Page 201 - 08_กฎหมายอาญา_Neat
P. 201
๑๘๘
กักขังตามคําสั่งนายตํารวจปลอยผูตองกักขังและเปลี่ยนตัวผูอื่นแทน เจาพนักงานที่ดินบันทึกในคําขอ
รับรองการทําประโยชนวาลักษณะของดินเหมาะแกการทํานาปลูกขาวซึ่งไมเปนความจริง พนักงาน
สอบสวนหนวงเหนี่ยวการประกันตัวผูตองหาใหดําเนินไปอยางเชื่องชา เหลานี้ถือเปนความผิดตาม
มาตรา ๑๕๗ แตการที่เจาอาวาสทําการสอบสวนพระภิกษุซึ่งถูกกลาวหาวากระทําผิดวินัย โดยไม
ปฏิบัติใหถูกตองตามพระธรรมวินัย ระเบียบขอบังคับและกฎของมหาเถรสมาคมยังไมเปนความผิดตาม
มาตรานี้
à¨μ¹Ò เจาพนักงานซึ่งปฏิบัติหรือละเวนการปฏิบัติหนาที่โดยมิชอบนั้นตองมีเจตนา
ตามมาตรา ๕๙
®Õ¡Ò·Õè óöô/òõóñ ปกติการทํารายรางกายไมเกี่ยวกับตําแหนงหนาที่ของ
เจาหนาที่ตํารวจ การที่จําเลยเปนเจาพนักงานตํารวจจับโจทกขอหาวิ่งราวทรัพย แลวทํารายรางกายโจทก
โดยเจตนาทํารายธรรมดา มิใชเพื่อประสงคจะใหเกิดผลอันใดในการปฏิบัติการตามหนาที่ เพราะจําเลย
จับโจทกไดแลว และจําเลยมิใชพนักงานสอบสวนที่ทํารายโจทกเพื่อประสงคจะใหโจทกรับสารภาพ
กรณีจึงมิใชเปนการปฏิบัติหนาที่โดยมิชอบเพื่อใหเกิดความเสียหายแกโจทกตาม ป.อ.มาตรา ๑๕๗
เมื่อโจทกไดรับอันตรายแกกายจากการกระทําของจําเลย จําเลยมีความผิดตามมาตรา ๒๙๕
à¾×èÍãËŒà¡Ô´¤ÇÒÁàÊÕÂËÒÂá¡‹¼ÙŒË¹Ö觼ٌ㴠เปนมูลเหตุชักจูงใจในการกระทํา คือตอง
กระทําโดยมุงหมายที่จะใหเกิดความเสียหายแกผูอื่น ถาเปนเจาพนักงานปฏิบัติหนาที่โดยมิชอบแตมิได
กระทําเพื่อใหเกิดความเสียหายแกผูหนึ่งผูใดก็ไมเปนความผิดตามมาตรา ๑๕๗
ÍØ·ÒËó
®Õ¡Ò·Õè öñøõ/òõóñ จําเลยไดรับแตงตั้งใหเปนผูชวยนายทะเบียนทองถิ่น
มีอํานาจหนาที่เกี่ยวกับการรับแจงการยายเขา ไดกรอกขอความเพิ่มชื่อ ศ. ลงในสําเนาทะเบียนบานฉบับ
เจาบานโดยไมมีใบแจงการยายออกถือไดวาจําเลยเปนเจาพนักงานปฏิบัติหนาที่โดยมิชอบ แตเมื่อการ
เพิ่มเติมทะเบียนบานดังกลาว จําเลยมิไดกระทําเพื่อใหเกิดความเสียหายแกผูหนึ่งผูใด ทั้งไมไดความ
วาจําเลยกระทําไปโดยทุจริต การกระทําของจําเลยจึงไมเปนความผิดตาม ป.อ.มาตรา ๑๕๗
แตการที่จําเลยเพิ่มชื่อ ศ. ลงในทะเบียนบานดังกลาว โดยระบุวายายมาจากบานเลขที่
๒๐/๑ เขตปอมปราบศัตรูพาย และลงชื่อรับรองไว ซึ่งเปนความเท็จ การกระทําของจําเลยจึงเปนการ
รับรองเปนหลักฐานวาไดมีการแจงชื่อขอความอันมิไดมีการแจงดังบัญญัติไวในมาตรา ๑๖๒ (๒)
แหงประมวลกฎหมายอาญา และการที่จําเลยเพิ่มชื่อ ศ. เขาในทะเบียนบานดังกลาวโดยลงชื่อกํากับไว
เปนการรับรองขอเท็จจริงในเอกสารนั้นวาเปนความจริงตามที่จําเลยระบุเพิ่มเติมไว การกระทําของ
จําเลยจึงเปนการรับรองเปนหลักฐานซึ่งขอเท็จจริงอันเอกสารนั้นมุงพิสูจนความจริงอันเปนเท็จ
ดังบัญญัติไวในมาตรา ๑๖๒ (๔) แหงประมวลกฎหมายอาญาดวย แมจําเลยจะกระทําไปโดยไมทุจริต
และไมเกิดความเสียหาย ก็เปนความผิดตาม ป.อ.มาตรา ๑๖๒ (๒) (๔)