Page 198 - 08_กฎหมายอาญา_Neat
P. 198

๑๘๕




                 ทรัพยสินก็ได เชน รับทํางานให หรือยอมใหรวมประเวณี เปนตน การเรียกทรัพยสินหรือประโยชน
                 อาจจะทําโดยวาจา หรือวิธีอื่น เชน สมาชิกสภาเทศบาลเขียนจดหมายถึง บ.ใหชวยปลดเปลื้องหนี้สินให

                 ก็เปนการเรียกทรัพยสินเหมือนกัน และเพียงแตเรียกแมจะยังไมไดทรัพยหรือประโยชนตามที่เรียก
                 ก็เปนความผิดสําเร็จแลว
                                  (๒)  รับ หมายถึง เอาไวซึ่งทรัพยสินหรือประโยชนอื่นใดที่ผูอื่นมอบหรือยอมให

                                  (๓)  ยอมจะรับ หมายถึง ตกลงที่จะเอาไวหรือรับไวซึ่งทรัพยสินหรือประโยชนอื่นใด
                 ในอนาคต

                                  การเรียก รับ หรือยอมจะรับนี้ จะตองเปนการกระทําโดยมิชอบ คือไมมีอํานาจ
                 โดยชอบดวยกฎหมาย กฎ ขอบังคับ หรือระเบียบแบบแผน ที่จะเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพยสินหรือ
                 ประโยชนเชนนั้นได และการเรียก รับ หรือยอมจะรับนี้ จะกระทําสําหรับตนเองหรือสําหรับผูอื่นก็ผิดทั้งสิ้น

                                  à¨μ¹Ò การเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพยสินหรือประโยชนอื่นใด ผูกระทําตอง
                 กระทําโดยเจตนาตามมาตรา ๕๙

                                  à¾×èÍ¡ÃзíÒ¡ÒÃËÃ×ÍäÁ‹¡ÃÐทํา¡ÒÃÍ‹ҧã´ã¹ตําá˹‹§äÁ‹Ç‹Ò¡ÒùÑ鹨ЪͺËÃ×Í
                 äÁ‹ªÍº´ŒÇÂ˹ŒÒ·Õè  องคประกอบนี้เปนมูลเหตุชักจูงใจหรือเจตนาพิเศษของการกระทํา คือนอกจาก
                 ผูกระทําผิดจะตองมีเจตนาตามมาตรา ๕๙ แลว ก็จะตองมีเจตนาพิเศษขอนี้ดวย จึงจะผิดตามมาตรานี้

                 และเมื่อองคประกอบนี้เปนเพียงมูลเหตุชักจูงใจก็ไมจําเปนวาจะไดมีการกระทําหรือไม กระทําการใน
                 ตําแหนงตามมูลเหตุชักจูงใจนั้นหรือไม มูลเหตุชักจูงใจนี้อาจแยกไดเปน ๒ ประการ คือ (๑) เพื่อกระทํา

                 การอยางใดในตําแหนงไมวาการนั้นจะชอบหรือไมชอบดวยหนาที่ หรือ (๒) เพื่อไมกระทําการอยางใด
                 ในตําแหนงไมวาการนั้นจะชอบหรือไมชอบดวยหนาที่
                                  (๑)  เพื่อกระทําการอยางใดในตําแหนงไมวาการนั้นจะชอบหรือไมชอบดวยหนาที่

                 คือ ผูกระทํามีความมุงหมายหรือตั้งใจจะกระทําการอยางใดในตําแหนงหนาที่ของตน สวนการที่ตั้งใจ
                 กระทํานั้น จะชอบหรือไมชอบดวยหนาที่ ไมใชขอสําคัญ เชน เจาอาวาสเรียกเงินสินบนในการใหเชา

                 ที่ของวัด
                                  แตถาผูกระทําไมมีความมุงหมายเชนนี้ หรือเปนการกระทําที่อยูนอกขอบเขตอํานาจ
                 หนาที่ ก็ไมผิดตามมาตรานี้

                                  ®Õ¡Ò·Õè ùðù/òõðñ  สารวัตรศึกษาประจําอําเภอไมมีหนาที่ในการออกบัตรประจําตัว
                 ประชาชน ถาชวยใหผูที่มาขอไดรับบัตรนั้นไปจากเจาหนาที่ โดยรับเงินตอบแทนก็ไมผิดฐานรับสินบน

                                  ®Õ¡Ò·Õè ñöõñ/òõóò  จําเลยไดนําหนังสือมอบอํานาจของผูชวยหัวหนาเขตซึ่งมีถึง
                 สารวัตรใหญสถานีตํารวจนครบาลขอใหดําเนินคดีแก ม. ตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.๒๕๒๒
                 มาตรา ๗๐ ไปแจงความและมอบหนังสือมอบอํานาจใหแกพนักงานสอบสวนแลวจําเลยยอมหมดหนาที่

                 การที่จําเลยเรียกและรับเงินจาก ม. และแกไขเอกสารดังกลาวในภายหลังเปนการกระทํานอก
                 ตําแหนงหนาที่ราชการ มิใชในฐานะเปนเจาพนักงาน มีหนาที่ตองปฏิบัติหรือละเวนหนาที่โดยมิชอบ

                 จําเลยจึงไมมีความผิดตาม ป.อ.มาตรา ๑๔๙
   193   194   195   196   197   198   199   200   201   202   203