Page 195 - 08_กฎหมายอาญา_Neat
P. 195

๑๘๒




                               ®Õ¡Ò·Õè óö÷ù/òõòù นายตรวจสรรพสามิตเมื่อไดรับคําสั่งใหไปตรวจเขตหนึ่งแลว
              แมไปตรวจอีกเขตหนึ่งก็เปนการปฏิบัติราชการเชนกัน เพียงแตเปนการปฏิบัตินอกเหนือคําสั่ง การตรวจ

              รานคาสุรามิใชการปฏิบัติหนาที่ในสถานที่ราชการซึ่งโดยปกติจะกระทําในระหวางเวลาราชการ
              ทั้งไมปรากฏวามีขอจํากัดวาจะตองปฏิบัติหนาที่เฉพาะในเวลาราชการเทานั้น เมื่อไปตรวจที่รานคาของ
              ผูเสียหาย เวลา ๑๗.๐๐ น. และเรียกผูเสียหายไปบอกวาสุราของผูเสียหายไมคอยดี ซึ่งหมายความวา
              ไมถูกตองตามกฎหมาย และจะจับสุราไปนั้น ก็ตองถือวาเปนการกระทําของเจาพนักงานในการปฏิบัติ

              หนาที่ และเมื่อเรียกรองใหผูเสียหายจายเงินเปนคาตอบแทนเพื่อจะไมจับ ทั้งที่ไมปรากฏวาผูเสียหาย
              ทําผิดกฎหมายอยางไร จึงเปนการใชอํานาจในตําแหนงหนาที่โดยมิชอบ อันเปนความผิดตาม

              ป.อ.มาตรา ๑๔๘ สวนจําเลยอื่นซึ่งมิไดเปนเจาพนักงาน เปนเพียงพนักงานของบริษัทสุราแตไดรวม
              ในการกระทําดังกลาว มีความผิดฐานเปนผูสนับสนุนอันเปนความผิดตามมาตรา ๑๔๘ ประกอบดวย
              มาตรา ๘๖ การที่ผูเสียหายซึ่งเปนเจาของรานคาสุราใหเงินแกพวกจําเลยก็ดวยความกลัวที่เกิดจาก
              การถูกพวกจําเลยขูเข็ญวาจะจับสุรา การกระทําของพวกจําเลยจึงเปนความผิดตาม ป.อ.มาตรา ๓๓๗ ดวย

              ตองลงโทษตามมาตรา ๑๔๘ ซึ่งเปนบทหนักที่สุด
                               แตถาตํารวจจับกุมผูที่กระทําผิดจริงๆ ก็เปนการใชอํานาจในตําแหนงโดยชอบ

              มิใชโดยมิชอบ แมภายหลังจะเรียกเงินทองก็ไมผิดตามมาตรานี้ แตอาจจะผิดฐานอื่น เชน ตํารวจจราจร
              จับกุมผูขับรถยนตฝาฝนกฎจราจรแลวเรียกเอาเงิน ไมผิดตามมาตรา ๑๔๘ เพราะมิไดใชอํานาจใน
              ตําแหนงโดยมิชอบ แตจะผิดตามมาตรา ๑๔๙ ฐานเจาพนักงานเรียกสินบน
                               ¢‹Á¢×¹ã¨ËÃ×ͨ٧㨼ٌÍ×è¹ การที่เจาพนักงานใชอํานาจในตําแหนงโดยมิชอบ

              ดังกลาวมาแลว จะตองเปนการใชโดยมิชอบขมขืนใจหรือจูงใจผูอื่น ¢‹Á¢×¹ã¨ ก็คือบังคับใหเขากระทํา
              อยางใดอยางหนึ่งโดยเขาไมเต็มใจ สวน ¨Ù§ã¨ ก็เปนการโนมนาวหรือชักนําใหเขากระทําการขมขืนใจ

              หรือจูงใจตองกระทําเพื่อใหบรรลุตามมูลเหตุชักจูงใจของผูขมขืน คือ เพื่อใหยอมใหหรือหามาให
              ซึ่งทรัพยสินหรือประโยชนอื่นใด ความผิดตามมาตรานี้ มิใชวาจะตองมีการขมขืนใจแตประการเดียว
              เพียงแตมีการจูงใจก็เปนความผิดเหมือนกัน และ ໚¹¤ÇÒÁ¼Ô´สําàÃç¨àÁ×èÍä´Œทํา¡Òâ‹Á¢×¹ã¨ËÃ×ͨ٧ã¨
              ไมจําเปนวาผูถูกขมขืนใจหรือจูงใจจะมอบใหหรือหาประโยชนมาใหแลว

                               à¨μ¹Ò การใชอํานาจในตําแหนงโดยมิชอบ ขมขืนใจหรือจูงใจผูอื่นนั้นผูกระทํา
              จะตองมีเจตนาตามมาตรา ๕๙

                               à¾×èÍãËŒºØ¤¤Åã´ÁͺãËŒËÃ×ÍËÒÁÒãËŒ«Öè§·ÃѾÊÔ¹ ËÃ×Í»ÃÐ⪹Í×è¹ã´สําËÃѺ
              μ¹àͧËÃ×ͼٌÍ×è¹ นอกจากจะมีเจตนาแลว ผูกระทํายังตองมีมูลเหตุชักจูงใจ คือ เพื่อใหบุคคลมอบให
              หรือหามาใหซึ่งทรัพยสิน หรือประโยชนอื่นใดสําหรับตนเองหรือผูอื่น มูลเหตุชักจูงใจในการกระทํามิได

              จํากัดเฉพาะทรัพยสินเงินทอง แตรวมถึงประโยชนอื่นๆ ที่มิใชทรัพยสินดวย เชน ใหโดยสารรถประจําทาง
              โดยไมตองเสียคาโดยสาร ใหใชหองพักโรงแรมโดยไมเสียคาเชา เปนตน และการเรียกทรัพยสินหรือ
              ประโยชนนี้จะเรียกเพื่อตนเองหรือเรียกเพื่อผูอื่นก็ได เพียงแตผูกระทําผิดมีมูลเหตุชักจูงใจตามที่กลาวนี้

              ก็เปนความผิดสําเร็จแลว จะเกิดผลขึ้นตามมูลเหตุชักจูงใจหรือไมไมสําคัญ แมผูถูกขมขืนใจหรือถูกจูงใจ
              จะไมยอมตามนั้น หรือยังมิไดมอบทรัพยใหก็ตาม
   190   191   192   193   194   195   196   197   198   199   200