงานยักยอกนี้เชนกัน