Page 534 - 08_กฎหมายอาญา_Neat
P. 534
๕๒๑
เวนแตจะยื่นใหอานตอหนา เหตุที่ไมเปนนั้นนาจะอยูที่วา เพราะจําเลยมิไดอยูตอหนาหรือใกลผูเสียหาย
ในขณะเกิดเหตุมากกวา เพราะเวลาที่เขียนจดหมายกับเวลาที่โจทกรับจดหมายตางกัน สมมุติวาแทนที่
จําเลยจะสงจดหมายไปดาโจทก จําเลยโทรศัพทไปดาเชนนี้เวลาที่จําเลยดากับที่โจทกรับโทรศัพท
คงไมตางกัน แตถาโจทกจําเลยอยูหางไกลกันจนตองใชโทรศัพทก็นาจะไมเปนการดูหมิ่นซึ่งหนาเชนกัน
ความผิดฐานดูหมิ่นซึ่งหนานี้ ผูที่กระทําตองมีเจตนา ดังนั้น ถึงแมวาจะมีการดูหมิ่น
แตถาผูดูหมิ่นไมรูวาผูถูกดูหมิ่นอยู “ซึ่งหนา” แลว ก็ยังไมมีความผิด
ÍØ·ÒËó
®Õ¡Ò·Õè òõù/òõñô จําเลยกลาวดูหมิ่นซึ่งหนาผูเสียหายขณะที่ผูเสียหายอยูหาง ๑๐ วา
และจําเลยไมรูวาผูเสียหายแอบอยูที่นั่น จําเลยยังไมมีความผิดฐานดูหมิ่นซึ่งหนาตามประมวลกฎหมาย
อาญามาตรา ๓๙๓
โฆษณา สําหรับการดูหมิ่นผูอื่นดวยการโฆษณา ศาลฎีกาไดอรรถาธิบายไวในคําพิพากษา
ฎีกาที่ ๑๐๕๓/๒๕๐๗ วาคําวา “โฆษณา” ตามพจนานุกรมหมายความวาการปาวรอง จึงแสดงใหเห็น
วาการดูหมิ่นดวยการโฆษณาตาม ป.อ.มาตรา ๓๙๓ นี้ มีความหมายถึงการดูหมิ่นในลักษณะการใหรู
กันหลายๆ คนไมใชพูดกันตัวตอตัว
ÍØ·ÒËó
(ñ) ®Õ¡Ò·Õè óöô/òôøõ การสงคําดูหมิ่นทางจดหมายโดยสงถึงบุคคลเฉพาะตัว
ไมประสงคจะใหเปดเผย หาเปนดูหมิ่นดวยการโฆษณาไม
(ò) ®Õ¡Ò·Õè ñðõó/òõð÷ จําเลยกลาวตอเด็กรับใชในบานผูเสียหายวา “ใหไปบอก
อายเหี้ย อีเหี้ยนายของมึงสองคน อยามาวาอะไรกูมากนักประเดี๋ยวกูทนไมไดจะเอาเรื่องอีก” ดังนี้
เปนการสั่งฝากไปบอกผูเสียหายในลักษณะพูดกันตัวตอตัว โดยไมปรากฏวาจําเลยไดกลาวตอ
บุคคลอื่นอีก จึงไมเปนการดูหมิ่นดวยการโฆษณา
(ó) ®Õ¡Ò·Õè ññðõ/òõñù บรรณาธิการหนังสือพิมพลงขอความวา ต.ตะโกนกลางตลาด
วาจะถอดรองเทาตบหนา ส. เปนขอความที่ทําให ส. บังเกิดความอับอายและเมื่อขอความดังกลาวนี้
จําเลยเปนผูทําใหเกิดขึ้นปรากฏแกคนทั้งหลายในหนังสือพิมพ จึงเปนการดูหมิ่น ส. ดวยการโฆษณา
การดูหมิ่นดวยการโฆษณาตองมีลักษณะของการปาวรองใหคนหลายๆ คนรูในบางกรณี
การกลาวคําดูหมิ่นตอหนาคนเพียง ๒ คน ก็เพียงพอที่จะถือวาเปนการโฆษณาแลว
¤ÇÒÁáμ¡μ‹Ò§ÃÐËNjҧ¤ÇÒÁ¼Ô´°Ò¹´ÙËÁÔ蹫Öè§Ë¹ŒÒ¡Ñº¤ÇÒÁ¼Ô´°Ò¹ËÁÔè¹»ÃÐÁÒ·
ñ. ¡ÒôÙËÁÔè¹à»š¹àÃ×èͧ¢Í§¡ÒÃʺ»ÃÐÁÒ· ดูถูกเหยียดหยามหรือดาทอใหไดรับ
ความอับอายเสียหาย ซึ่งหมายความวาผูดูหมิ่นไดกระทําตอผูถูกดูหมิ่นโดยตรงโดยดูถูกเหยียดหยาม
หรือดาทอผูถูกดูหมิ่นใหอับอายหรือเสียหาย แตการหมิ่นประมาทเปนเรื่องที่ผูกระทําไปใสความ
ตอบุคคลที่สาม โดยประการที่นาจะทําใหผูถูกใสความเสียชื่อเสียงหรือถูกบุคคลที่สามดูหมิ่นเกลียดชัง
การหมิ่นประมาทจึงตองมีบุคคลที่สามเขามาเกี่ยวของดวย โดยเปนผูรับฟงหรือรับรูการใสความ
ในขณะที่การดูหมิ่น ซึ่งหนาเปนเรื่องเฉพาะระหวางผูดูหมิ่นกับผูถูกดูหมิ่นที่อยูตอหนากัน

